ปิดฉาก SX2024 เครือข่ายความยั่งยืนร่วมส่งท้ายด้วยพลัง ก้าวสู่มหกรรมปี 2025
ในช่วง 10 วันที่ผ่านมา ทุกภาคส่วนได้ร่วมกันสร้างเรื่องราวที่ยิ่งใหญ่ด้านความยั่งยืน ณ งาน Sustainability Expo 2024 งานที่เน้นความสำคัญของการผสานพลัง ความร่วมมือในปีนี้ จะเป็นฐานรากที่แข็งแกร่งในการสร้างงาน SX2025 ให้ยิ่งใหญ่และประสบความสำเร็จยิ่งขึ้นในปีถัดไป
มหกรรม Sustainability Expo 2024 ครั้งที่ 5 จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ในกรุงเทพฯ ได้ปิดฉากลงอย่างน่าประทับใจ งานครั้งนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่การแสดงนวัตกรรมด้านสิ่งแวดล้อม แต่เป็นการสร้างเครือข่ายความยั่งยืนที่รวมภาคธุรกิจ ประชาชน และรัฐบาลจากทั่วโลก เพื่อร่วมกันสร้างอนาคตที่ยั่งยืน เพราะ “ความยั่งยืนเป็นเรื่องของทุกคน”
งาน Sustainability Expo หรือ SX ถือเป็นงานมหกรรมด้านความยั่งยืนใหญ่ที่สุดในอาเซียน ที่ริเริ่มขึ้นในปี 2020 จากการรวมพลังของ 5 องค์กรธุรกิจชั้นนำภายใต้เครือข่ายธุรกิจห่วงโซ่อุปทานแห่งประเทศไทย (Thailand Supply Chain Network หรือ TSCN ได้แก่ บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เอสซีจี บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
SX จะจัดต่อเนื่องไปจนถึงปี 2030 ซึ่งเป็นการดำเนินงานคู่ขนานไปกับการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (UN Sustainability Development Goals: SDGs) ที่กำหนดให้เป็นช่วงทศวรรษแห่งการลงมือทำ (Decade of Action) เพื่อให้บรรลุทั้ง 17 เป้าหมาย ภายใต้ 5 มิติ ได้แก่ สังคม (People) เศรษฐกิจ (Prosperity) สิ่งแวดล้อม (Planet) สันติภาพและสถาบัน (Peace) และ หุ้นส่วนการพัฒนา (Partnership)
เร่งลงมือเพื่ออนาคตยั่งยืน
"ฐาปน สิริวัฒนภักดี" กล่าวในงาน LAUNCHING FORWARD SX2025 ว่า SX2024 เป็นความมุ่งมั่นที่จะขยายความร่วมมือไปยังเครือข่ายทุกภาคส่วน พร้อมทั้งยกระดับการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ภายใน 5 โซนหลัก ได้แก่ SEP Inspiration, Better Me, Better Community, Better Living และ Better World ตลอด 10 วัน ให้มีความเข้มข้นมากขึ้น กระตุ้นให้ทุกคนเร่งลงมือทำเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน และอยากให้ทุกคนเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลง หรือที่เรียกว่า SX Shapers
"เมื่อพูดถึงความยั่งยืน เราอาจคิดไปไกลถึงโลกใบนี้ แต่สุดท้ายเราต้องกลับมาที่ตัวตนของเราที่มีความเป็นปัจเจกบุคคล นั่นหมายความว่า ถ้าโลกใบนี้จะปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Carbon Emissions) ได้ ทุกประเทศ ทุกองค์กรทั้งภาครัฐ เอกชน ภาคประชาชน ซึ่งรวมถึงพวกเราทุกคนที่เป็นผู้บริโภค ต้องช่วยกันทำให้การปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์
คำถามคือ เราจะช่วยกันอย่างไรจึงจะมีโอกาสสร้างโลกใบนี้ให้ยั่งยืนต่อไป เมื่อเราทุกคนกำลังใช้ทรัพยกรธรรมชาติบนโลก เราก็มีหน้าที่ต้องคืนความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติกลับคืนไปให้เยาวชนและมนุษยชาติในรุ่นต่อๆ ไป"
สืบสานปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
"ฐาปน" เน้นย้ำว่า การจัดงาน Sustainability Expo ยังคงยึดแนวคิด ‘พอเพียง ยั่งยืน เพื่อโลก’ (Sufficiency for Sustainability) เพื่อสร้างความตระหนักรู้และเข้าใจถึงเรื่อง ความสมดุลและความพอเพียง โดยน้อมนำพระปฐมบรมราชโองการตามพระราชปณิธานในการสืบสาน รักษา ต่อยอด ของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรมาเป็นแนวทางการจัดงาน
“หากมองถึงโลกธุรกิจในปัจจุบัน ต้องบอกว่า เราอยู่ในบรรยากาศสุดโต่ง ทำอะไรก็ทำแบบสุดโต่ง ผู้บริโภคก็อยากจะได้ของดีที่สุดในราคาคุ้มค่า ถูกและย่อมเยาว์ที่สุด เราอยู่ในโลกของการบริโภคที่เรียกว่า Consumerism ทำอย่างไรที่เราจึงจะสามารถอยู่ร่วมกันได้ และสร้างโลกใบนี้ให้อยู่ต่อไปได้อย่างยั่งยืน"
ผู้นำทุกภาคส่วนรวมตัว
