ผลกระทบเทศกาลคริสต์มาส ต้นไม้ถูกตัด 100 ล้านต้น ขยะอาหารพุ่งแสนตันต่อปี

เทศกาลคริสต์มาสเป็นปัจจัยหนึ่งของการบริโภคทรัพยากรที่เพิ่มขึ้น การสร้างขยะจำนวนมาก และการปล่อยก๊าซคาร์บอนที่มีปริมาณมาก ล้วนมีส่วนในการทำลายสิ่งแวดล้อม ดังนั้น การเลือกฉลองคริสต์มาสอย่างยั่งยืนไม่เพียงแต่ช่วยรักษาความงดงาม และความหมายของเทศกาลเท่านั้น แต่ยังเป็นการรับผิดชอบต่อสุขภาพของโลกเราด้วย

การเฉลิมฉลองอย่างยั่งยืนช่วยลดขยะ อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้นสำหรับคนรุ่นต่อไป การนำแนวปฏิบัติที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาใช้ในช่วงคริสต์มาสทำให้เราได้แสดงถึงการใช้ชีวิตที่มีจิตสำนึก และยั่งยืนมากขึ้น

ธรรมเนียมต้นคริสต์มาส

หนึ่งในสัญลักษณ์ที่โดดเด่นที่สุดของคริสต์มาสคือ ต้นคริสต์มาส ทุกปีมีการตัด และขายต้นคริสต์มาสหลายล้านต้นทั่วโลก ต้นไม้หลายชนิดนิยมใช้เป็นต้นคริสต์มาส ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดได้แก่ ต้นเฟอร์, ต้นสน, สก็อตช์ ไพน์, ไวท์ ไพน์, ต้นสปรูซ เป็นต้น

ตลาดต้นคริสต์มาสทั่วโลกจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีการประมาณขนาดตลาดอยู่ระหว่าง 7.5-7.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2024 และคาดว่าตลาดจะมีมูลค่าระหว่าง 10.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐถึง 10.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2031

สถิติการตัดต้นคริสต์มาสแต่ละปี

• สหรัฐอเมริกา: ประมาณ 35 ถึง 40 ล้านต้น ถูกตัดในแต่ละปี สหรัฐอเมริกาเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดสำหรับต้นคริสต์มาส เนื่องจากมีธรรมเนียมในการตกแต่งต้นคริสต์มาสจริงจังในช่วงเทศกาล
• เยอรมนี: ประมาณ 18 ล้านต้น ถูกตัดต่อปี เยอรมนีเป็นที่รู้จักในด้านคุณภาพของต้นคริสต์มาส และมีส่วนแบ่งตลาดที่สำคัญในยุโรป
• แคนาดา: ระหว่าง 3 ถึง 6 ล้านต้นถูกตัดในแต่ละปี อุตสาหกรรมต้นคริสต์มาสของแคนาดามุ่งเน้นไปที่การปฏิบัติที่ยั่งยืน และการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
• ฝรั่งเศส: ประมาณ 6 ล้านต้นต่อปี ตลาดต้นคริสต์มาสในฝรั่งเศสกำลังเติบโต
• เดนมาร์ก: ประมาณ 10 ล้านต้นต่อปี เดนมาร์กเป็นผู้ส่งออกต้นคริสต์มาสรายใหญ่ไปยังประเทศอื่นๆ ในยุโรป

แม้ว่าธรรมเนียมการมีต้นคริสต์มาสจะเป็นที่ชื่นชอบของหลายคน แต่ควรจำไว้ไม่ควรตัดต้นไม้เกินความจำเป็นหากไม่ได้รับการจัดการอย่างยั่งยืน การเลือกซื้อต้นไม้จากฟาร์มที่ได้รับการรับรองว่ามีการจัดการที่ยั่งยืนหรือพิจารณาใช้ต้นคริสต์มาสเทียมที่สามารถใช้งานได้หลายครั้งสามารถช่วยลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมได้

ขยะอาหารในช่วงเทศกาล

ความสุขในการเฉลิมฉลองคริสต์มาส มักมาพร้อมกับการจัดงานเลี้ยง และการมีอาหารมากมาย แต่ก็นำมาซึ่งปริมาณขยะอาหารที่เพิ่มขึ้น นี่คือสถิติบางส่วนที่น่าตกใจ

