‘ทรัมป์’ ฉุดโลกถอยหลัง? ลุยนโยบาย ‘ทำลายสภาพอากาศ’
![‘ทรัมป์’ ฉุดโลกถอยหลัง? ลุยนโยบาย ‘ทำลายสภาพอากาศ’](https://image.bangkokbiznews.com/uploads/images/md/2025/01/qKhq9xKK0g5gr6cHY1ov.webp?x-image-process=style/LG)
หลังจากเข้ารับตำแหน่งปธน.สหรัฐอย่างเป็นทางการ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ก็รีบลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารหลายฉบับ รวมถึงคำสั่งเกี่ยวกับสภาพภูมิอากาศที่ดูเหมือนว่า มาตรการเหล่านั้นจะทำให้โลกถอยหลัง เมื่อมหาอำนาจไม่สนโลกร้อน
บลูมเบิร์กรายงาน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ไม่รอช้าที่จะเดินหน้าต่อต้านสภาพอากาศ ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารหลายฉบับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งปธน.สหรัฐอย่างเป็นทางการ เพื่อล้มเลิกนโยบายของอดีตปธน.โจ ไบเดน ลุยพัฒนาอุตสาหกรรมเชื้อเพลิงฟอสซิล
นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น หลังจากนั้นยังมีการลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารเพิ่มเติมอีก ทั้งยังลบเว็บเพจสภาพอากาศของทำเนียบขาว เลื่อนการสัมมนาเกี่ยวกับสภาพอากาศ ให้คำมั่นลดหรือยุบหน่วยงานบริหารจัดการเหตุฉุกเฉินของรัฐบาลกลาง และอื่นๆ อีกมากมาย
การดำเนินการดังกล่าวทำให้ภูมิทัศน์ด้านภูมิอากาศของสหรัฐเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วภายในเวลาเพียง 1 สัปดาห์หลังทรัมป์รับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ
ด้านไมเคิล เบอร์เกอร์ ผู้อำนวยการศูนย์ซาบินเพื่อกฎหมายการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย บอกว่า ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่หลายอย่างอาจไม่ได้ทำจริงตามที่กล่าวไว้ แต่เป็นการบอกให้หลายฝ่ายพิจารณาสิ่งต่างๆ และกลับมาพร้อมกับแผนการดำเนินนโยบาย
นโยบายเกี่ยวกับสภาพอากาศที่รัฐบาลทรัมป์เริ่มดำเนินการเบื้องต้นมีดังนี้
ออกจากความตกลงปารีส
หนึ่งในนโยบายแรกของทรัมป์ คือการลงนามคำสั่งถอนสหรัฐออกจากความตกลงปารีส ซึ่งเป็นข้อตกลงที่เกือบ 200 ประเทศทั่วโลกลงนามร่วมกันเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกไม่ให้โลกร้อนมากขึ้น ซึ่งการถอนตัวออกจากข้อตกลงจะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 1 ปี จึงจะมีผลอย่างเป็นทางการ
ในการดำรงตำแหน่งสมัยแรกทรัมป์ก็ถอนสหรัฐออกจากความตกลงดังกล่าวเช่นกัน
ระงับการใช้จ่ายภายใต้ IRA
ทรัมป์ได้สั่งหน่วยงานต่างๆ โดยตรง ให้ระงับการใช้จ่ายทันที และทบทวนการใช้จ่ายภายใต้กฎหมายลดเงินเฟ้อของไบเดน (Inflation Reduction Act:IRA) รวมถึงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และกฎหมายงาน (Jobs Act)
ฝ่ายบริหารชี้แจงว่าการระงับดังกล่าวมีผลเฉพาะกับโครงการที่เกี่ยวข้องกับพลังงาน รวมถึงพลังงานหมุนเวียนและการสร้างเครือข่ายชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า แต่ไม่รวมการสร้างสะพานและทางหลวง
