SX 2024: รวมพลังเพื่ออนาคตและโลกที่ดีกว่า "ความยั่งยืนเป็นเรื่องของทุกคน"

SX 2024: รวมพลังเพื่ออนาคตและโลกที่ดีกว่า "ความยั่งยืนเป็นเรื่องของทุกคน"

Sustainability Expo 2024 (SX 2024) มหกรรมด้านความยั่งยืนที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 ชวนให้ทุกคนมาแลกเปลี่ยน เรียนรู้ และค้นหาคำตอบ ร่วมสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีให้โลก ผ่านกิจกรรมมากมาย สำหรับคนทุกกลุ่มวัย เพื่อ "สมดุลที่ดี เพื่อโลกที่ดีกว่า"

ในยุคที่ภาวะโลกเดือดกลายเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อทุกคนทั่วโลก การทำงานร่วมกันระหว่างประเทศ องค์กร และประชาชนเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง ความร่วมมือเหล่านี้สามารถช่วยให้เราพัฒนาเทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและสร้างความตระหนักรู้ในสังคมได้มากขึ้น

ดังนั้น ในปีนี้งาน Sustainability Expo 2024 (SX 2024) จึงกลับมาสานต่อเป็นปีที่ 5 โดยผสานความร่วมมือจาก 5 องค์กรธุรกิจชั้นนำด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนระดับสากล ได้แก่ บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน), บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน), เอสซีจี, บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน), และบริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ภายใต้แนวคิด “พอเพียง ยั่งยืน เพื่อโลก” (Sufficiency for Sustainability) โดยจะจัดขึ้นวันที่ 27 กันยายน – 6 ตุลาคม 2567 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (QSNCC)

โดยผู้จัดงานน้อมนำพระปฐมบรมราชโองการของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่จะสืบสาน รักษา และต่อยอด เพื่อประโยชน์สุขของประชาชน และน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร มาเป็นแนวทางในการจัดงาน ผนวกกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (UNSDGs) มาสู่การปฏิบัติจริงให้เกิดเป็นแพลตฟอร์มความร่วมมือ เพื่อสมดุลที่ดี เพื่อโลกที่ดีกว่า (Good Balance, Better World)

SX 2024: รวมพลังเพื่ออนาคตและโลกที่ดีกว่า \"ความยั่งยืนเป็นเรื่องของทุกคน\"

ความยั่งยืนเป็นเรื่องของทุกคน

“ต้องใจ ธนะชานันท์” ผู้อำนวยการคณะจัดงาน SX 2024 เชื่อว่าความยั่งยืนเป็นเรื่องของทุกคน ปีนี้จึงจัดงานเพื่อความยั่งยืนครอบคลุม B2C2B (Business-to-Consumer-to-Business) ที่ยึดผู้บริโภคเป็นแกนกลาง เพราะถ้าไม่เข้าถึงผู้บริโภค ความยั่งยืนก็จะไม่สำเร็จ

"งานปีนี้ยิ่งใหญ่กว่าปีที่ผ่านมา โดยเวลาจัดงานคือ 10 วัน มีทั้งหมด 10 โซน 2 เวที วิทยากร 600 คน และ 400 เวิร์คช็อป นอกจากนั้น มีเครือข่ายธุรกิจยั่งยืนจากบริษัท และองค์กรชั้นนำของไทยและต่างประเทศกว่า 270 แห่ง โดยเพิ่มความเป็นสากลมากกว่าปีที่แล้วด้วย เพราะมีองค์กรจากต่างประเทศเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 5 องค์กร รวมเป็น 13 องค์กร ที่จะมาให้ความรู้หลากหลายด้าน แนวคิดที่น่าสนใจ รวมถึงเทคโนโลยี และนวัตกรรมที่สร้างสรรค์ให้โลกเกิดความสมดุล ทั้งยังให้ความสำคัญกับงานศิลปะ และความหลากหลายทางเพศ

