ธนาคารสหรัฐแห่ถอนตัวจากกลุ่มแบงก์เน็ตซีโร่ หลังการเมืองเปลี่ยนขั้ว

ธนาคารสหรัฐแห่ถอนตัวจากกลุ่มแบงก์เน็ตซีโร่ หลังการเมืองเปลี่ยนขั้ว

ธนาคารใหญ่ 6 แห่งของสหรัฐ ถอนตัวออกจากกลุ่มพันธมิตร Net Zero Banking Alliance ก่อนทรัมป์เข้ารับตำแหน่ง หวั่นโดนโจมตีจากนักการเมืองฝ่ายขวา

KEY

POINTS

  • ธนาคารใหญ่ 6 แห่งของสหรัฐ ถอนตัวออกจากกลุ่มพันธมิตร Net Zero Banking Alliance ก่อนทรัมป์เข้ารับตำแหน่ง
  • สาเหตุที่ธนาคารทั้ง 6 ถอนตัวออกจาก NZBA เป็นเพราะการเมืองเปลี่ยนขั้ว และป้องกันการโจมตีจากกลุ่มนักการเมืองฝ่ายขวาของสหรัฐ
  • หลังจากที่ธนาคารในสหรัฐถอนตัวออกไป NZBA ยังคงมีธนาคารที่เป็นสมาชิกอยู่ 141 แห่ง

JP Morgan” เป็นธนาคารล่าสุดที่ถอนตัวออกจาก Net Zero Banking Alliance หรือ NZBA กลุ่มพันธมิตรธนาคารที่มีเป้าหมายปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสหประชาชาติ ต่อจาก Citigroup, Bank of America, Morgan Stanley, Wells Fargo และ Goldman Sachs ที่ถอนตัวออกไปตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคม

นักวิเคราะห์ กล่าวว่า สาเหตุที่ธนาคารทั้ง 6 ถอนตัวออกจาก NZBA เป็นเพราะการเมืองเปลี่ยนขั้วและป้องกันการโจมตีจากกลุ่มนักการเมืองฝ่ายขวาของสหรัฐ ซึ่งคาดว่าจะทวีความรุนแรงขึ้น เมื่อทรัมป์เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีคนที่ 47 ของประเทศในช่วงไม่กี่วันข้างหน้า

ทรัมป์ให้สัญญาว่าจะยกเลิกการควบคุมภาคส่วนพลังงาน ยกเลิกกฎเกณฑ์ด้านสิ่งแวดล้อม และมุ่งเน้นการผลิตน้ำมันในสหรัฐตามนโยบาย “Drill, baby, drill” ซึ่งคาดว่าจะเป็นส่วนสำคัญของแผนงานในการบริหารสหรัฐในฐานะที่เป็นผู้ผลิตน้ำมัน และก๊าซรายใหญ่ที่สุดในโลก

แพดดี้ แม็กคัลลี นักวิเคราะห์อาวุโสจาก Reclaim Finance กล่าวว่า “การที่ธนาคารใหญ่ๆ ของสหรัฐออกจาก NZBA อย่างกะทันหัน ถือเป็นความพยายามหลีกเลี่ยงการวิพากษ์วิจารณ์จากทรัมป์ และพวกพ้องที่ไม่เชื่อในการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นวาระสำคัญในทุกวงการ กลุ่มธนาคารต่างกระตือรือร้นที่จะแสดงความมุ่งมั่นในการดำเนินการเกี่ยวกับสภาพภูมิอากาศ แต่ตอนนี้โมเมนตัมทางการเมืองเปลี่ยนไป ทำให้ปัญหาสภาพภูมิอากาศไม่ใช่เรื่องสำคัญสำหรับพวกเขาอีกต่อไป

NZBA จัดขึ้นโดยโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติว่าด้วยข้อริเริ่มด้านการเงิน (UNEP-FI) โดย NZBA ตั้งเป้าให้สมาชิกดำเนินการปล่อยสินเชื่อ การลงทุน และตลาดทุนให้สอดคล้องกับการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ หรือ เน็ตซีโร่ ภายในปี 2050 หรือเร็วกว่านั้น

โฆษกของธนาคาร Citigroup ที่เป็นหนึ่งในสมาชิกผู้ก่อตั้งของ NZBA กล่าวว่า การตัดสินใจถอนตัวของ Citigroup จะทำให้ธนาคารสามารถมุ่งเน้นไปที่การแก้ไขอุปสรรคในการระดมทุนสู่ตลาดเกิดใหม่ เพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่คาร์บอนต่ำ

“เรายังคงมุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมายเน็ตซีโร่ และธนาคารยังคงโปร่งใสในการแสดงความคืบหน้า” ธนาคารกล่าว

