‘นูเทลล่าวีแกน’ เตรียมวางจำหน่ายใน ‘ยุโรป’ ใช้โปรตีนจากพืชแทน ‘นมวัว’

“เฟอร์เรโร” (Ferrero) เตรียมวางจำหน่าย “นูเทลล่า” (Nutella) ผลิตภัณฑ์เฮเซลนัทสเปรดชื่อดัง ในสูตร “วีแกน”  และหากคุณคิดว่าผลิตภัณฑ์นี้เป็นวีแกนมาตลอด คุณคิดผิดอย่างมหันต์

ตามรายการส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ระบุว่า มีส่วนผสม 7 อย่าง ได้แก่ น้ำตาล นม น้ำมันปาล์ม โกโก้ เฮเซลนัท เลซิติน (อิมัลซิไฟเออร์) และวานิลลิน แต่ตอนนี้จะมีผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ไม่มีส่วนผสมนม โดยจะใช้ถั่วชิกพีและน้ำเชื่อมข้าวแทน ซึ่งจะยังคงรมีสชาติที่คล้ายกับนูเทลล่าต้นตำรับ

“เรามองหาและสำรวจหมวดหมู่ใหม่ ๆ และเทรนด์อาหารใหม่ ๆ อยู่เสมอ ด้วยการใช้ประโยชน์จากนวัตกรรมและความเชี่ยวชาญหลายสิบปีของแบรนด์  ขณะนี้เรากำลังเตรียมเปิดตัว นูเทลล่าแพลนท์เบส ในฤดูใบไม้ร่วงปี 2024" บริษัทกล่าวในแถลงการณ์

บริษัทจะวางจำหน่ายนูเทลล่าวีแกนเฉพาะในตลาดยุโรปบางแห่งเท่านั้น โดยจะวางจำหน่ายในซูเปอร์มาร์เก็ตในอิตาลี ฝรั่งเศส และเบลเยียมในวันพุธที่ 4 กันยายน ส่วนในอิตาลีและเยอรมนีจะเปิดตัวภายในปี 2025 เนื่องจากประเทศเหล่านี้มีชาววีแกนเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ และขณะเดียวกันก็เริ่มลดการบริโภคผลิตภัณฑ์จากสัตว์มากขึ้น อีกทั้งยังเป็นการขยายฐานการบริโภคเข้าสู่ตลาดผลิตภัณฑ์ที่ทำจากพืชที่กำลังเติบโตของยุโรป ซึ่งปัจจุบันมีมูลค่ามากกว่า 736 ล้านดอลลาร์ 

ผลสำรวจระบุว่าชาวยุโรปประมาณ 28% รับประทานอาหารมังสวิรัติสัปดาห์ละ 1 ครั้ง โดยชาวเยอรมันมีอัตราผู้รับประทานอาหารจากพืชสูงที่สุดในยุโรปที่ 10% ของประชากร โดยชาวเยอรมันประมาณ 30% ระบุว่าตนเป็นผู้รับประทานอาหารมังสวิรัติสลับกับอาหารปรกติ

อย่างไรก็ตาม ผู้ที่แพ้แลคโตสควรระมัดระวังในการรับประทานนูเทลล่าจากพืช เนื่องจากนูเทลล่าสูตรนี้ยังผลิตในโรงงานเดียวกับผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่ใช้นมของเฟอร์เรโร เช่น Kinder, Tic Tac และ Ferrero Rocher

การใช้พืชแทนนมวัวจะทำให้นูเทลล่าแบบวีแกนปล่อยก๊าซคาร์บอนน้อยกว่านูเทลล่าสูตรดั้งเดิม แม้ว่าโปรตีนจากพืชจะยังปล่อยก๊าซมีเทนอยู่บ้างก็ตาม

ข้อมูลจากแพลตฟอร์มบัญชีคาร์บอน CarbonCloud ระบุว่านมผงพร่องมันเนยก่อให้เกิดคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (CO2e) 15.5 กก. ต่อ 1 กก. ในขณะที่ถั่วชิกพีก่อให้เกิด CO2e เพียง 0.4 กก. และน้ำเชื่อมข้าวกล้องมี CO2e 1.77 กก. 

แต่เนื่องด้วย นูเทลล่ามีนมผงเป็นส่วนประกอบเพียง 8.7% เท่านั้น และมีปริมาณน้อยกว่าน้ำมันปาล์ม ที่ถูกครหาว่ามาจากการบุกรุกทำลายป่าในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กอร็องแต็ง บิอาร์โด วิศวกรด้านการเกษตรและอาหารจากสถาบันวิจัยด้านสภาพอากาศ The Shift Project กล่าวว่า 

“การเปลี่ยนวัตถุดิบอาจจะช่วยบ้างได้ แต่ปัญหาใหญ่ยังคงอยู่ หากเฟอร์เรโรต้องการผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมจริง ๆ พวกเขาต้องเอาน้ำมันปาล์มออกก่อน” เขากล่าวเสริม

นอกจากนี้ยังเกิดคำถามว่า ทำไมนูเทลล่าวีแกนถึงมีราคาแพงกว่านูเทลล่าปรกติ โดยนูเทลล่าสูตรวีแกน 350 กรัมจะมีราคา 4.49 ยูโร แต่นูเทลเลาสูตรปรกติมีราคาเพียง 3.59 ยูโร ในปริมาณเท่ากัน “เราแปลกใจที่สูตรวีแกนมีราคาแพงกว่า ทั้งที่ราคาวัตถุดิบถูกกว่านมด้วยซ้ำ” บิอาร์โด กล่าว

 

อ่านต่อ: Euro News, Food And Wine, France 24, Plant Based News