'ฐาปน' ชูทีมไทยแลนด์ ผ่านเครือข่าย 'ซัพพลายเชน' หนุนธุรกิจ-โลกยั่งยืน
"ฐาปน" แม่ทัพใหญ่ไทยเบฟเวอเรจ เดินหน้าสานภารกิจการพัฒยนาอย่างยั่งยืน ย้ำธุรกิจจะอยู่รอดเพื่อความยั่งยื่นต้อง "ตื่นรู้-มีสติ-ปรับตัว" ตลอดเวลา พร้อมกันนี้รวมพลังทีมไทยแลนด์ ผนึกเครือข่ายซัพพลายเชนหรือ TSCN สร้างผลกระทบเชิงบวกต่อโลกไปพร้อมๆกัน
ตลอดการจัดงาน Sustainability Expo 2023 (SX 2023) มหกรรมด้านความยั่งยืนใหญ่สุดในอาเซียน มีเรื่องราวการรักษ์โลก ทำสิ่งต่างๆที่ช่วยสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อโลก มากมายหลายมิติ
นอกจากนี้ ยังมีบรรดาแม่ทัพธุรกิจขึ้นเวทีฉายภาพแนวทางการขับเคลื่อนความยั่งยืน การปรับตัวในการทำธุรกิจบนโลกที่เต็มไปด้วยความท้าทาย ตลอดจนความพยายามร่วมไม้ร่วมมือกับพันธมิตร เพิ่มพลังในการสรรค์สร้างสิ่งที่ดีต่อโลก
ในส่วนของ SX Partnerships for the Goals : TSCN Business Partner Conference 2023 ซึ่งเป็นช่วงของ CEO Panel ที่ “ผู้นำ” องค์กรยักษ์ใหญ่ ได้แก่ รุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่เอสซีจี, ศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด หรือ ซีพี และ ฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด(มหาชน) มาฉายภาพธุรกิจผ่านหัวข้อ “ปรับตัวอย่างไรให้อยู่รอดอย่างยั่งยืน”
“ฐาปน” ตอกย้ำการจัดงาน SX2023 เป็นภารกิจที่ทำต่อเนื่องมา 4 ปีแล้ว ซึ่งปีนี้เห็นสัญญาณชัดว่าทุกฝ่ายให้ความสนใจ พร้อมกับการเรียนรู้ นำไปสู่การลงมือทำ ซึ่งเป็นนิมิตรหมายที่ดีมาก
นอกจากนี้ เยาวชนสนใจเข้ามาเยี่ยมชมงานจำนวนมาก โดยเฉพาะอายุ 18-35 ปี มีสัดส่วนมากกว่า 60% ทำให้เกิดการเรียนรู้เรื่องราวต่างๆนานาที่ถูกขับเคลื่อนนั้นจะส่งผลกระทบต่อโลกในอนาคตอย่างไร แล้วพวกเขาเหล่านั้นจะได้รับผลกระทบอะไรบ้าง
ไทยเบฟ แม้จะเป็นองค์กรยักษ์ใหญ่ระดับแสนล้านบาท ทว่า บนเวทีเทียบกับเอสซีจี เครือซีพี ไทยเบฟยังเป็นน้องเล็ก แต่ทุกบริษัทล้วนเป็นหนึ่งในฟันเฟืองช่วยสร้างเศรษฐกิจ สังคมไทยให้แข็งแกร่ง และยังยกระดับการขยายกิจการไปสู่ภูมิภาคอาเซียน การค้าขายในระดับนานาชาติด้วย
ธุรกิจต้องขยับขยาย แต่อีกด้านการอยู่รอดอย่างยั่งยืนได้ในอนาคต ต้องมีวิธีการคิดหลายเรื่อง ซึ่ง 3 คำสำคัญที่จะช่วยประคองกิจการ ประกอบด้วย วิ่ง ซ่อน สู้
ความหมายของการ “วิ่ง” คือการตื่นรู้ เพื่อต่อกรกับ “ดิสรัปชั่น” มากมาย การทำธุรกิจจะวิ่งฝ่าพายุความเปลี่ยนแปลงต่างๆ ได้จะต้องเข้าใจ “เมกะเทรนด์” ผู้บริโภค คนส่วนใหญ่ไปทิศทางไหน
“การทำธุรกิจไม่ใช่วิ่งไปทางไหนก็ได้ แต่เราต้องตื่นรู้ เข้าใจเมกะเทรนด์ตลาดหรือผู้บริโภค”
ส่นการ “ซ่อน” สะท้อนการมีสติหลังจากตื่นรู้แล้ว การมีสติ ความคิดที่ดี คิดครบถ้วน วิเคราะห์ อย่างเวลานี้ธุรกิจต้องมองและสนใจเรื่อง “ความยั่งยืน” ประกบคู่การขับเคลื่อนกิจการให้เติบโต
สุดท้าย “สู้” หมายถึงการ “ปรับตัว” อย่างแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนที่พยายามทำอยู่ผ่านงาน SX2023 ที่เลือกมิติการรวมกลุ่มกันกับผู้ประกอบการในห่วงโซ่การผลิตหรือซัพพลายเชน ภายใต้เครือข่ายธุรกิจห่วงโซ่อุปทานแห่งประเทศไทย (Thailand Supply Chain Network : TSCN) เรียนรู้จากพันธมิตร องค์กรธุรกิจชั้นนำ ที่ตระหนักทำธุรกิจอย่างยั่งยืน เช่น บมจ.อินโดรามา เป็นต้น โดยเชื่อมั่นว่าเครือข่ายซัพพลายเชน คือพลังสำคัญในการขับเคลื่อนความยั่งยืนไปข้างหน้า
“มองว่าการอยู่รอดเพื่อความยั่งยื่นต้องตื่นรู้ มีสติและปรับตัวตลอดเวลา อย่างการสู้เราต้องรู้สู้มากน้อยแค่ไหน สู้อย่างไร รวมกลุ่มกันหรือจับมือกันอย่างไร เป็นต้น”
อย่างไรก็ตาม การบริหารธุรกิจสร้างความยั่งยืนมีหลายสโคป ที่ต้องติดตามคือ บริษัทเล็กใหญ่ต่างๆ ตลอดจนผู้ประกอบการในซัพพลายเชน เมื่อรู้ทิศทางในอนาคต มีความสนใจประเด็นสร้างผลกระทบเชิงบวกให้โลกแล้ว สิ่งสำคัญคือ นำกลับมาพัฒนา ปรับใช้ หรือเปลี่ยนรูปแบบการทำงานในบริษัทมากน้อยแค่ไหน
“วันนี้เศรษฐกิจไทยมีความเชื่อมโยงภูมิภาค ผ่านความร่วมมือเศรษฐกิจทางการค้าระหว่างประเทศ หรืออาเซียนบวกต่างๆ(เช่น อาเซียนบวก3 อาเซียนบวก 6) สะท้นมีโอกาสมากมาย หากเราเป็นหนึ่งในผู้ประกอบการซัพพลายเชน มาขยับตัวสร้างความยั่งยืน สร้างการเติบโตไปด้วยกันเป็นทีมไทยแลนด์”