• สหราชอาณาจักร: ขยะอาหารในช่วงคริสต์มาสเพิ่มขึ้น 30% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาอื่นของปี มีอาหารประมาณ 230,000 ตันถูกทิ้งลงถังขยะหรือคิดเป็นประมาณ 42 ล้านจาน ของอาหารถูกทิ้ง รวมถึงไก่งวง 263,000 ตัว และพายหมูสับ 7.5 ล้านชิ้น
• สหรัฐอเมริกา: ประมาณ 6 ล้านตัวของไก่งวง และอาหาร 200 ล้านปอนด์ถูกทิ้งในช่วงเทศกาล
• ฝรั่งเศส: ประมาณ 7 ล้านตัวของไก่งวง และอาหาร 5 ล้านตันถูกทิ้งในช่วงคริสต์มาส
• เยอรมนี: ประมาณ 4 ล้านตัวของไก่งวง และอาหาร 2 ล้านตันถูกทิ้งในช่วงเทศกาล
• ออสเตรเลีย: ประมาณ 1 ล้านตัวของไก่งวง และอาหาร 1 ล้านตันถูกทิ้ง
• แคนาดา: ประมาณ 500,000 ตัวของไก่งวง และอาหาร 500,000 ตันถูกทิ้งในช่วงเทศกาล

ขยะอาหารเหล่านี้ไม่เพียงแค่เป็นการพลาดโอกาสในการนำอาหารไปใช้ช่วยเหลือผู้ที่ต้องการ แต่ยังมีส่วนในการสร้างก๊าซเรือนกระจก และการสิ้นเปลืองทรัพยากรอีกด้วย

เมื่อมีเทศกาล ขยะก็มักจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ในสหรัฐอเมริกา ผู้คนสร้างขยะเพิ่มขึ้น 25% ในช่วงวันหยุดระหว่างวันขอบคุณพระเจ้า (Thanks Giving) และวันปีใหม่เมื่อเทียบกับช่วงอื่นๆ ของปี ในช่วงเวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์ของเทศกาล ชาวอเมริกันสร้างขยะเพิ่มขึ้น 1 ล้านตัน

รอยเท้าคาร์บอนของซานตา

นอกเหนือจากบรรจุภัณฑ์ ของเล่น อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ แฟชั่นฟาสต์แฟชั่น และสินค้าอื่นๆ ที่ซื้อกันทั่วไปมักจะกลายเป็นขยะแล้ว วัสดุสำหรับเทศกาล เช่น กระดาษห่อของขวัญ ริบบิ้น โบ และการ์ด ก็มักจะถูกโยนทิ้งในวันคริสต์มาส

เนื่องจากวัสดุเหล่านี้รีไซเคิลได้ยาก จึงมักจะไปอุดตันหลุมฝังกลบ และพลังงานที่ใช้ไปกับไฟประดับตกแต่งห้องโถงยังส่งผลต่อปริมาณคาร์บอนในวันคริสต์มาสอีกด้วย

ตัวอย่างสถิติการสร้างขยะในช่วงเทศกาลคริสต์มาส

• ขยะบรรจุภัณฑ์: ในสหราชอาณาจักร การใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติกเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยมีการสร้างขยะบรรจุภัณฑ์พลาสติกประมาณ 114,000 ตัน ในช่วงเทศกาล
• กระดาษห่อของขวัญ: ใช้กระดาษห่อของขวัญประมาณ 227,000 ไมล์ ทั่วโลกทุกปี ซึ่งเพียงพอที่จะห่อรอบเส้นศูนย์สูตรถึงเก้าครั้ง
• ขวดแก้ว: ทั่วโลกมีการทิ้งขวดแก้วประมาณ 13,500 ตัน ในช่วงเทศกาล

การเฉลิมฉลองอย่างยั่งยืน

เพื่อเฉลิมฉลองคริสต์มาสอย่างยั่งยืน สามารถใช้แนวทางเหล่านี้ เช่น

• ต้นคริสต์มาส: เลือกการเช่าต้นไม้จริง หรือซื้อต้นไม้จริงที่ปลูกอย่างยั่งยืน
• วางแผนมื้ออาหาร: จัดทำรายการชอปปิง และยึดมั่นตามนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงการซื้ออาหารเกินความจำเป็น
• บริจาคอาหารส่วนเกิน: แบ่งปันอาหารที่เหลือให้กับธนาคารอาหารหรือครัวชุมชน
• รีไซเคิล และทำปุ๋ยหมัก: รีไซเคิลบรรจุภัณฑ์อย่างถูกต้อง และทำปุ๋ยหมักจากเศษอาหาร
• เลือกของขวัญที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม: เลือกของขวัญที่มีบรรจุภัณฑ์น้อยที่สุดและพิจารณาเลือกสิ่งที่มีประสบการณ์มากกว่าสิ่งของ
• ประหยัดพลังงาน: ใช้ไฟประดับที่มีประสิทธิภาพสูงและปิดเมื่อไม่ใช้งาน

ด้วยการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย เราสามารถเฉลิมฉลองเทศกาลอย่างมีความสุขพร้อมกับความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ขอให้คริสต์มาสปีนี้ไม่เพียงแต่เป็นเทศกาลที่มีความสุข แต่ยังเป็นเทศกาลที่ยั่งยืนด้วย

อ้างอิง : Truely Blog, Introspective Market Research, Fox Business, Waste Mission, Freight Waves

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์