'กลุ่มเซ็นทรัล' ผนึก 'ยูเอ็น' ปลุกพลังส่งต่อโลกน่าอยู่และยั่งยืนสู่คนรุ่นถัดไป
"กลุ่มเซ็นทรัล" ตัวแทนหนึ่งเดียวจากภาคเอกชนประเทศไทย ผนึก "ยูเอ็น" ปลุกพลัง "เซ็นทรัล กรุ๊ป เลิฟ ดิ เอิร์ธ" ส่งต่อโลกน่าอยู่และยั่งยืนสู่คนรุ่นถัดไป
วิกฤติด้านสิ่งแวดล้อมนับวันจะขยายความรุนแรงยิ่งขึ้น เป็นวาระเร่งด่วนของทุกภาคส่วนต้องตระหนักรู้และช่วยกันลดผลกระทบ ถือเป็นภารกิจสำคัญของ "กลุ่มเซ็นทรัล" และบริษัทในเครือ ในการร่วมฟื้นฟูระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพให้กลับมาสมบูรณ์มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อสร้างโลกสีเขียวที่สวยงาม น่าอยู่ และยั่งยืน พร้อมส่งต่อสู่คนรุ่นถัดไป
ในโอกาส วันสิ่งแวดล้อมโลก 5 มิถุนายน กลุ่มเซ็นทรัล และบริษัทในเครือ ในฐานะตัวแทนเพียงหนึ่งเดียวจากภาคเอกชนของประเทศไทยกับโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (United Nations Environment Programme) พร้อมด้วยศูนย์วนศาสตร์ชุมชนเพื่อคนกับป่า (RECOFTC) จัดงานสิ่งแวดล้อมโลก ภายใต้แคมเปญ "Central Group Love the Earth" ในธีม Generation Restoration หรือ "ส่งต่อโลกที่ยั่งยืนสู่เจเนอเรชันถัดไป" ซึ่งภายในงานนี้ยังจัดงานรูปแบบ Carbon Neutral Event ผ่านการคำนวณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและเชิญชวนผู้ร่วมงานร่วมมือกันชดเชยคาร์บอนสุทธิให้เป็นศูนย์แบบ Realtime ผ่าน Application CERO Carbon Wallet รวมทั้งเชิญชวนนำขวดเปล่ามาแลกเครื่องดื่มจากบูธร้าน good goods ฟรีในงาน เพื่อนำขวดเข้าโครงการ "ขวดเปล่าไม่สูญเปล่า #4 ทำเพื่อน้องสู้ภัยหนาว" อีกด้วย
พิชัย จิราธิวัฒน์ กรรมการบริหาร กลุ่มเซ็นทรัล กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มลพิษ ขยะ และการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ ล้วนเป็นภัยคุกคามต่ออนาคตของโลก ดังนั้น กลุ่มเซ็นทรัล มุ่งขับเคลื่อนองค์กรรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยให้ความสำคัญกับการลงมือปฏิบัติในการอนุรักษ์ ปกป้อง และแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม ภายใต้โครงการ "เซ็นทรัล ทำ" ซึ่งเป็นโครงการขับเคลื่อนด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนของกลุ่มเซ็นทรัล
กรอบการดำเนินงานของกลุ่มเซ็นทรัล ให้ความสำคัญกับมนุษย์ที่เป็นผู้ใช้ทรัพยากร ซึ่งเป็นผู้ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงจากรุ่นสู่รุ่น ตามแนวทาง Generation Restoration ที่มุ่งสู่ 2 เป้าหมายใหญ่คือ ฟื้นฟูระบบนิเวศที่เสื่อมโทรม ป้องกันและหยุดยั้งการเสื่อมโทรมของระบบนิเวศ โดยคนรุ่นปัจจุบันเพื่อโลกและคนรุ่นถัดไป ด้วยพันธกิจฟื้นฟูพื้นที่สีเขียวกว่า 50,000 ไร่ และลดปริมาณขยะสู่หลุมฝังกลบไม่น้อยกว่า 30% ภายในปี 2573