ส่วนแถลงการณ์ของ JP Morgan ระบุว่า ธนาคารจะทำงานอย่างอิสระ เพื่อส่งเสริมผลประโยชน์ของบริษัท  ลูกค้า และผู้ถือหุ้นของบริษัท อีกทั้งมุ่งเน้นไปที่การแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อช่วยส่งเสริมเทคโนโลยีคาร์บอนต่ำ เพื่อพัฒนาความมั่นคงด้านพลังงาน

ในส่วนของโฆษกของ Goldman Sachs กล่าวว่า ธนาคารมุ่งเน้นมากต่อมาตรฐานที่เข้มงวดยิ่งขึ้นและข้อกำหนดการรายงานที่กำหนดโดยหน่วยงานกำกับดูแล และยืนกรานว่าเป้าหมายเน็ตซีโร่ของธนาคารก้าวหน้าอย่างมาก

ขณะที่ Wells Fargo ยืนยันว่าถอนตัวออกจริง ทางด้าน Bank of America และ Morgan Stanley ไม่แสดงความเห็น

โทบี้ ควาน ผู้จัดการอาวุโสของ Carbon Trust พันธมิตรผู้เชี่ยวชาญด้านลดการปล่อยคาร์บอน และเร่งสู่เน็ตซีโร่ กล่าวว่า การถอนตัวของธนาคารจาก NZBA อาจทำให้ธนาคารมีความยืดหยุ่นมากขึ้นในการตัดสินใจว่าจะรวมภาคส่วนใดไว้ในเป้าหมาย และจะปรับนโยบายให้สอดคล้องอย่างไร และผ่อนปรนกรอบเวลาในการดำเนินงานมากขึ้น

สถาบันการเงินที่เป็นสมาชิก NZBA ถูกนักการเมืองฝ่ายขวาในสหรัฐโจมตีเรื่อยมา ในปี 2022 การดำเนินการทางกฎหมายต่อต้านการผูกขาดที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งนำโดยอัยการสูงสุดของรัฐรีพับลิกันทำให้ธนาคารบางแห่งในสหรัฐขู่ว่าจะออกจาก NZBA หลังจากที่กลุ่มดังกล่าวทำการเปลี่ยนแปลงแนวทางปฏิบัติที่อาจตีความได้ว่าเป็นข้อกำหนดในการดำเนินการเกี่ยวกับเชื้อเพลิงฟอสซิล

จากนั้นในเดือนพฤศจิกายน 2024 กลุ่มรัฐที่นำโดยเท็กซัสฟ้อง BlackRock, Vanguard และ State Street ซึ่งเป็นบริษัทจัดการสินทรัพย์ขนาดใหญ่ ในข้อกล่าวหาว่าใช้นโยบายที่สนับสนุนสภาพอากาศ โดยเฉพาะการลดการพึ่งพาถ่านหิน เป็นสาเหตุที่ทำให้ราคาพลังงานสูงขึ้น

ล่าสุดในเดือนธันวาคม 2024 คณะกรรมการตุลาการที่นำโดยพรรครีพับลิกันในสภาผู้แทนราษฎรกล่าวหาบริษัทการเงิน และนักเคลื่อนไหวด้านสภาพอากาศว่า สมคบคิดกันเพื่อให้บริษัทต่างๆ กำหนดเป้าหมาย ESG สุดขั้ว

หลังจากที่ธนาคารในสหรัฐถอนตัวออกไป NZBA ยังคงมีธนาคารที่เป็นสมาชิกอยู่ 141 แห่ง ซึ่งธนาคารใหญ่ๆ ในยุโรปยังคงอยู่ทั้งหมด

แม็กคัลลี กล่าวว่า การถอนตัวของธนาคารในสหรัฐ ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อธนาคารอื่นๆ ที่เป็นสมาชิก และไม่ได้ใช้เหตุการณ์นี้เป็นข้ออ้างที่จะออกจากกลุ่ม

สอดคล้องกับความเห็นของควานที่กล่าวว่า การถอนตัวของธนาคารในสหรัฐไม่ได้สั่นคลอนฐานะของ NZBA แต่อย่างใด “ในขณะที่สถาบันการเงินหลักเหล่านี้ออกจากพันธมิตรทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับอนาคตของการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศในภาคการเงิน สมาชิก NZBA ที่เหลือถือเป็นส่วนสำคัญของภาคการธนาคารทั่วโลก โดยควบคุมสินทรัพย์ธนาคารทั่วโลกประมาณ 40% หรือ 64 ล้านล้านดอลลาร์ อิทธิพลอันสำคัญนี้ไม่สามารถมองข้ามได้ และสมาชิก NZBA สามารถขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจยุคเน็ตซีโร่ได้”

ขณะที่ NZBA ไม่แสดงความเห็น

 

ที่มา: EarthThe Guardian

พิสูจน์อักษร....สุรีย์   ศิลาวงษ์