Sustainability Expo ถือเป็นแพลตฟอร์มความร่วมมือด้านความยั่งยืนที่เชื่อมโยงทุกภาคส่วนในระดับภูมิภาค ให้โอกาสทุกคนได้มาอัพเดทเทรนด์ความยั่งยืน แบ่งปันไอเดีย เทคโนโลยีและนวัตกรรม รวมถึงต้นแบบในการพัฒนาเมืองและชุนชนที่ยั่งยืน ผ่านการบรรยาย เสวนา เวิร์คช็อป นิทรรศการ ศิลปะ ตลอดจนอาหารแห่งอนาคต ผลักดันให้เกิดการลงมือทำ และนำไปสู่การเปลี่ยนแปลง”

SX 2024: รวมพลังเพื่ออนาคตและโลกที่ดีกว่า \"ความยั่งยืนเป็นเรื่องของทุกคน\"

ไฮไลท์กิจกรรม 10 วัน 10 โซนหลัก

1) โซน SEP Inspiration : พบกับองค์กรต้นแบบด้านความยั่งยืนที่น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอพียงมาประยุกต์ใช้จนประสบความสำเร็จ อาทิ มูลนิธิชัยพัฒนา อีกทั้งยังมี Prologue นิทรรศการ Immersive Experience ที่จะสะท้อนทุกมุมมองของปัญหาที่เกิดจากพัฒนาแบบก้าวกระโดดและกิจกรรมของมนุษย์ ค้นพบความหวังและหนทางไปต่อจากคนที่ลงมือทำจริงเพื่อโลกที่จะทำให้คุณตระหนักว่าเรื่องของความยั่งยืนเป็นเรื่องของเราทุกคน

2) โซน Better Me : ปีนี้มีนวัตกรรมใหม่ ๆ เช่น Mr. Muse หุ่นยนต์โรโบเทสเปียน ฮิวมานอยด์อัจฉริยะ รวมทั้งอัพเดทเทรนด์อาหารแห่งยุค เพื่อเตรียมตัวสูงวัยอย่างมีคุณภาพและความสุข

3) โซน Better Living : ค้นพบวิธีลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ด้วยการปรับพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน และเรียนรู้จากองค์กรชั้นนำที่ดำเนินการเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่การลดการปล่อยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกไปจนถึงเทคโนโลยีดักจับและกักเก็บคาร์บอน

4) โซน Better Community : การสร้างสังคมที่ดีร่วมกัน ผ่านผลงานที่ทำอย่างต่อเนื่อง และสร้างผลสำเร็จทั้งในมิติสังคม สิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจ ผนึกความชุมชนจากภาคีเครือข่ายทั้งในและต่างประเทศ ระดับบุคคลไปจนถึงหน่วยงานเอกชนและภาครัฐ อีกทั้งยังมีนวัตกรรมเมืองน่าอยู่แห่งอนาคตจากองค์กรชั้นนำ

5) โซน Better World : ศิลปะสร้างค่า สู่สมดุลโลก โซนนิทรรศการที่จัดแสดงผลงานศิลปะที่หลากหลาย สะท้อนมุมมองด้านความยั่งยืนทั้งด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม อาทิ ภาพถ่าย จิตรกรรม ประติมากรรม และผลงานศิลปะอื่น ๆ อีกมากมาย

6) โซน SX Food Festival : ปีนี้มาในธีม Back to The Future มหกรรมด้านอาหารยั่งยืนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปี ย้อนเวลากลับไปสู่อนาคตด้วยอาหารที่ดีต่อสุขภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พบกับ Celebrity Chefs มากมาย รวมถึงผู้ประกอบที่สร้างสรรค์เมนูอาหารที่ช่วยสร้างสมดุลที่ดีต่อโลก มาร่วมกันกินกู้โลก

