การก้าวสู่เป้าหมาย Net Zero ด้วยนวัตกรรมโซลูชันข้อมูล
ทำความรู้จัก "SiGREEN" นวัตกรรมซอฟต์แวร์จาก "ซีเมนส์" ตัวช่วยลดความซับซ้อนในการคำนวณและจัดการคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์อย่างมีประสิทธิภาพ มุ่งผลักดันธุรกิจและประเทศสู่เป้าหมาย Net Zero
ในโลกปัจจุบัน ความยั่งยืนไม่ได้เป็นเพียงคำที่นิยมพูดถึงในโลกธุรกิจเพียงชั่วครั้งชั่วคราว แต่เป็นส่วนสำคัญของการวางแผนกลยุทธ์ที่จำเป็นสำหรับความสำเร็จในระยะยาวของธุรกิจ ด้วยการที่กฎเกณฑ์ข้อบังคับเกี่ยวกับความยั่งยืนกำลังกลายเป็นมาตรฐานที่เข้มงวดขึ้นในระดับโลก ประกอบกับการรับรู้ของผู้บริโภคเกี่ยวกับผลกระทบต่อสภาพอากาศของผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มสูงขึ้น ผู้ประกอบการจึงถูกผลักดันให้ปฏิบัติการอย่างยั่งยืนเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์
ในการบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซฯ เป็นศูนย์นี้ กิจกรรมที่สำคัญมากเป็นลำดับต้นๆ คือการ ลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ ของผลิตภัณฑ์ (Product Carbon Footprint หรือ PCF) ซึ่งหมายถึงปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยออกมาจากผลิตภัณฑ์แต่ละหน่วย ตลอดวงจรชีวิตของผลิตภัณฑ์ ตั้งแต่การได้มาซึ่งวัตถุดิบ กระบวนการผลิตหรือการประกอบชิ้นงาน การกระจายสินค้า การใช้งาน และการจัดการของเสียหลังหมดอายุการใช้งาน รวมถึงการขนส่งที่เกี่ยวข้อง (1)
โดยในการที่ผู้ประกอบการจะสามารถลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้ประกอบการต้องมีความเข้าใจตัวชี้วัดและกระบวนการของการเกิดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ว่ามาจากที่ไหนและจากกิจกรรมใด
การคำนวณคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์เริ่มต้นด้วยข้อมูลที่ถูกต้อง
ภารกิจเริ่มต้นที่สำคัญคือ การรวบรวมข้อมูลที่ถูกต้องสำหรับการคำนวณคาร์บอนฟุตพริ้นท์ซึ่งอาจจะดูเหมือนง่าย แต่ในความเป็นจริงภารกิจนี้ มีความท้าทายและซับซ้อนเป็นอย่างมาก เนื่องจากในภาคธุรกิจจำนวนการปล่อยก๊าซฯ สูงสุดถึง 90% ไม่ได้เกิดขึ้นภายในกระบวนการผลิตโดยตรง แต่มาจากห่วงโซ่อุปทานซึ่งมักจะครอบคลุมขอบเขตที่กว้างขวางและบ่อยครั้งเป็นเครือข่ายโยงใยกระจายทั่วโลกทำให้ยากต่อการเก็บรวบรวม ความท้าทายหลักๆ อาทิ
- ความซับซ้อนของห่วงโซ่อุปทาน : ห่วงโซ่อุปทานจากโลกาภิวัตน์ที่มีเครือข่ายกระจายและโยงใยทั่วโลกทำให้การรวบรวมข้อมูลของการปล่อยก๊าซฯทางอ้อม (indirection emission) เป็นกิจกรรมที่มีความยุ่งยากซับซ้อน
- ความหลากหลายและปริมาณข้อมูล : ข้อมูลที่ต้องครอบคลุมเริ่มต้นตั้งแต่การจัดหาวัตถุดิบไปจนสิ้นสุดวงจรชีวิตของผลิตภัณฑ์ซึ่งหมายถึงจำนวนข้อมูลมหาศาล อีกทั้งข้อมูลยังมีความหลายหลาย มีความแตกต่างกันทั้งรูปแบบและคุณภาพของข้อมูล
- มาตรฐานในการคำนวณคาร์บอนฟุตพริ้นท์ : ปัจจุบันยังไม่มีมาตรฐานสากลที่เป็นหนึ่งเดียวทั่วโลกสำหรับการคำนวณคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ ทำให้ยากต่อการเปรียบเทียบและการประเมินผลอย่างมีประสิทธิภาพ
การเปลี่ยนแปลงของกฎระเบียบและความคาดหวังของผู้บริโภค ซึ่งเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องทำให้การติดตามการเปลี่ยนแปลงของกรอบการกำกับดูแลและความคาดหวังของผู้บริโภคเป็นอีกภารกิจที่ผู้ประกอบการต้องให้ความสำคัญ
แนวทางในการวัดค่าและจัดการคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์
เพื่อให้การวัดค่าและการจัดการคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ PCF มีประสิทธิภาพ ผู้ประกอบการควรคำนึงถึง
- การเสริมสร้างความร่วมมือและความโปร่งใส : การสร้างเครือข่ายความร่วมมือที่แข็งแรงระหว่างผู้เกี่ยวข้อง ตั้งแต่ซัพพลายเออร์ ผู้ผลิต ผู้จัดจำหน่าย ฯลฯ เพื่อปรับปรุงและส่งเสริมการแบ่งปันข้อมูลอย่างโปร่งใส
- การจัดการข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ : การบริหารจัดการระบบที่มีประสิทธิภาพสำหรับการเก็บรวบรวมข้อมูลอย่างครอบคลุมและสม่ำเสมอตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทาน
- การผสานเทคโนโลยี : การนำเอาเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น Digital Twin, AI, IoT มาใช้ในการติดตามและวิเคราะห์การปล่อยก๊าซฯ
- การใช้มาตรฐานคาร์บอนฟุตพริ้นท์ที่เป็นที่ยอมรับ : เพื่อให้มีความสม่ำเสมอและได้มาตรฐานในการเปรียบเทียบ
SiGREEN จากซีเมนส์
ซีเมนส์ มุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อความยั่งยืน โดย SiGREEN เป็นนวัตกรรมซอฟต์แวร์ที่ออกแบบมาเพื่อสนับสนุนการแบ่งปันข้อมูลและเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างผู้เกี่ยวข้องตลอดห่วงโซ่อุปทาน ช่วยลดความซับซ้อนในการคำนวณและจัดการคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์
หลักการและประโยชน์ของ SiGREEN
SiGREEN ช่วยบริหารจัดการความซับซ้อนของการคำนวณ การปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพิ่มความสะดวกและประสิทธิภาพในการจัดการคาร์บอนฟุตพริ้นท์ โดยให้ความสำคัญกับความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ และความร่วมมือกันระหว่างผู้เกี่ยวข้องในห่วงโซ่อุปทานซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญสำหรับธุรกิจที่ต้องรับมือกับความซับซ้อนของแนวทางการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน มุ่งหน้าสู่การลดการปล่อยก๊าซฯเป็นศูนย์
SiGREEN นำเสนอ
- การผสานข้อมูลแบบไดนามิก : แทนที่จะใช้เทคนิคการคำนวณการปล่อยก๊าซฯ แบบคงที่โดยใช้ค่าเฉลี่ย SiGREEN นำเสนอข้อมูลที่อัปเดทอยู่เสมอ (dynamic) ช่วยให้ประเมินผลของมาตรการลดการปล่อยก๊าซรวดเร็วและแม่นยำขึ้น ผลลัพธ์ที่ได้คือข้อมูล คาร์บอนฟุตพริ้นท์แบบไดนามิกเช่นกัน
- อธิปไตยและการปกป้องข้อมูล : มั่นใจได้ในความถูกต้องและความปลอดภัยของข้อมูล เสริมสร้างความเชื่อมั่นในหมู่ผู้ใช้งาน
- ผลลัพธ์สามารถตรวจสอบได้และเป็นมาตรฐาน : ปฏิบัติตามมาตรฐานการคำนวณคาร์บอนที่ได้รับการยอมรับ สามารถตรวจสอบได้ตลอดห่วงโซ่คุณค่า
การขับเคลื่อนความยั่งยืนไปข้างหน้า
สำหรับธุรกิจเส้นทางสู่ความยั่งยืนไม่ใช่เพียงเพื่อการปฏิบัติตามกฎระเบียบเท่านั้น แต่ยังเป็นการเปิดโลกสู่การยอมรับนวัตกรรมใหม่ๆ สร้างความยืดหยุ่นและโอกาสในการปรับตัวให้องค์กรและธรุกิจเพื่อให้สามารถแข่งขันได้
การตัดสินใจว่าจะใช้เครื่องมือใดเพื่อมุ่งสู่ความยั่งยืน ควรพิจารณาว่าเครื่องมือนั้น สามารถช่วยธุรกิจลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้จริงและช่วยสร้างความยั่งยืนในวงกว้าง การเลือกเทคโนโลยีและเครื่องมือที่เหมาะสมจะมีส่วนสำคัญในการสร้างความแตกต่างในการแข่งขัน ช่วยให้องค์กรลดการปล่อยก๊าซฯได้อย่างมีประสิทธิภาพ เดินหน้าสู่อนาคตที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง
ข้อมูลอ้างอิง
(1) การประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ (CARBON FOOTPRINT OF PRODUCT)