แนวทางฟื้นฟูที่ กลุ่มเซ็นทรัล ดำเนินงานตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน ต่อเนื่องถึงอนาคต มีหลากหลายโครงการที่เอื้อต่อความยั่งยืนทางธรรมชาติ เช่น Say No to Plastic Bags แคมเปญ Love the Earth เน้นฟื้นฟูพื้นที่สีเขียว Journey to Zero ลดขยะให้เหลือศูนย์ เริ่มที่ต้นทางโดยเฉพาะขยะพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง คัดแยก รีไซเคิล ลดปริมาณขยะลงสู่หลุมฝังกลบ
ในแง่ของโปรดักต์เน้นสินค้าที่ส่งผลต่อความยั่งยืน เช่น เลือกสินค้า Eco-products มีกระบวนการผลิตอย่างรับผิดชอบ สินค้าเกษตรอินทรีย์ หรือห่วงโซ่อุปทานที่ดีต่อสิ่งแวดล้อมกว่าเดิม เช่น ขนส่งโดยใช้พลังงานทางเลือก รถบรรทุกอีวี และโซลาร์เซลล์
ธุรกิจในกลุ่มเซ็นทรัลอย่างเครือข่ายห้างร้านค้าปลีกจำนวนมาก ภายใต้ บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นองค์กรค้าปลีกค้าส่งต้นแบบด้านความยั่งยืนแห่งเอเชีย มุ่งแก้ไข Climate Crisis ของโลก เดินหน้าสู่องค์กร Net Zero ภายในปี 2593 ผ่านกลยุทธ์ CRC "ReNEW" ด้วยแผนงานหลัก ได้แก่
- ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยใช้รถบรรทุกไฟฟ้าขนส่งสินค้ารวม 22 คันใช้อุปกรณ์ประหยัดพลังงานเช่น ติดตั้งระบบทำความเย็นอนุรักษ์พลังงานในซูเปอร์มาร์เก็ต 777 สาขา
- สร้างสังคมที่รับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยการสร้างทักษะและความพร้อมด้าน ESG ให้ผู้บริหารและพนักงานทุกระดับกว่า 24,000 คนผ่านโครงการ Future Skills Development และ Strategic Camp เน้นการจัดการพลังงานและเศรษฐกิจหมุนเวียน ร่วมมือกับคู่ค้า 135 ราย จัดโครงการ Central Retail Logistics for SME and Sustainability Program เพื่อส่งเสริมการจัดการด้านความยั่งยืน
- ส่งเสริมสินค้าและบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งสินค้าแฟชั่น บิวตี้ เช่น จำหน่ายกางเกงยีนส์ Wrangler จากคอลเลกชัน Pineapple ที่มีส่วนผสมของใยสับปะรดและใช้น้ำในการผลิตน้อยกว่าการผลิตผ้าชนิดอื่น หรือคอลเลกชัน Central Edition สร้างสรรค์โดยชุมชนต่างๆ กับ 24 ดีไซเนอร์ไทยรุ่นใหม่ นำวัสดุเหลือใช้มาทำผลิตภัณฑ์ใหม่ควบคู่การใช้ทักษะของคนในชุมชนเพื่อกระจายรายได้สู่ชุมชน การเปิด Organic Zone ในแผนกบิวตี้ที่ห้างเซ็นทรัลชิดลม
- การจัดการขยะมูลฝอยอย่างมีประสิทธิภาพ มีโครงการส่งฝาแลกฝันร่วมกับคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี และบริษัท ซีโร่ เวสท์ โยโล จำกัด โดยนำฝาขวดน้ำพลาสติกเหลือทิ้งมารีไซเคิล เปิดโอกาสให้นักศึกษาออกแบบและผลิตเป็นชั้นวางหนังสือในห้องสมุดให้โรงเรียนที่มีความต้องการ รณรงค์คัดแยกขยะอย่างถูกวิธีตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง บริจาคอาหารส่วนเกินให้ผู้เปราะบาง