7) โซน Kids Zone : พื้นที่ปลูกเมล็ดพันธุ์แห่งอนาคตด้วยนิทรรศการและกิจกรรม ผ่าน "เล่น-ทดลอง-เรียนรู้” พบกับความรู้ต่างๆ ที่เสริมสร้างจิตนาการ เสริมทักษะให้กับเด็ก ๆ โดยมีไฮไลท์คือนิทรรศการ Biodiversity Exhibition รู้-รักษ์-พิทักษ์ ความหลากหลายทางชีวภาพ 

8) โซน SX Marketplace : ตลาดนัดสร้างสรรค์สินค้ายั่งยืน พบปะผู้ประกอบการตัวจริง ท่ามกลางบรรยากาศสวนกลางเมือง แบ่งโซนให้สายกรีน สายคราฟ และสายช้อป ได้ร่วมอุดหนุนร้านค้าที่มาร่วมงานกว่า 280 ร้านค้า

9) SX Repartmentstore : พื้นที่สำหรับส่งต่อสิ่งของนอกสายตา เพื่อมอบคุณค่าให้แก่สังคมและยังได้ชอปสินค้ามือสองคุณภาพดี เพื่อนำรายได้มอบให้การกุศล นอกจากนี้ยังมีเป็นจุด drop off บรรจุภัณฑ์ใช้แล้วและขยะอื่น ๆ เพื่อนำไปบริหารจัดการอย่างถูกวิธีหรือนำกลับสร้างคุณค่าใหม่ได้อีกครั้ง

10) B2B Event :รวบรวมงานสัมมนาและเครือข่ายธุรกิจ เพื่อความยั่งยืนที่เจาะลึกแนวทางธุรกิจยั่งยืนตอบโจทย์ทั้งสังคมและสิ่งแวดล้อม

SX 2024: รวมพลังเพื่ออนาคตและโลกที่ดีกว่า \"ความยั่งยืนเป็นเรื่องของทุกคน\"

ความสำเร็จของ 4 ปีที่ผ่านมา

“ต้องใจ” กล่าวถึงความสำเร็จของงานที่ผ่านมาว่า การจัดงาน 4 ครั้งที่ผ่านมาเราได้สร้างการเรียนรู้ และสร้างแรงกระตุ้นให้เกิดการปรับตัว ซึ่งเป็นที่ทราบดีว่าความยากที่สุดคือการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และการได้ลงมือปฏิบัติ ดังนั้นเป้าหมายของเราคือ ต้องทำให้รู้ว่าความยั่งยืนเป็นเรื่องของทุกคน

“เมื่อปีที่แล้ว SX2023 ประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยมีผู้เข้าร่วมงานมากกว่า 300,000 คน ซึ่งในจำนวนนี้ประมาณ 164,000 คน หรือกว่า 60% เป็นคนรุ่นใหม่อายุระหว่าง 18 ถึง 35 ปี และมีองค์กรกว่า 100 แห่ง ผู้บรรยาย 250 คน และเครือข่ายธุรกิจที่ยั่งยืนทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลกกว่า 500 เครือข่าย

“งานนี้ไม่เพียงแต่สร้างความตระหนักรู้ด้านสิ่งแวดล้อม แต่ยังส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยมีการนำเสนอแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดด้านความยั่งยืนและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ยังมีการเน้นย้ำถึงเป้าหมายระยะยาวของประเทศไทยในการบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2050 และการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2065”

SX 2024: รวมพลังเพื่ออนาคตและโลกที่ดีกว่า \"ความยั่งยืนเป็นเรื่องของทุกคน\"

นโยบายนายกรัฐมนตรี

“ชญานันท์ ภักดีจิตต์” รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า นโยบายของท่านนายกรัฐมนตรีมีพูดถึงแผนปรับตัวเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมถึงการที่จะทำอย่างไรให้ไทยเป็น Carbon Neutral ให้ได้ และการดูแลเรื่องคาร์บอนเครดิตอย่างจริงจัง

“เรามีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม (DCCE) เป็นกรมน้องใหม่ที่จัดตั้งมาได้ 1 ปีเพื่อรับมือกับบริบทการเปลี่ยนแปลงด้านสิ่งแวดล้อมและโลกร้อน ซึ่งเรากําหนดมาตรการและกลไก ด้านการลดก๊าซเรือนกระจก เพื่อขับเคลื่อนแผนไปสู่การปฏิบัติ และติดตามประเมินผลความสําเร็จของแผน

การไปสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2050 และการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2065 ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาคเอกชน อย่างเช่นงาน SX 2024 ภาคการศึกษา และประชาชน เพราะหน่วยราชการอย่างเดียว ทำคนเดียวไปไม่ได้เร็ว ช่วยกันคิดช่วยกันทำ เน้นการร่วมมือร่วมใจ”

ยึด SDGs เป็นกรอบการทำงาน

“มาร์ติน เวนสกี้-สตอลลิ่ง” คณะกรรมการพัฒนาอย่างยั่งยืน และประธาน Joint Foreign Chambers of Commerce (JFCCT) กล่าวว่า หอการค้าร่วมต่างประเทศในประเทศไทยมีหอการค้าและสมาคมธุรกิจ 34 แห่งที่เป็นตัวแทนของบริษัทมากกว่า 9,000 บริษัทในกลุ่มสมาชิก ในฐานะ JFCCT มีคณะกรรมการพัฒนาอย่างยั่งยืน จึงเน้นเรื่องสิ่งแวดล้อมเป็นปัจจัยหนึ่งแต่ไม่ใช่ปัจจัยเดียว โดยยึด SDGs เป็นกรอบการทำงาน และบูรณากับบริษัทในกลุ่มสมาชิก

“ผมเชื่อว่าไม่สามารถแก้ไขปัญหาสภาพอากาศ พลังงาน หรือน้ำอย่างแยกส่วนได้ ทุกส่วนต้องแก้ไขไปพร้อม ๆ กัน ซึ่ง JFCCT ต้องการสนับสนุนนโยบายของประเทศไทยคำ และสื่อสารเรื่องนี้กับสมาชิกด้วย ผมเชื่อด้วยว่าความร่วมมือ เช่น การลดขยะในเมือง และความไม่เท่าเทียม หากถูกกระตุ้นด้วยการจัดฟอรั่มระดับประเทศก็จะทำให้คนได้ไอเดีย และเกิดความตระหนัก นอกจากนั้น เรื่องของความยั่งยืนต้องนำเทคโนโลยีมาใช้ให้เกิดประโยชน์ และทำให้ SMEs เข้ามามีส่วนร่วม”

ขยายเครือข่ายไปยังทุกกลุ่ม

“เจรมัย พิทักษ์วงศ์” กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานมีเดีย แอนด์ อีเวนต์ บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จํากัด มหาชน สํานักงานใหญ่ กล่าวว่า สิ่งที่ค้นเราค้นพบระหว่างการทำงาน Sustainability Expo ร่วมกันมา 4-5 ปี คือ ความสามารถในการขยายเครือข่ายไปยังทุกกลุ่ม

"ตัว C ใน B2C2B ไม่ใช่เรื่องของลูกค้าอย่างเดียว แต่เราพบว่า เราได้รับความสนใจแบบ collaborative กับคนเยอะมาก ทุกสายอาชีพ ไม่ว่าจะเป็นแรงงานอิสระ สตาร์อัพ หรือคนในชุมชน

ทั้งนี้ SX2024 เป็นเหมือนแพล็ตฟอร์มการเรียนรู้ให้กับคนทุกเพศทุกวัย (Life Long Learning) มีแง่มุมต่าง ๆ ที่สามารถปรับใช้กับชีวิตประจำวันได้ ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาทักษะใหม่ ๆ การสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม หรือการส่งเสริมการใช้ชีวิตอย่างยั่งยืน"
SX 2024: รวมพลังเพื่ออนาคตและโลกที่ดีกว่า \"ความยั่งยืนเป็นเรื่องของทุกคน\"