‘อภิมหาภัยแล้ง’ ครั้งใหญ่กำลังมา! ทั่วโลกเจอแล้งรุนแรง และยาวนานเป็นปี

“อภิมหาภัยแล้ง” ครั้งใหญ่ กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว และแพร่กระจายไปทั่วโลก ส่งผลให้การดำรงชีพตกอยู่ในความเสี่ยง
KEY
POINTS
- วิจัยพบ “อภิมหาภัยแล้ง” (Megadrought) ภัยแล้งรุนแรงเกิดขึ้นนานขึ้น บ่อยครั้งขึ้น และรุนแร
“การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ” กำลังทำให้ “ภัยแล้ง” ที่เกิดในโลกนี้รุนแรงมากขึ้น และเลวร้ายลงเรื่อย ๆ จนอาจเกิดเป็น “อภิมหาภัยแล้ง” (Megadrought) นั่นคือ ภัยแล้งรุนแรงเกิดขึ้นนานขึ้น บ่อยครั้งขึ้น และรุนแรงขึ้น ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ทั่วโลก ตามข้อมูลจากการศึกษาใหม่ของสถาบันวิจัยป่าไม้ หิมะ และภูมิทัศน์แห่งสหพันธรัฐสวิส (WSL) ร่วมกับสถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีออสเตรีย (ISTA)
โดยเฉลี่ยแล้ว ตั้งแต่ปี 1980 เป็นต้นมา พื้นที่ที่ประสบภัยแล้งได้ขยายออกไปอีก 50,000 ตารางกิโลเมตรต่อปี ซึ่งเท่ากับมากกว่าพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา และเชียงใหม่ สองจังหวัดที่มีพื้นที่มากที่สุดของไทยรวมกันเสียอีก
การขยายตัวของพื้นที่ภัยแล้งก่อให้เกิดความเสียหายอย่างมหาศาลต่อระบบนิเวศ เกษตรกรรม และการผลิตพลังงาน
ตัวอย่างที่ชัดเจนของแนวโน้มเหล่านี้คือ ภัยแล้งครั้งใหญ่ที่กินเวลานานถึง 15 ปีในชิลี ซึ่งยาวนานที่สุดในรอบ 1,000 ปี ภัยแล้งดังกล่าวทำให้น้ำสำรองของประเทศเกือบจะหมดลง ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อภาคเกษตรกรรม และการทำเหมืองที่สำคัญ
แต่ที่น่าสังเกตคือ “ปัญหาภัยแล้ง” จะได้รับความสนใจก็ต่อเมื่อส่งผลกระทบต่อภาคเกษตรกรรมหรือป่าไม้ ซึ่งหากเกิดภัยแล้งกับภาคส่วนอื่น ก็อาจถูกตีความว่าไม่รุนแรง และไม่ถูกพูดถึง
เพื่อรับมือกับความท้าทายในการรับมือภัยแล้งที่รุนแรงต่อเนื่องหลายปี นักวิจัยได้วิเคราะห์ข้อมูลอุตุนิยมวิทยาทั่วโลกตั้งแต่ปี 1980-2018 โดยใช้ข้อมูลภูมิอากาศที่จัดทำโดย WSL ตั้งแต่ปี 1979 ด้วยการคำนวณค่าผิดปกติของปริมาณน้ำฝน และการระเหยของน้ำ ซึ่งเป็นการรวมการระเหยของน้ำและการคายน้ำของพืช ทีมวิจัยจึงสามารถทำแผนที่การเกิดภัยแล้งครั้งใหญ่ทั่วโลกได้ แม้แต่ในพื้นที่ห่างไกล เช่น ป่าดิบชื้นและเทือกเขาแอนดิส
“วิธีการของเราไม่เพียงแต่ทำแผนที่ภัยแล้งเท่านั้น แต่ยังช่วยเผยให้เห็นภัยแล้งรุนแรงที่เกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว เช่น ภัยแล้งที่ส่งผลกระทบต่อป่าฝนคองโกตั้งแต่ปี 2010-2018” เดิร์ค คาร์เกอร์ นักวิจัยอาวุโสที่ WSL และผู้เขียนร่วมของการศึกษานี้อธิบาย
ผลการค้นแสดงให้เห็นว่าระบบนิเวศในแต่ละพื้นที่ตอบสนองต่อภัยแล้งแตกต่างกันอย่างไร ทุ่งหญ้าในเขตอบอุ่นได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุด โดยได้รับผลกระทบทันทีจากความแห้งแล้งที่ยาวนาน ไม่สามารถฟื้นคืนกลับมาได้ ในขณะที่ป่าฝนเขตร้อนอาจสามารถบรรเทาผลกระทบจากภัยแล้งได้ชั่วคราว หากมีน้ำสำรองเพียงพอ แต่การขาดแคลนน้ำเป็นเวลานานอาจทำให้ต้นไม้ได้รับความเสียหายในระยะยาวและตายได้
ในทางกลับกัน ป่าเขตหนาว หรือป่าไทกา กลับเจริญเติบโตได้ดีในช่วงเริ่มต้นของภัยแล้ง เนื่องจากอุณหภูมิที่สูงขึ้นทำให้ฤดูกาลเจริญเติบโตของพวกมันยาวนานขึ้น แต่เมื่อภัยแล้งกินระยะเวลานานพืชพรรณ และระบบนิเวศในเขตนี้จะเริ่มได้รับผลกระทบ โดยพืชพรรณในเขตไทกาใช้เวลานานที่สุดในการฟื้นตัวจากภัยแล้ง
นักวิจัยได้จัดทำแผนที่ความละเอียดสูงที่แสดงถึงผลกระทบต่อพืชพรรณทั่วโลกจากภาวะแห้งแล้งรุนแรง โดยได้บันทึกแนวโน้มที่ชัดเจนของภาวะแห้งแล้งรุนแรงในช่วง 40 ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม นักวิจัยยังไม่ทราบแน่ชัดว่าผลกระทบในระยะยาวที่ระบบนิเวศของโลกต้องเจอจากภัยแล้งจะเป็นอย่างไร แม้ว่าบางพื้นที่ เช่น แถบอาร์กติกจะมีพื้นที่สีเขียวเพิ่มขึ้น แต่การขาดแคลนน้ำอย่างต่อเนื่องอาจนำไปสู่ความเสียหายที่ไม่อาจย้อนกลับได้
ปัจจุบันแต่ละประเทศมีมาตรการในการบรรเทาผลกระทบจากภัยแล้ง ด้วยชุดความคิดว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทุกปี หรือต้องเกิดขึ้นตามฤดูกาล ซึ่งมีวิธีการรับมือที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับอภิมหาภัยแล้งครั้งใหญ่ที่ยาวนาน และรุนแรงกว่าที่ต้องเจอในอนาคต
“เราหวังว่ารายการภัยแล้งที่เปิดเผยต่อสาธารณะที่เราจัดทำขึ้นจะช่วยให้ผู้กำหนดนโยบายสามารถเตรียมการและป้องกันได้อย่างเหมาะสมยิ่งขึ้น” ศ.ฟรานเชสก้า เปลลิชชอตติ นักวิจัยหลักระบุ โดยทีมงานพร้อมให้คำแนะนำผู้กำหนดนโยบายสำหรับการพัฒนากลยุทธ์บรรเทาผลกระทบ และป้องกันภัยแล้งที่แม่นยำ และมีประสิทธิภาพมากขึ้น
การศึกษานี้ทำหน้าที่เป็นเครื่องมือสำคัญในการทำความเข้าใจธรรมชาติที่เปลี่ยนแปลงไปของภัยแล้งในสภาพอากาศที่ร้อนขึ้น ผลการศึกษาเน้นย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการประเมินกลยุทธ์การบรรเทาภัยแล้งในปัจจุบันอีกครั้ง ซึ่งมักล้มเหลวในการคำนึงถึงลักษณะของภัยแล้งรุนแรง และยาวนานในอนาคต
อีกทั้ง การศึกษานี้ไม่เพียงแต่เปลี่ยนการรับรู้เกี่ยวกับภัยแล้งเท่านั้น แต่ยังเน้นย้ำถึงความจำเป็นสำคัญในการเตรียมการ และมาตรการนโยบายที่ดีขึ้นเพื่อรับมือกับภาวะภัยแล้งที่รุนแรง และต่อเนื่องมากขึ้น รวมถึงการกำหนดอนาคตที่ยืดหยุ่นสำหรับระบบนิเวศ เกษตรกรรม และการจัดการน้ำทั่วโลก
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์