การระงับนี้จะใช้เวลา 90 วัน หลังจากนั้นจะมีการรายงานผลการตรวจสอบและดำเนินการขั้นต่อไป
ประกาศฉุกเฉินด้านพลังงาน
ทรัมป์ประกาศภาวะฉุกเฉินด้านพลังงานเมื่อวันจันทร์ที่ 20 ม.ค. โดยคำสั่งฝ่ายบริหารจะให้ความสำคัญกับเชื้อเพลิงฟอสซิล พลังงานน้ำ พลังงานชีวภาพ และนิวเคลียร์ มากกว่าพลังงานอื่นๆ
อาลัน ครุบนิก นักวิชาการอาวุโสจากสภาบันวิจัยไม่แสวงผลกำไรจาก Resources for the Future บอกว่า นโยบายดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง เพราะปธน.กำลังสั่งให้หน่วยงานของรัฐบาลกลางใช้อำนาจฉุกเฉิน ที่ทำให้หน่วยงานเหล่านี้มีอำนาจในการตัดสินใจ “ละเลยหรือลดการคำนึงถึงความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อม” มากขึ้น
เมินรถยนต์ไฟฟ้า
ทรัมป์สั่งให้รัฐบาลของตนพิจารณายกเลิกเงินอุดหนุนและนโยบายอื่นๆ ที่สนับสนุนยานยนต์ไฟฟ้า โดยทรัมป์ย้ำถึงความสนใจในการยุติ "การยกเว้นการปล่อยมลพิษของรัฐที่จำกัดการขายรถยนต์เชื้อเพลิงน้ำมันเบนซิน” ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่า ทรัมป์จะสร้างความท้าทายต่อรัฐแคลิฟอร์เนียในการจำกัดยอดขายรถยนต์ที่ใช้น้ำมันอีกครั้งเหมือนในวาระแรก
ระงับโครงการพลังงานลม
กระทรวงมหาดไทยสหรัฐสั่งระงับการอนุมัติสัญญาเช่า สิทธิผ่าน หรือการอนุญาตอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับพลังงานลมและโครงการโซลาร์เซลล์ในที่ดินและน่านน้ำรัฐบาลกลางเป็นเวลา 60 วัน และทรัมป์ยังได้สั่งให้ระงับการอนุญาติโครงการพลังงานลมนอกชายฝั่งแห่งใหม่ชั่วคราวอีกด้วย
ไฟเขียวส่งออกก๊าซธรรมชาติ
ทรัมป์ดำเนินการเปิดให้ออกใบอนุญาติส่งออกก๊าซธรรมชาติเหลวใหม่ในทันที และสั่งให้สามารถเช่าพื้นที่ทำโครงการน้ำมันและก๊าซนอกชายฝั่งได้
ขณะที่รัฐบาลไบเดนซึ่งเคยระงับการดำเนินงานดังกล่าว เผยไว้ว่า การส่งออกก๊าซธรรมชาติจะทำให้ราคาก๊าซสำหรับผู้บริโภคสหรัฐสูงขึ้น และทำให้โลกร้อนมากขึ้น
ความยุติธรรมลดลง
ทรัมป์ไม่เพียงแต่ยกเลิกคำสั่งของไบเดนที่สั่งให้หน่วยงานของรัฐบาลกลางพิจารณาถึงความยุติธรรมด้านสิ่งแวดล้อมมากขึ้นในทุกสิ่งที่ทำเท่านั้น แต่ยังเพิกถอนคำสั่งของคอดีตปธน.คลินตันในปี 1994 ที่เกี่ยวกับประเด็นนี้ด้วย
อลิซ คาสวาน อาจารย์ด้านกฎหมายจากมหาวิทยาลัยซานฟรานซิสโกกล่าวว่า ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงนี้ยังยากที่จะระบุได้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะหน่วยงานต่างๆ อาจกำหนดการพิจารณาถึงความยุติธรรมด้านสิ่งแวดล้อมไว้ในระเบียบของตนแล้ว และต้องมีการเปลี่ยนแปลงระเบียบใหม่แบบค่อยเป็นค่อยไป
ยุบโครงการสานต่ออาชีพ
โครงการ American Climate Corps ของไบเดน ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อให้คนรุ่นใหม่ได้เข้าไปทำงานเกี่ยวกับสภาพอากาศก็ถูกทรัมป์ยกเลิก แต่ยังไม่ชัดเจนว่าการระงับโครงการดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อผู้ที่มีงานทำจากโครงการนี้หรือไม่ อย่างไร
อ้างอิง: Bloomberg