มาตราการ ‘คิดค่าถุงพลาสติก’ ได้ผลจริง ขยะตามชายหาดในสหราชอาณาจักรลง 80%
มาตราการ “คิดค่าถุงพลาสติก” ของสหราชอาณาจักรได้ผลจริง ช่วยลดปริมาณ “ขยะถุงพลาสติก” ตามชายหาดลง 80% แต่ขยะพลาสติกยังมีมาก
ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมีขยะ “ถุงพลาสติก” ตามชายหาดในสหราชอาณาจักรลดลงถึง 80% แต่นักรณรงค์ยังคงเรียกร้องให้มีการดำเนินการจัดการกับขยะที่ส่งผลกระทบต่อทะเลและชายฝั่งเพิ่มมากขึ้น
ตามข้อมูลจากโครงการทำความสะอาดชายหาดของสมาคมอนุรักษ์ทางทะเล (MCS) องค์กรการกุศลในสหราชอาณาจักรที่ทำงานร่วมกับธุรกิจ รัฐบาล และชุมชนในการทำความสะอาดและปกป้องมหาสมุทร พบว่า โดยเฉลี่ยแล้วในระยะ 100 เมตรจะพบถุงพลาสติกเพียง 1 ใบ ซึ่งลดลง 80% เมื่อเทียบกับ ปี 2014 ที่พบถุงพลาสติก 5 ใบในระยะ 100 เมตร
ซึ่งเป็นผลมาจากมาตรการเสียเงินค่าถุงพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวในราคาตั้งแต่ 5-25 เพนนี (หรือประมาณ 2-11 บาท) ต่อใบ ทำให้ประชาชนลดการใช้ถุงพลาสติกลง โดยผู้ค้าปลีกรายใหญ่ในเวลส์ ไอร์แลนด์เหนือ สกอตแลนด์ และอังกฤษ จะต้องเรียกเก็บเงินสำหรับถุงพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวตามกฎหมายที่บังคับใช้ในปี 2011, 2013, 2014 และ 2015 ตามลำดับ
สำหรับอังกฤษและสกอตแลนด์ จะเรียกเก็บเงินเพิ่มขึ้นจาก 5 เพนนีเป็น 10 เพนนีในปี 2021 ขณะที่ไอร์แลนด์เหนือจะคิดราคาที่ 25 เพนนี ส่วนเวลส์ยังคงเก็บค่าธรรมเนียมขั้นต่ำที่ 5 เพนนี แต่จะเริ่มแบนถุงเหล่านี้ทั้งหมดภายในปี 2026
แต่ขยะพลาสติกประเภทอื่นยังไม่ได้ลดลง เนื่องจากในปีที่ผ่านมา MCS พบว่า 97% ของขยะตามชายหาดยังคงเป็นพลาสติก และขยะที่เกี่ยวข้องกับเครื่องดื่ม เช่น ขวด กระป๋อง และฝา อาสาสมัครหลายพันคนพบว่าขยะที่เกี่ยวข้องกับเครื่องดื่มเพิ่มขึ้น 14% ในสกอตแลนด์และ 7% ในอังกฤษ เมื่อเทียบกับปี 2022
โดยรวมแล้ว มีการบันทึกขยะพลาสติกเพิ่มขึ้น 1.2 % ทั่วสหราชอาณาจักร เฉลี่ยแล้วมีขยะ 167 ชิ้น ในระยน 100 เมตร ซึ่งขยะที่พบมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ขยะพลาสติกขนาด 2.5-30 ซม., ซองต่าง ๆ เช่น กระดาษห่อแซนวิชและกรอบ, ฝาครอบและฝาปิด, เชือกและเชือกพลาสติก ตลอดจนขวดและภาชนะพลาสติก
MCS หวังว่าจะเห็นปริมาณขยะพลาสติกประเภทอื่น ๆ เช่น ช้อนส้อมพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว ถ้วยโพลีสไตรีน ก้านลูกโป่ง และภาชนะบรรจุอาหาร บนชายหาดลดลงเหมือนกับถุงพลาสติก เนื่องจากอังกฤษ เวลส์ และสกอตแลนด์เพิ่งประกาศแบนในช่วงสองปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ MCS ยังเรียกร้องให้รัฐบาลเพิ่มประเภทบรรจุภัณฑ์ต่าง ๆ ใน “ระบบมัดจำคืนเงินบรรจุภัณฑ์” (Deposit Return Scheme) หรือ DRS ให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น
สำหรับ DRS เป็นโครงการเก็บค่ามัดจำสำหรับสินค้าขวดพลาสติก ขวดกระป๋อง โดยจะได้เงินคืนเมื่อผู้บริโภคนำบรรจุภัณฑ์มาคืนยังร้านค้าหรือตู้บริการที่กำหนด จะสร้างแรงจูงใจให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการรีไซเคิลของผู้บริโภค โดยตามแผนเดิมจะเริ่มใช้ในปี 2027
MCS จัดอีเวนต์ทำความสะอาดตามชายหาดต่าง ๆ ตลอดทั้งปี โดยจะมีงานใหญ่ที่ชื่อว่า “Great British Beach Clean” ทุกเดือนกันยายน ปีนี้จะจัดขึ้นที่หาดไบรตัน ในเทศมณฑลอีสต์ซัสเซกซ์ ของอังกฤษ ซึ่งในกิจกรรมแต่ละครั้ง ทางองค์กรจะให้อาสาสมัครเข้าร่วมงานทำการสำรวจและบันทึกประเภทของขยะที่พบบนชายหาด ในรัศมี 100 เมตร เรื่อยมานับตั้งแต่ปี 1994
แม้แต่ในชายหาดที่มีกิจกรรมทำความสะอาดอยู่เป็นประจำอย่าง ชายหาดไบรตัน อาสาสมัครก็ยังเก็บขยะได้จำนวนมาก มีทั้ง ฝาเครื่องดื่ม ฝาขวด บรรจุภัณฑ์พลาสติก กระดาษชำระ และเสื้อผ้า
ลิซซี่ ไพรซ์ ผู้จัดการแผนกดูแลชายหาดในสหราชอาณาจักรที่ MCS กล่าวว่า การรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับขยะที่เก็บได้ในชายหาด ถือเป็นการแสดงให้เห็นว่าปัจจุบันมีขยะประเภทใดที่ยังมีจำนวนมาก และต้องรีบถูกกำจัดออกไป
“การรวบรวมข้อมูลทุกครั้งเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลง และเรามีข้อมูลมาตลอด 30 ปี หมายความว่าเราสามารถอธิบายปัญหาขยะได้อย่างแท้จริง ตอนนี้เราเห็นถุงพลาสติกบนชายหาดลดลง 80% และก้านสำลีพลาสติก ช้อนส้อมพลาสติกก็เริ่มลดลง แสดงว่านโยบายของรัฐบาลเริ่มเห็นผลแล้ว”
ไพรซ์กล่าวว่า MCS ต้องการให้โครงการ DRS รองรับการมัดจำ “ขวดแก้ว” ด้วย เพราะหากขวดแก้วแตกสลาย จะสามารถสร้างอันตรายต่อผู้คน สิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ในท้องทะเลอีกด้วย พร้อมกล่าวว่า สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ เราจำเป็นต้องก้าวไปสู่สังคมแห่งการรีไซเคิล ใช้ซ้ำ และซ่อมแซมให้เร็วขึ้น
ที่มา: Independent, Standard, The Guardian