เปิดรายชื่อ ‘บิ๊กคอร์ปไทย’ ธุรกิจยั่งยืน ขึ้นทำเนียบดัชนีดาวโจนส์ DJSI 2024

ดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (Dow Jones Sustainability Indices: DJSI) เป็นกลุ่มดัชนีที่ประเมินประสิทธิภาพด้านความยั่งยืนของบริษัทหลายพันแห่งที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เปิดตัวในปี 1999 และดำเนินการภายใต้ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ระหว่าง S&P Dow Jones Indices และ RobecoSAM (Sustainable Asset Management)

สำหรับองค์ประกอบของ DJSI จะได้รับการทบทวนในเดือนกันยายน ของทุกปี โดยอิงตามคะแนน S&P Global ESG ที่ดูในมิติเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล ที่ได้จากการประเมิน CSA ประจำปี และมีการปรับสมดุลใหม่ทุกไตรมาส โดยในปี 2567 มีบริษัทเข้าร่วมการประเมินมากกว่า 13,000 บริษัททั่วโลก แบ่งเป็น 62 กลุ่มอุตสาหกรรม

โดยในปี 2567 มีบริษัทเข้าร่วมการประเมินมากกว่า 13,000 บริษัททั่วโลก แบ่งเป็นหลายกลุ่มอุตสาหกรรม ทั้งนี้ การจะอยู่ในแต่ละดัชนี แต่ละบริษัทต้องมีคะแนนดีที่สุดในกลุ่มธุรกิจ (best-in-class)

การเข้าร่วมการประเมิน CSA ประจำปี 2024 ยังคงดำเนินอยู่ และจะสิ้นสุดในเดือนมกราคม 2025 ก่อนจะเปลี่ยนชื่อเป็น Dow Jones Best-in-Class Indices ที่จะมีผลในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2025

ล่าสุด S&P Global ประกาศผลหลังจากบริษัทที่อยู่ใน DJSI 2024 พบว่าบริษัทที่มีมูลค่าตลาดแบบลอยตัว ‘สูงสุดสามอันดับแรกของโลก’ ที่ถูกเพิ่ม และลบออกจาก DJSI World ได้แก่ Alphabet Inc. บริษัทแม่ของ Google, UnitedHealth Group Inc., และ ASML Holding NV. และบริษัทที่เพิ่มเข้ามี Airbus SE, Schlumberger Ltd., และ BAE Systems Plc.

ส่วนบริษัทไทยที่ติดดัชนี DJSI 2024 ตามการประกาศ ณ วันที่ 23 ธันวาคม 2024 (ตามเวลา US ET) แบ่งเป็น 2 กลุ่มดัชนี คือ DJSI World (บริษัทในกลุ่มท็อป 10%ในแต่ละกลุ่มธุรกิจ) และ DJSI Emerging Markets (บริษัทในกลุ่มท็อป 10% ของบริษัทที่ใหญ่ที่สุด 800 บริษัทใน 20 ตลาดเกิดใหม่)

13 บริษัท DJSI World 2024

บริษัทไทยที่ติด DJSI World 2024 มี 13 บริษัท ใน 10 กลุ่มธุรกิจ ดังนี้

• 1. กลุ่มธุรกิจธนาคาร ประกอบด้วย ธนาคารกสิกรไทย และบริษัทเอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน)
• 2. กลุ่มธุรกิจจัดจำหน่ายและค้าปลีกสินค้าฟุ่มเฟือย ประกอบด้วย บริษัทเซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
• 3. กลุ่มธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคและการค้าปลีก ประกอบด้วย บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน)
• 4. กลุ่มธุรกิจพลังงาน ประกอบด้วย บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) และบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน)
• 5. กลุ่มธุรกิจอาหาร เครื่องดื่ม ฯลฯ ประกอบด้วย บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน)
• 6. กลุ่มธุรกิจอุปกรณ์และบริการดูแลสุขภาพ ประกอบด้วย บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน)
• 7. กลุ่มธุรกิจวัสดุ ประกอบด้วย บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) และบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC
• 8. กลุ่มธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ประกอบด้วย บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน)
• 9. กลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีฮาร์ดแวร์ ประกอบด้วย บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
• 10. กลุ่มธุรกิจการขนส่ง ประกอบด้วย บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.

ทั้งนี้ 13 บริษัทไทยดังกล่าวเป็นบริษัทที่มีรายชื่อใน DJSI World ปี 2023 ด้วย ขณะที่บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ภายใต้กลุ่มธุรกิจบริการโทรคมนาคม และ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) ภายใต้กลุ่มธุรกิจวัสดุที่มีรายชื่อใน DJSI World 2023 ยังไม่ปรากฏชื่อในการประกาศในวันที่ 23 ธันวาคม 2024 ของ S&P Global

26 บริษัทติดกลุ่มตลาดเกิดใหม่

DJSI Emerging Markets 2024 ซึ่งเน้นเฉพาะบริษัทจากตลาดเกิดใหม่ โดยบริษัทไทยมีรายชื่อ 26 บริษัทใน 12 กลุ่มธุรกิจ ดังนี้

• 1. กลุ่มธุรกิจธนาคาร ประกอบด้วย บริษัท ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน)
• 2. กลุ่มธุรกิจจัดจำหน่ายและค้าปลีกสินค้าฟุ่มเฟือย ประกอบด้วย บริษัทเซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน), บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน)
• 3. กลุ่มธุรกิจบริการผู้บริโภค ประกอบด้วย บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน)
• 4. กลุ่มธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคและการค้าปลีก ประกอบด้วย บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน)
• 5. กลุ่มธุรกิจพลังงาน ประกอบด้วย บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน), บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน), บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) และบริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน)
• 6. กลุ่มธุรกิจอาหาร เครื่องดื่ม ฯลฯ ประกอบด้วย บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF, บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) และบริษัท ไทยยูเนี่ยน จำกัด (มหาชน)
• 7. กลุ่มธุรกิจอุปกรณ์และบริการดูแลสุขภาพ ประกอบด้วย บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS
• 8. กลุ่มธุรกิจวัสดุ ประกอบด้วย บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน), บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) และบริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน)
• 9. กลุ่มธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ประกอบด้วย บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน)
• 10. กลุ่มธุรกิจโทรคมนาคม ประกอบด้วย บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
• 11. กลุ่มธุรกิจการขนส่ง ประกอบด้วย บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TOT และบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน)
• 12. กลุ่มธุรกิจสาธารณูปโภค ประกอบด้วย บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO, บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน)

ทั้งนี้ 25 บริษัทไทยดังกล่าวเป็นบริษัทที่มีรายชื่อใน DJSI Emerging Markets ปี 2023 ด้วย ยกเว้น บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด ที่เข้าใหม่ปี 2024

“โออาร์” คะแนนสูงสุดกลุ่มค้าปลีก

ม.ล.ปีกทอง ทองใหญ่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR เปิดเผยว่า ปี 2567 เป็นปีที่ 2 ที่ OR ได้รับคัดเลือกจาก S&P Global ให้เป็นสมาชิก DJSI ในกลุ่มดัชนีตลาดเกิดใหม่ โดยได้รับคะแนนสูงสุดในกลุ่มธุรกิจค้าปลีก (Retailing) ซึ่งถือเป็นความภาคภูมิใจ

ทั้งนี้ เป็นการชี้ให้เห็นถึงการพัฒนา และปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ทางธุรกิจให้สอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงรวมถึงการรักษามาตรฐานในการดำเนินธุรกิจของ OR เพื่อสร้างความเข้มแข็ง และการเติบโตอย่างยั่งยืน เคียงข้างชุมชน เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม ตามแนวทาง ESG ผ่านแนวคิด OR SDG in Action ซึ่งชี้ให้เห็นการขับเคลื่อนธุรกิจเพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน

นอกจากนี้ OR ให้ความสำคัญของภาคธุรกิจในการเป็นกำลังสำคัญที่จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตคนในสังคมโดยขับเคลื่อนผ่านโครงการสำคัญต่างๆ เช่น โครงการพัฒนาการปลูกกาแฟอย่างยั่งยืน ที่มุ่งพัฒนา และส่งเสริมการปลูกกาแฟควบคู่ไปกับการอนุรักษ์ธรรมชาติ เพื่อพัฒนาทักษะความรู้ในการประกอบอาชีพอย่างยั่งยืนให้แต่เกษตรกร

