กรมชลประทาน จับมือ ADB แก้น้ำท่วมซ้ำซาก ลุ่มเจ้าพระยาตอนล่าง
กรมชลประทาน จับมือ ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย เดินหน้าโครงการบรรเทาอุทกภัยลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่าง มุ่งแก้ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากทั้งระบบ หวังช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชน มีความมั่นคงด้านน้ำ รักษาระบบนิเวศ สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนต่างชาติ
เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2567 ที่สำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดใหญ่ที่ 10 จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายวิทยา แก้วมี รองอธิบดีกรมชลประทาน พร้อมด้วย นายอภิชาติ ชุมนุมมณี ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาแหล่งน้ำขนาดใหญ่ นายวงศ์พันธ์ วงศ์สมุทร ผู้อํานวยการสำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดใหญ่ที่ 10 และผู้เกี่ยวข้อง ร่วมให้การต้อนรับ Mr. Scott Morris รองประธานธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย หรือ ADB พร้อมคณะเจ้าหน้าที่ ในโอกาสเดินทางมาเยือนประเทศไทย พร้อมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ก่อนจะลงพื้นที่ไปเยี่ยมชมความก้าวหน้างานก่อสร้างโครงการคลองระบายน้ำหลากบางบาล - บางไทร ตามลำดับ
ทั้งนี้ กรมชลประทานได้ดำเนินการขับเคลื่อนแผนหลักการบรรเทาอุทกภัยในลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่าง 9 แผนงาน เพื่อบรรเทาปัญหาทั้งน้ำท่วมและน้ำแล้งในลุ่มน้ำเจ้าพระยา
ประกอบด้วย
1.โครงการปรับปรุงระบบชลประทานเจ้าพระยาฝั่งตะวันออกตอนล่าง
2.โครงการคลองระบายน้ำหลากชัยนาท-ป่าสัก-อ่าวไทย
3.โครงการคลองระบายน้ำควบคู่ถนนวงแหวนรอบที่ 3
4.โครงการปรับปรุงโครงข่ายระบบชลประทานฝั่งตะวันตก
5.โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา
6.โครงการบริหารจัดการพื้นที่นอกคันกั้นน้ำ
7.โครงการคลองระบายน้ำหลากบางบาล-บางไทร
8. โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำแม่น้ำท่าจีน
9.โครงการพื้นที่รับน้ำนอง
โดยในส่วนของโครงการปรับปรุงระบบชลประทานเจ้าพระยาฝั่งตะวันออกตอนล่าง กรมชลประทานมีเป้าหมายเพิ่มอัตราการระบายน้ำจาก 210 ลบ.ม./วินาที เป็น 400 ลบ.ม./วินาที ประกอบด้วย การปรับปรุงโครงข่ายคลองชลประทานเดิมจำนวน 22 คลอง ความยาวรวม 462.80 กิโลเมตร ตลอดจนการก่อสร้างและปรับปรุงอาคารชลประทานรวม 26 อาคาร
หากดำเนินการแล้วเสร็จ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่เจ้าพระยาฝั่งตะวันออกตอนล่าง เป็นแหล่งเก็บกักน้ำในคลองช่วงฤดูแล้งเพิ่มขึ้น 17 ล้าน ลบ.ม./ปี อีกทั้งยังสามารถป้องกันและลดพื้นที่น้ำท่วมได้ถึง 298,250 ไร่
สำหรับการร่วมลงพื้นที่ในครั้งนี้ แสดงถึงความสำคัญของระบบโครงสร้างชลประทานเพื่อบรรเทาอุทกภัยที่มีต่อประเทศไทยและเศรษฐกิจของประเทศ และความร่วมมือกันระหว่างกรมชลประทานและธนาคารพัฒนาเอเชียในการบรรลุภารกิจดังกล่าว
ทั้งนี้ หากแผนงานโครงการดังกล่าวแล้วเสร็จ จะเกิดประโยชน์ต่อสังคม ช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนให้มีความมั่นคงด้านน้ำ รักษาระบบนิเวศ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนต่างชาติ ตลอดจนขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ตลอดไป