‘เวียตเจ็ทไทยแลนด์’ นำร่องใช้ SAF เชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน เริ่ม ก.ค.67
‘เวียตเจ็ทไทยแลนด์’ นำร่องใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน หรือ SAF เป็นสายการบินต้นทุนต่ำเจ้าแรกในภูมิภาค สานต่อภารกิจอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนซึ่งเป็นพันธกิจหลักภายใต้กองทุนฟลายกรีน (Fly Green Fund) ของสายการบินฯ
นายวรเนติ หล้าพระบาง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เวียตเจ็ทไทยแลนด์ และ นายดิษทัต ปันยารชุน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนใหม่ บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ในการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน (SAF) ปฏิบัติการบินบนเส้นทางบินทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศของเวียตเจ็ทไทยแลนด์ เริ่มตั้งแต่เดือน กรกฎาคม พ.ศ. 2567 เป็นต้นไป
นายวรเนติ หล้าพระบาง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เวียตเจ็ทไทยแลนด์ กล่าวว่า การริเริ่มใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืนนี้เป็นแผนการดำเนินงานที่เป็นรูปธรรมของเวียตเจ็ทกรุ๊ป เน้นย้ำความมุ่งมั่นของเราในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมตามเป้าหมายการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี ค.ศ. 2050 ของประเทศไทย รวมถึงเป้าหมายขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ
นายดิษทัต ปันยารชุน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนใหม่ บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ความร่วมมือนี้เป็นการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน (SAF) ซึ่งผ่านกระบวนการผลิตโดยการใช้น้ำมันปรุงอาหารใช้แล้ว (UCO) ซึ่งสามารถผสมกับเชื้อเพลิงอากาศยานได้โดยไม่จำเป็นต้องปรับแต่งเครื่องยนต์ ความร่วมมือดังกล่าวสอดคล้องกับกลยุทธ์ OR SDG โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้าน “G” หรือ “Green” ที่ OR ให้ความสำคัญในการสร้างสังคมสีเขียวอย่างยั่งยืนเพื่อบรรลุเป้าหมายภายในปี 2030 ของ OR อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมกันนี้ OR สนับสนุนโครงการริเริ่มด้านพลังงานสะอาดตลอดมาโดยตลอด
“ทั้งนี้ ความร่วมมือระหว่าง OR และเวียตเจ็ทไทยแลนด์มีเป้าหมายหลักเพื่อเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมการบินโดยร่วมกันพัฒนาแหล่งพลังงานทางเลือกและเทคโนโลยีบุกเบิกสำหรับอากาศยานด้วยการผสมผสานความเชี่ยวชาญและทรัพยากรของเรา เราพร้อมที่จะสร้างอนาคตสีเขียวที่สะอาดและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โดยจะสร้างมาตรฐานใหม่ในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและยกระดับนวัตกรรมในอุตสาหกรรม”
ทั้งนี้ แม้ว่าน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน (SAF) จะมีต้นทุนสูงกว่าน้ำมันเชื้อเพลิงธรรมดาหลายเท่า แต่น้ำมัน SAF สามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 80% เมื่อเทียบกับน้ำมันเชื้อเพลิงธรรมดา โดยสามารถผสมกับน้ำมันเชื้อเพลิงธรรมดาในการการปฏิบัติการบินของอากาศยานได้อย่างปลอดภัยและราบรื่น
เวียตเจ็ทไทยแลนด์ได้ดำเนินโครงการและกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 5 ปี นับตั้งแต่ก่อตั้งกองทุนฟลายกรีน โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและสร้างสังคมสีเขียวผ่านกิจกรรมด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมโดยมีส่วนร่วมจากผู้โดยสาร พนักงานของสายการบินฯ และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในทุกภาคส่วน