ภายในงานเราได้เห็นการรวมตัวของผู้นำจากหลากหลายภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ องค์กรไม่แสวงหาผลกำไร และหน่วยงานรัฐบาล การร่วมกันทำงานเพื่อหาวิธีการและแนวทางในการพัฒนาเทคโนโลยีที่ยั่งยืน การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ ไม่เพียงแต่สร้างแรงบันดาลใจ แต่ยังเป็นการสร้างพันธมิตรที่แน่นแฟ้นในการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ผู้เข้าร่วมงานมากมายได้รับประสบการณ์ที่หลากหลายและมีคุณค่า ผ่านโซนกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งการเข้าร่วมสัมมนา เวิร์กช็อป รับประทานอาหารยั่งยืน และเดินซื้อของมือสองเพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจหมุนเวียน
นอกจากนั้น ยังได้รับข้อมูลเชิงลึกจากผู้เชี่ยวชาญด้านต่าง ๆ และการมีโอกาสเชื่อมโยงกับผู้นำและนักนวัตกรรมจากทั่วโลก สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการได้รู้จักและเห็นวิธีการที่สามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันและในธุรกิจของตนเองเพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อม
ผู้เข้าชมงานเกือบ 4 แสนคน
"ต้องใจ ธนะชานันท์" ผู้อำนวยการคณะจัดงาน SX2024 กล่าวถึงผลการจัดงานปีนี้ว่า มีผู้เข้าชมงาน ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ตลอด 10 วัน เป็นจำนวนทั้งสิ้นมากกว่า 393,891 คน ปีนี้ได้รับความสนใจจากกลุ่มเยาวชน นักเรียน นิสิตนักศึกษา เข้าร่วมกิจกรรมและเข้ามาเรียนรู้ภายในงานเป็นจำนวนทั้งสิ้น 246,181 คน คิดเป็น 62.5% ของจำนวนผู้เข้าร่วมงานทั้งหมด
นอกจากนี้มีผู้ดาวน์โหลด SX Application จำนวนเกิน 2 แสนคน ถ้ารวมการจัดงาน SX ทั้ง 5 ครั้ง ปรากฎว่ามีผู้เข้ามาเรียนรู้ความยั่งยืนมากกว่า 1.2 ล้านคน และสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนกว่า 100 ล้านบาท
281 ร้านค้ายั่งยืน สร้างรายได้ 18 ล้านบาท
"ต้องใจ" กล่าวด้วยว่า โซน SX Market Place สร้างรายได้กว่า 18 ล้านบาท จาก 281 ร้านค้า นอกจากนี้ ในส่วนของ SX REPARTMENTSTORE ได้รับของบริจาคมากกว่า 4,000 ชิ้น และเกิดรายได้จากการขายสินค้ามือสองที่ได้รับบริจาคมา เป็นจำนวนเงิน 80,000 บาท และยังได้รวบรวมบรรจุภัณฑ์ที่นำมารีไซเคิลทั้งหมด 7,146 กิโลกรัม โดยแบ่งเป็นขวด PET ขวดแก้ว กระป๋องอะลูมิเนียม และกล่องกระดาษลูกฟูก และเศษอาหารอีกกว่า 5,600 กิโลกรัม สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 26 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (tCO2e)
นอกจากความสำเร็จข้างต้นที่กล่าวมา SX ได้สร้างกรอบความร่วมมือระหว่างภาคส่วนทั้งในประเทศไทย และต่างประเทศที่ชัดเจนและเป็นรูปธรรมมากขึ้นในทุกมิติ โดยปีนี้เรามีองค์กรต่างประเทศมากกว่า 20 องค์กรเข้าร่วมจัดนิทรรศการ
"เรามีภาพการทำงานแบบ B2C2B (Business-to-Consumer-to-Business) ที่ชัดเจนเป็นรูปธรรมมากขึ้น เช่น การประกาศเจตนารมย์เรื่องแนวทางปฏิบัติของคู่ค้าในเครือข่ายของ Thailand Supply Chain Network (TSCN) และการมอบรางวัล SX TSCN Sustainability Award ให้กับคู่ค้า 48 รายที่มีการทำโครงการด้านความยั่งยืนร่วมกับ TSCN co-founders และมีการวัดผลอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งในมุมสังคมและสิ่งแวดล้อม"
นอกจากนี้ภาคีเครือข่ายอย่าง เอสซีจี และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ยังกลับมาร่วมจัดงานสำคัญ ได้แก่ ESG Symposium 2024 และงาน Thailand Climate Action Conference (TCAC) 2024 เป็นปีที่ 2 ตอกย้ำการเป็นแพลตฟอร์มกลางด้านความยั่งยืนและเป็นเวทีกลางที่ถอดบทเรียนด้านความยั่งยืนที่ประยุกต์ใช้กับองค์กร รวมทั้งสถาบันการศึกษาทุกระดับได้
การปิดฉากงาน Sustainability Expo 2024 เป็นการยืนยันว่า การร่วมมือกันในด้านความยั่งยืนเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างโลกที่ดีกว่า ร่วมกันเราสามารถทำให้การเปลี่ยนแปลงเป็นไปในทางที่ดีและยั่งยืนได้
งาน Sustainability Expo 2025 (SX2025) จะเกิดขึ้นในวันที่ 26 กันยายน-5 ตุลาคม 2025 ภายใต้หัวข้อใหม่และโอกาสใหม่ที่เหมาะสมกับบริบทตามการเวลา การที่เราจะเดินทางสู่อนาคตต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน และความทุ่มเทในการสร้างความยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง