สาวๆ TikTok ตั้งเป้า No Buy 2025 ปฏิวัติตัวเอง ไม่ซื้อฟุ่มเฟือย ลดขยะเพื่อโลก

สาวๆ TikTok ตั้งเป้า No Buy 2025 ปฏิวัติตัวเอง ไม่ซื้อฟุ่มเฟือย ลดขยะเพื่อโลก

เทรนด์ "ปีที่ไม่ซื้อของ" กำลังเป็นที่นิยมขึ้นในปี 2025 นี้ การเคลื่อนไหวนี้สนับสนุนให้ทุกคน โดยเฉพาะผู้หญิง เลือกที่จะไม่ซื้อสิ่งที่ไม่จำเป็นตลอดทั้งปี โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการใช้ชีวิตแบบมินิมอล ลดการบริโภคที่เกินความจำเป็น และเลือกทำสิ่งที่ยั่งยืนมากขึ้น

KEY

POINTS

  • การศึกษาในปี 2023 พบว่าผู้บริโภค ซื้อเสื้อผ้ามากขึ้น 60% เมื่อเทียบกับ 15 ปีที่แล้ว ซึ่งนำไปสู่ขยะที่เพิ่มขึ้น
  • มีการทิ้งบรรจุภัณฑ์ความงามประมาณ 120 พันล้านชิ้นทั่วโลกทุกปี
  • ปีแห่งการไม่ซื้อ สนับสนุนให้คนมุ่งมั่นที่จะไม่ซื้อสิ่งของที่ไม่จำเป็นเป็นเวลาหนึ่งปีเต็ม
  • อินฟลูเอนเซอร์ชื่อ Kay @adventuringwithkayla บน TikTok ได้ประหยัดเงินไปแล้ว 10,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 3.4 แสนบาท) จากการตั้งเป้าไม่ซื้อของในปี 2024

ในปี 2025 มีเทรนด์ใหม่กำลังได้รับความนิยมในโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะในหมู่ผู้หญิงบน TikTok อินฟลูเอนเซอร์บน TikTok บางคน ที่มีชื่อเสียงในการทำคลิปสนับสนุนให้ผู้ติดตามช้อปปิ้ง กำลังเข้าสู่ปีใหม่ด้วยการให้คำแนะนำในทางตรงข้าม และติดแฮลแท็ก #NoBuy2025

โดยวิดีโอเหล่านั้นเน้นการหยุดซื้อของเกินความจำเป็น ประเภทเสื้อผ้า ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว และเครื่องสำอาง มีการตั้งเป้า challenge และทำรายการสินค้าที่จะหยุดซื้อเพราะไม่ได้ใช้ เป็นเวลาหลายเดือนหรือหลายปีทำให้ต้องหยุดช้อปปิ้งที่ไม่จำเป็นอย่างมีสติ

การเคลื่อนไหว “ปีแห่งการไม่ซื้อ” (No Buy Year) สนับสนุนให้คนมุ่งมั่นที่จะไม่ซื้อสิ่งของที่ไม่จำเป็นเป็นเวลาหนึ่งปีเต็ม แนวคิดนี้ง่ายแต่ทรงพลัง ลดการบริโภคอย่างต่อเนื่อง ประหยัดเงิน และใช้ชีวิตอย่างตั้งใจมากขึ้น แต่นอกเหนือจากผลประโยชน์ส่วนตัว เทรนด์นี้ยังมีผลกระทบเชิงบวกอย่างมากต่อความยั่งยืนและสิ่งแวดล้อม

สาวๆ TikTok ตั้งเป้า No Buy 2025 ปฏิวัติตัวเอง ไม่ซื้อฟุ่มเฟือย ลดขยะเพื่อโลก

อินฟลูเอนเซอร์ชื่อ Kay @adventuringwithkayla บน TikTok กล่าวในวิดีโอของเธอว่า ได้ประหยัดเงินไปแล้ว 10,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 3.4 แสนบาท) จากการตั้งเป้าไม่ซื้อของในปี 2024 เช่น เสื้อผ้าใหม่ เครื่องประดับ และของตกแต่งบ้าน แต่ซื้อของมือสองเป็นครั้งคราว และเธอกล่าวว่าจะใช้เป้าหมายนี้อีกในปี 2025

ปีแห่งการไม่ซื้อท้าทายคนให้เริ่มพิจารณาพฤติกรรมการใช้จ่าย และเป็นผู้บริโภคที่มีความตั้งใจมากขึ้น โดยการไม่ซื้อของที่ไม่จำเป็น จะทำให้เราสามารถประหยัดเงิน ลดความรกในบ้าน และมุ่งเน้นไปที่สิ่งที่มีคุณค่าจริงๆ ในชีวิต การเปลี่ยนแปลงในทัศนคตินี้ช่วยให้หลุดพ้นจากวงจรการบริโภคเกินความจำเป็น และยอมรับวิถีชีวิตที่เรียบง่ายมากขึ้น

ทำไมต้องไม่ซื้อ?

