'บาฟส์' ชี้ SAF ทางออกสายการบิน พร้อมทำหน้าที่การันตีน้ำมันทุกหยด
"บาฟส์" ระบุ เชื้อเพลิง SAF ต้องถูกบังคับใช้แข่งขันทั่วโลก ธุรกิจการบินต้องเร่งปรับตัวรับกฏกติกาโลก ชี้เชื้อเพลิงชีวมวลลดคาร์บอนไม่เท่ากัน พร้อมทำหน้าที่การันตีคุณภาพเชื้อเพลิงแหล่งที่มาของน้ำมันทุกหยด
กลุ่ม บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) จัดงานสัมมนา Bangchak Group Greenovative Forum ครั้งที่ 13 “Regenerative Fuels: Sustainable Mobility” เมื่อวันที่ 23 พ.ย.2566 เพื่อนำเสนอแนวทางการขับเคลื่อนเชื้อเพลิงชีวภาพเพื่อลดการปล่อยก๊าซ
หม่อมหลวงณัฐสิทธิ์ ดิศกุล กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BAFS กล่าวในเวทีเสวนาหัวข้อ “Pioneering Sustainable Aerospace: พลิกโฉมน่านฟ้า สู่การบินยั่งยืน” ว่า ธุรกิจการบินเป็นธุรกิจสำคัญต่อเศรษฐกิจและการเติบโตของโลก โดยเชื่อมโยงทั้งเศรษฐกิจและสังคมเข้าร่วมกัน
อย่างไรก็ตาม ในช่วงโควิดที่ผ่านมา ธุรกิจการบินต้องชะลอตัวอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งพอโควิดคลี่คลายธุรกิจการบินกลับเติบโตขึ้นมาอีกครั้ง จะเห็นได้ว่าอินเดียมีการสั่งเครื่องบินกว่า 500 ลำ ดังนั้น ทิศทางธุรกิจการบินจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่ปัญหาหลักคือ จะทำอย่างไรให้ธุรกิจการบินมีการลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
นอกจากนี้ จากการใช้พลังงานในรูปแบบของแบตเตอรี่ก็คงจะยาก เพราะมีข้อจำกัดในเรื่องของน้ำหนัก จึงต้องมาในรูปแบบของเหลว ดังนั้น เชื้อเพลิงอากาศยานชีวภาพแบบยั่งยืน (Sustainable Aviation Fuel) หรือ SAF จึงสามารถทำได้ทันที จากการที่บาฟส์ดำเนินธุรกิจเสมือนเด็กปั๊มคอยเติมเชื้อเพลิงให้กับเครื่องบินจึงมีหน้าที่ทดลองอุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพ เมื่อก่อนเชื้อเพลิงสะอาดมาจากไบโอเจ็ต แต่ปัจจุบันถือว่าไม่เพียงพอเพราะต้องมีเรื่องของความยั่งยืน
“ธุรกิจการบินสำคัญมาก ซึ่งมนุษย์หนีไม่ได้ วันนี้ต้องเร่งพัฒนา SAF ให้มากที่สุด ปัญหาคือซัพพลายเพราะแหล่งผลิตยังไม่เพียงพอ ถือเป็นเรื่องดีที่กลุ่มบางจากได้ลงทุน SAF”
อย่างไรก็ตาม ดีมานด์ธุรกิจการบินของไทยที่จดทะเบียนในไทยแต่แข่งขันกับต่างชาติอยู่ดี สหภาพยุโรปได้ออกกฏบังคับใช้ วันที่ 1 ม.ค. 2567 ว่าสายการบินที่บินในอียูต้องเติมเชื้อเพลิง SAF 2% ผู้ค้าน้ำมันต้องจัดหา สายการบินจึงมีต้นทุน การจะกำหนดกฏกติกาให้มีความเป็นธรรมกับสายการบินกว่า 500 เที่ยวต่อปีที่บินในอียูต้องเติม 2% จึงต้องแข่งขัน
ดังนั้น เรื่องของ SAF คงหนีไม่พ้นการถูกบังคับใช้ การแข่งขันจึงต้องใช้เท่ากันทั้งโลก ในฐานะนักเดินทางตั๋วเครื่องบินอาจกำหนดว่าเป็นเที่ยวบินคาร์บอนต่ำ ที่สามารถการันตีได้ และมาจาก SAF เพราะที่มาของเชื้อเพลิงชีวมวล ลดคาร์บอนไม่เท่ากัน นอกจากนี้ ยังรวมถึงในเรื่องของแหล่งที่มา การรับรองคุณภาพจึงสำคัญ หน้าที่ของบาฟส์จึงต้องการันตีว่าน้ำมันทุกหยดมีคุณภาพ
“เมื่อประเทศไทยมีแหล่งผลิต SAF อนาคตจะต้องมีสารตั้งต้นการผลิตที่หลากหลาย ซึ่งบาฟส์จะต้องนำส่วนผสมมาเบลนด์และตรวจสอบคุณภาพ ดังนั้น แหล่งเบลนด์ต้องอยู่ในโลเคชั่นที่เหมาะสม ทั้งการขนส่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตอบโจทย์ประเทศไทย”