“ไทยยูเนี่ยน” รักษาสมดุลท้องทะเล

นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ทียู กล่าวว่า การที่ไทยยูเนี่ยนได้รับการจัดอันดับเป็นที่ 1 ในอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์อาหารของ DJSI ครั้งนี้ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นและความพยายามในการขับเคลื่อนธุรกิจอย่างยั่งยืนร่วมกันของพนักงาน คู่ค้า พันธมิตรทางธุรกิจ และลูกค้าจากทั่วทุกมุมโลก ภายใต้กลยุทธ์ความยั่งยืน SeaChange®2030

"เรามุ่งสร้างความเป็นอยู่ที่ดีให้กับผู้คนควบคู่ไปกับการดูแลรักษาความอุดมสมบูรณ์ของท้องทะเล ในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้เกิดขึ้นทั้งในการดำเนินงานของเรา และตลอดทั้งอุตสาหกรรมอาหารทะเลทั่วโลก เพื่อผู้คน และโลกของเราอย่างยั่งยืน”

“บ้านปู” จัดการของเสียอุตสาหกรรม

รายงานข่าวจากบริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) ระบุว่า บ้านปูได้รับคะแนน DJSI สูงขึ้น โดยมีพัฒนาการเด่น 3 ด้าน ได้แก่ การจัดการของเสีย และมลสาร (Waste & Pollutants) ด้วยการปรับปรุงนโยบายการจัดการของเสียให้ครอบคลุมของเสียทุกประเภท และการประเมินประเด็นด้านความยั่งยืนที่สำคัญ (Materiality) ด้วยการสำรวจความคิดเห็นผู้มีส่วนได้เสียโดยบุคคลภายนอกอย่างต่อเนื่อง

รวมทั้งการประเมินประเด็นสำคัญพิจารณาผลกระทบ 2 มิติ ได้แก่ ผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม และความโปร่งใสของการรายงาน (Transparency & Reporting) ด้วยการเปิดเผยข้อมูลผลการดำเนินงานที่เป็นไปตามการจำแนก และจัดกลุ่มกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Sustainability Taxonomy) ในรายงานความยั่งยืนประจำปี 2566

ครอบครัวดัชนีความยั่งยืน

ครอบครัวดัชนีความยั่งยืนของ Dow Jones (DJSI) ประกอบด้วยดัชนีหลายชุดที่ครอบคลุมระดับโลก ภูมิภาค และประเทศ โดยการประเมินบริษัทตามเกณฑ์ด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแล (ESG) ตัวอย่างดัชนีที่สำคัญในครอบครัว DJSI มีดังนี้

• DJSI World: รวมบริษัทชั้นนำระดับโลกที่มีคะแนนความยั่งยืนสูงสุด
• DJSI North America: รวมบริษัทชั้นนำจากอเมริกาเหนือ
• DJSI Europe: รวมบริษัทชั้นนำจากยุโรป
• DJSI Asia Pacific: รวมบริษัทชั้นนำจากภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
• DJSI Emerging Markets: รวมบริษัทชั้นนำจากตลาดเกิดใหม่
• DJSI Country Indices: ดัชนีระดับประเทศสำหรับประเทศต่างๆ เช่น DJSI US, DJSI UK, DJSI Japan เป็นต้น

องค์ประกอบของ DJSI จะได้รับการทบทวนในเดือนกันยายนของทุกปีโดยอิงตามคะแนน S&P Global ESG ที่ได้จาก SAM CSA ประจำปี และมีการปรับสมดุลใหม่ทุกไตรมาส โดยการจะอยู่ในแต่ละดัชนี แต่ละบริษัทต้องมีคะแนนดีที่สุดในกลุ่มธุรกิจ ดังนี้

• ดัชนีโลก : กลุ่มท็อป 10%
• ดัชนีภูมิภาค : กลุ่มท็อป 20%
• ดัชนีประเทศ : กลุ่มท็อป 30%

ดัชนีเหล่านี้ออกแบบมาเพื่อช่วยให้นักลงทุนระบุบริษัทที่เป็นผู้นำด้านความยั่งยืนในแต่ละภูมิภาคและอุตสาหกรรม อีกทั้งยังส่งเสริมให้บริษัทปรับปรุงแนวปฏิบัติด้านความยั่งยืนของตนเองเพื่อสร้างอนาคตที่ยั่งยืนมากยิ่งขึ้น

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์