ในบรรดาของใช้ของผู้หญิง เครื่องสำอางเป็นสิ่งของที่หลายคนซื้อเกินความจำเป็นมากทึ่สุด กิจวัตรด้านความงามเป็นหนึ่งในหมวดหมู่คอนเทนต์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดบนโซเชียลมีเดีย

โดยแฮชแท็กบนแพลตฟอร์ม Instagram เพียงแห่งเดียวมีการกล่าวถึง เครื่องสำอางประมาณ 2 ล้านครั้ง ส่วนในเกาหลีใต้ ผู้หญิงโดยเฉลี่ยมีผลิตภัณฑ์เสริมความงามสำหรับดูแลผิวอย่างน้อย 10 ขวดในเวลาเดียวกัน จำนวนสารเคมีสังเคราะห์ที่เราทาบนผิวหนังทุกวันในผลิตภัณฑ์เสริมความงามมีมากถึง 515 ชนิด

สถิติเกี่ยวกับขยะเครื่องสำอางและเสื้อผ้า

  • ในปี 2023 มีรายงานว่ามีการทิ้งบรรจุภัณฑ์ความงามประมาณ 120 พันล้านชิ้นทั่วโลกทุกปี
  • ประมาณ 95% ของบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอาง สิ้นสุดที่หลุมฝังกลบ
  • ในปี 2018 สหรัฐอเมริกาผลิตขยะเครื่องสำอางมากกว่า 7.9 พันล้านหน่วย ซึ่งส่วนใหญ่ประกอบด้วยพลาสติก
  • อุตสาหกรรมความงามใช้น้ำประมาณ 4 ล้านตันต่อปี ในการผลิตเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ความงาม
  • มีการทิ้งผ้าเปียกแบบใช้ครั้งเดียวประมาณ 11 พันล้านชิ้นทุกปี
  • มีเพียง 13% ของเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ความงาม ที่ไม่มีไมโครพลาสติก
  • ประมาณ 70% ของเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ความงาม มีน้ำมันปาล์มเป็นส่วนประกอบ

นอกจากเครื่องสำอาง เสื้อผ้าเป็นหนึ่งในกลุ่มของใช้ที่หลายคนซื้อเกินความจำเป็น
มีรายงานว่า การซื้อเกินจำเป็นมีส่วนทำให้เกิดขยะสิ่งทอประมาณ 30% การศึกษาในปี 2023 พบว่าผู้บริโภค ซื้อเสื้อผ้ามากขึ้น 60% เมื่อเทียบกับ 15 ปีที่แล้ว ซึ่งนำไปสู่ขยะที่เพิ่มขึ้น อิทธิพลของแฟชั่นแบบเร็ว (Fast Fashion) ทำให้อัตราการทิ้งเสื้อผ้าเพิ่มขึ้น 50% ตั้งแต่ปี 2000

การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ผู้คนต้องพิจารณาแนวทางของตนใหม่และเปลี่ยนมาใช้มาตรฐานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและยั่งยืน

ความยั่งยืนและสิ่งแวดล้อม

หนึ่งในเหตุผลที่น่าสนใจที่สุดที่จะเข้าร่วมปีแห่งการไม่ซื้อคือผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อม การบริโภคอย่างต่อเนื่องเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของการเสื่อมสภาพของสิ่งแวดล้อม มีส่วนทำให้เกิดมลพิษ การใช้ทรัพยากรอย่างสิ้นเปลือง และการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ด้วยการลดการบริโภค เราสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนได้อย่างมีนัยสำคัญและช่วยต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

ขั้นตอนปฏิบัติสำหรับปีแห่งการไม่ซื้อ

  • กำหนดเป้าหมายชัดเจน : ระบุสิ่งที่ต้องการบรรลุในปีแห่งการไม่ซื้อ ไม่ว่าจะเป็นการประหยัดเงิน การลดความยุ่งเหยิง หรือการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
  • สร้างรายการไม่ซื้อ : ระบุสิ่งที่จะไม่ซื้อตลอดปี เช่น เสื้อผ้าใหม่ อุปกรณ์เทคโนโลยี หรือผลิตภัณฑ์ความงาม
  • หาทางเลือก : สำรวจวิธีการตอบสนองความต้องการโดยไม่ซื้อของใหม่ เช่น การยืม การแลกเปลี่ยน หรือการนำสิ่งที่คุณมีอยู่แล้วมาใช้ใหม่
  • สนับสนุนแบรนด์ที่ยั่งยืน : เมื่อคุณจำเป็นต้องซื้อของ ให้เลือกแบรนด์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและมีจริยธรรม
  • รักษาความรับผิดชอบ : แบ่งปันเรื่องราวการเดินทางของคุณบนโซเชียลมีเดีย เข้าร่วมชุมชนปีแห่งการไม่ซื้อ และหาคู่หูเพื่อรักษากำลังใจ

 

 

 

 

อ้างอิง : TheRoundup.org, Glamore

ภาพ : TikTok/Saiyanbabes, TikTok/thegemden, TikTok/jaredstablish,

TikTok/rebecca.sowden, TikTok/thestyleaudit