กรมส่งเสริมการเกษตรจับมือ กรมพัฒนาที่ดิน บางจาก,บีบีจีไอ หนุนเกษตรกรลดเผา
กรมส่งเสริมการเกษตร ลงนามบันทึกความร่วมมือ กรมพัฒนาที่ดิน บริษัทบางจาก และบริษัท บีบีจีไอ โครงการ “ลดเผา เบาฝุ่น” ด้วยจุลินทรีย์ย่อยสลาย
นายพีรพันธ์ คอทอง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า กรมส่งเสริมการเกษตรได้ขับเคลื่อนนโยบาย 3R Model ตามนโยบายรัฐบาลเพื่อเป็นแนวทางในการลดปัญหาการเผาในพื้นที่การเกษตร เป้าหมายสำคัญ คือทำความเข้าใจกับเกษตรกรให้เข้าใจถึงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมโดยไม่เผา และส่งเสริมให้เกิดการใช้ประโยชน์จากเศษวัสดุทางการเกษตร
ทั้งนี้ พื้นที่ปลูกข้าว 1 ไร่ จะมีปริมาณตอซังและฟางข้าว เฉลี่ยปีละ 650 กิโลกรัม เกษตรกรส่วนใหญ่ยังขาดความรู้ความเข้าใจในการบริหารจัดการฟางข้าวและตอซัง เพื่อเป็นทางเลือกในการเพิ่มรายได้และผลผลิตทางการเกษตร ส่งผลให้เกษตรกรส่วนใหญ่ตัดสินใจเผาฟางข้าวและตอซัง เพื่อเตรียมพื้นที่สำหรับการปลูกพืชหมุนเวียนต่าง ๆ จนทำให้ฟางถูกเผาทิ้งอย่างน่าเสียดาย การเผาฟางนอกจากจะผิดกฎหมายแล้ว ยังทำให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ สิ่งแวดล้อม จนกลายเป็นมลภาวะและก่อให้เกิดก๊าซเรือนกระจกที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลก
จึงมีหลายภาคส่วนร่วมกันหานวัตกรรมใหม่ มาช่วยในการย่อยสลาย โดยต้องปลอดภัยทั้งเกษตรกร ปลอดภัยต่อพืช ไม่มีสารตกค้างต่อสิ่งแวดล้อมด้วย โดยปกติแล้วฟางข้าวมีปริมาณธาตุอาหารหลักของพืช ได้แก่ ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม เฉลี่ย 0.51 0.14 และ 1.55 เปอร์เซ็นต์ มีปริมาณธาตุอาหารรองของพืชได้แก่ แคลเซียม แมกนีเซียม และซัลเฟอร์ เฉลี่ย 0.47 0.25 และ 0.17 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเมื่อย่อยสลายเป็นอินทรียวัตถุจะปรับเพิ่มปริมาณธาตุอาหารในดินเพิ่มขึ้น และส่งผลให้ประหยัดต้นทุนการซื้อปุ๋ย เป็นวงจรการปรับปรุงบำรุงดินที่สำคัญอีกทางหนึ่ง
"ความร่วมมือในครั้งนี้ กรมส่งเสริมการเกษตร ได้ร่วมกับบริษัท บีบีจีไอ จำกัด (มหาชน) ภายใต้บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เพื่อการขับเคลื่อนการศึกษาทดสอบเทคโนโลยีชีวภาพ โดยการทดสอบประสิทธิภาพจุลินทรีย์ย่อยสลาย ร่วมกับ บริษัท บีบีจีไอ จำกัด (มหาชน) ภายใต้บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) พบว่าได้ผลเป็นอย่างดี"
จากการทดสอบในห้องปฏิบัติการและพื้นที่ของเกษตรกร จุลินทรีย์สามารถย่อยสลายตอซังและฟางข้าวได้ภายใน 7 วัน มีขั้นตอนการใช้งานอย่างง่าย โดยที่ไม่ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรและสิ่งแวดล้อม เพียงฉีกซองผสมน้ำ เตรียมหัวเชื้อในปริมาณ 100 กรัม ผสมน้ำ 20 ลิตร สำหรับใช้ในพื้นที่ 1 ไร่ที่มีน้ำท่วมตอซัง ซึ่งผลการทดสอบเกษตรยอมรับในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไม่เผาในพื้นที่การเกษตรของตนเอง และมีความพึงพอใจต่อการใช้จุลินทรีย์เป็นอย่างมาก โดยในระยะต่อไปมีแผนที่จะสนับสนุนเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ จำนวน 2,400 ราย ในพื้นที่ 59,000 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ 6 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดปทุมธานี นนทบุรี สระบุรี ลพบุรี ชัยนาท และสุพรรณบุรี
การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมลดการเผาของเกษตรกร จะต้องใช้เทคโนโลยี และผลการวิจัย ศึกษา ทดสอบ และเห็นผลสำเร็จที่เกิดขึ้นจริงของการทดสอบ ซึ่งจะเป็นแนวทางในการบูรณาการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ภาคการเกษตร ร่วมกันระหว่างภาครัฐ เอกชน และภาคประชาชน เพื่อสร้างอากาศสะอาด พื้นฟูและรักษาสิ่งแวดล้อมไปด้วยกัน