'กนอ.-สกพอ.' ทุ่ม 2.5 พันล้าน เปิดนิคมฯ สีเขียว 5 พันไร่ แห่งแรกในไทย

'กนอ.-สกพอ.' ทุ่ม 2.5 พันล้าน เปิดนิคมฯ สีเขียว 5 พันไร่ แห่งแรกในไทย

"กนอ.-สกพอ." พัฒนานิคมอุตสาหกรรมสีเขียวแห่งแรกในไทย ภายใต้แนวคิดการพัฒนาที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รับการลงทุนแห่งอนาคต เงินลงทุนเบื้องต้น 2,000-2,500 ล้าน บนพื้นที่ 5,000 ไร่ ในจ.ชลบุรี คาดภายใน 2 ปีนี้ พร้อมเปิดให้บริการ

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ประธานกรรมการ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) กล่าวภายหลังเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนานิคมอุตสาหกรรม Circular ระหว่าง กนอ. และสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) ว่า ความร่วมมือของทั้งสองฝ่ายเกิดจากเจตนารมณ์ที่มุ่งมั่นให้เกิดโครงการนิคมฯ Circular ควบคู่กับการลงทุนในโครงการศูนย์ธุรกิจอีอีซี และเมืองใหม่น่าอยู่อัจฉริยะ (EEC Capital City) 

ภายใต้แนวคิดการพัฒนาที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งการขับเคลื่อนการพัฒนานิคมอุตสาหกรรม Circular แห่งแรกนี้ ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีต่อการนำแนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) มาประยุกต์ใช้กับการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมที่มุ่งเน้นด้านการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ส่งเสริมการ Recycle เพื่อลดการเกิดของเสีย และมุ่งสู่ความอย่างยั่งยืน

นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการ กนอ. กล่าวว่า กนอ. ในฐานะหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ สังกัดกระทรวงอุตสาหกรรมมีภารกิจหลักในการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรม จัดให้มีระบบสาธารณูปโภคและสาธารณูปการที่จำเป็นต่อการประกอบอุตสาหกรรม ซึ่งครอบคลุมถึงการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัย 

รวมถึงการบริหารจัดการนิคมอุตสาหกรรมให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สอดรับกับความต้องการของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและนักลงทุน พร้อมทั้งกระจายความเจริญไปสู่ภูมิภาค ขณะที่ สกพอ. ก็เป็นหน่วยงานของรัฐ มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการลงทุน ยกระดับนวัตกรรม และพัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูงในประเทศไทย 

สำหรับความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่ กนอ. และ สกพอ. จะร่วมกันสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาโครงการนิคมอุตสาหกรรม Circular โดยใช้ศักยภาพด้านการพัฒนาและบริหารจัดการนิคมอุตสาหกรรมของ กนอ. กับการสนับสนุนพื้นที่จากอีอีซี เพื่อเป็นพื้นที่เป้าหมายของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสีเขียวและเศรษฐกิจหมุนเวียน นับเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจหมุนเวียนในประเทศไทย เพื่อมุ่งสู่ความอย่างยั่งยืน เชื่อว่านิคมอุตสาหกรรม Circular จะสามารถดึงดูดนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ช่วยสร้างงาน สร้างรายได้ และกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศได้อย่างแน่นอน

"คาดจะใช้เวลาศึกษาและพัฒนารวม 2 ปี ก็จะสามารถเปิดให้บริการได้ เพราะปัจจุบันมีอุตสาหกรรมเป้าหมายต่างสนใจมาลงทุน เบื้องต้น สกพอ. จะหาพื้นที่ให้ระดับ 4-5 พันไร่ จากพื้นที่ 1.5 หมื่นไร่ เงินลงทุนเบื้องต้น 2,000-2,500 ล้านบาท ในจังหวัดชลบุรี โดยเชื่อว่าจะสามารถสร้างงาน สร้างเม็ดเงินลงทุนได้อีกมหาศาลในอนาคต"

นายจุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) กล่าวว่า การลงนามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือฯ ในครั้งนี้ ถือเป็นความร่วมมือที่สำคัญระหว่าง อีอีซี และ กนอ.เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนการเตรียมพื้นที่รองรับอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสีเขียวและเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular) ให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน จะสนับสนุนการใช้ประโยชน์ในที่ดินของโครงการศูนย์ธุรกิจอีอีซีและเมืองใหม่น่าอยู่อัจฉริยะ (EEC Capital City) 

รวมถึงพัฒนาศักยภาพความพร้อมเพื่อรองรับการลงทุนใหม่ ส่งเสริมและผลักดันให้เกิดการลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย โดยเฉพาะกลุ่มคลัสเตอร์ BCG และการพัฒนาอุตสาหกรรมหมุนเวียน Circular คาดว่าจะช่วยเสริมสร้างระบบนิเวศการลงทุนที่จะเกิดการใช้พลังงานสะอาด เพื่อดึงดูดนักลงทุนและประชากรเข้าสู่พื้นที่อีอีซี

ความร่วมมือนี้จะมุ่งเน้นสนับสนุนการพัฒนาโครงการนิคมอุตสาหกรรม Circular ของ กนอ. บนพื้นที่โครงการศูนย์ธุรกิจอีอีซีและเมืองใหม่น่าอยู่อัจฉริยะ (EEC Capital City) ส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย กิจกรรมที่เกี่ยวเนื่อง และสร้างระบบนิเวศทางธุรกิจ ยกระดับศักยภาพการแข่งขันระดับสากลของประเทศ โดย กนอ. จะจัดตั้งคณะทำงานขับเคลื่อนการพัฒนาโครงการนิคมอุตสาหกรรม Circular 

เพื่อศึกษาความเป็นไปได้และความเหมาะสมในการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรม พัฒนาบริหารการก่อสร้าง และกำกับดูแลโครงการนิคมอุตสาหกรรม Circular รวมถึงสนับสนุนข้อมูลที่เกี่ยวข้องแก่ สกพอ. ขณะที่ สกพอ. จะรับผิดชอบจัดหาที่ดินที่มีศักยภาพสำหรับการพัฒนาโครงการนิคมอุตสาหกรรม Circular สนับสนุนข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับโครงการศูนย์ธุรกิจอีอีซีและเมืองใหม่น่าอยู่อัจฉริยะ (EEC Capital City) แก่ กนอ. และร่วมมือกับ กนอ.ในการสื่อสารประชาสัมพันธ์โครงการต่อไป