ความเข้มข้นของนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมของ เซ็นทรัล รีเทล สะท้อนจากการได้รับคัดเลือกเป็นสมาชิกของดัชนีความยั่งยืน DJSI World และ Emerging Markets และอยู่ในระดับ Top 5% ในกลุ่ม Retailing จากการประกาศผล Sustainability Yearbook 2024 โดย S&P Global
ขณะที่ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) บริษัทชั้นนำด้านความยั่งยืนอันดับหนึ่งของโลกในกลุ่มอุตสาหกรรมบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์จาก Sustainability Yearbook 2024 โดย S&P Global ด้วยกลยุทธ์ธุรกิจมุ่งสร้าง Sustainable Ecosystem ที่แข็งแกร่งควบคู่กันทั้ง Better People และ Better Planet
"เซ็นทรัลพัฒนา" พัฒนาพื้นที่การใช้ชีวิตที่ยั่งยืน ตั้งแต่การออกแบบและการก่อสร้างที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เพิ่มประสิทธิภาพการใช้ไฟฟ้าและน้ำ การใช้พลังงานสะอาด ด้วยการติดตั้ง โซลาร์เซลล์ บนหลังคากว่า 80% ของศูนย์การค้าทั้งหมด ผลิตไฟฟ้าได้ 26,011 MWh เพิ่มขึ้น 188% จากปี 2019
พร้อมสร้างพื้นที่สีเขียว พื้นที่จอดรถจักรยาน ติดตั้ง EV Charging Station รวม 400 ช่องจอด ในศูนย์การค้า 40 แห่ง 19 จังหวัด ร่วมกับพันธมิตรและผู้ประกอบการร้านค้า (Green partnership) โดยปีแรกผลักดันให้ลดพลังงานได้ 719 MWh ลดขยะฝังกลบได้กว่า 60 ตัน สนับสนุนชุมชนดำเนินการตามหลัก Circular Concept ผ่านโครงการ "ทำดี" ก่อให้เกิดรายได้หมุนเวียนกลับสู่ชุมชน
สำหรับเครือโรงแรมเซ็นทาร ภายใต้ บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จํากัด (มหาชน) เป็นกลุ่มโรงแรมแรกในไทยและเอเชียที่ได้รับการรับรองมาตรฐานการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน หรือ GSTC (Global Sustainable Tourism Council) ปัจจุบันมี 24 โรงแรมผ่านการรับรองแล้ว ตั้งเป้าภายในปี 2025 ทุกโรงแรมในเครือต้องผ่านการรับรองมาตรฐาน GSTC
เครือโรงแรมเซ็นทารา มุ่งสู่องค์กรยั่งยืนด้วยระบบบริหารภายใน "Centara Earthcare" เน้นใช้ทรัพยากรให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ใช้เทคโนโลยีเพื่อบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม ผ่านโครงการต่าง ๆ อาทิ Green Area ดูแลรักษาพื้นที่สีเขียวซึ่งมีสัดส่วน 37% ของพื้นที่ทั้งหมด โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ เป็นโรงแรมต้นแบบในการทำฟาร์มผักออร์แกนิก ซึ่งได้ปรับพื้นที่ชั้น 26 ปลูกผักและสมุนไพรตามฤดูกาล โรงแรมในประเทศและต่างประเทศ ร่วมกันปลูกต้นไม้รวม 1,009 ต้น ทั้งพื้นที่โรงแรมและพื้นที่สาธารณะรอบโรงแรม พร้อมทั้งดูแลรักษาต้นไม้ใหญ่และต้นไม้ท้องถิ่นในพื้นที่โรงแรม อาทิ ต้นจามจุรี ต้นก้ามปู ต้นกระฮุง
โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ ไอส์แลนด์ รีสอร์ท และสปา มัลดีฟส์ และเซ็นทารา ราส ฟูชิ รีสอร์ท แอนด์ สปา มัลดีฟส์ ได้ฟื้นฟูระบบนิเวศแนวปะการังรอบโรงแรม ณ ปี 2566 ได้ปลูกปะการังไปแล้วมากกว่า 1,000 กิ่ง