ปิดโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ไม่คุ้มทุน สู้โซลาร์เซลล์ไม่ได้

ปิดโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ไม่คุ้มทุน สู้โซลาร์เซลล์ไม่ได้

เตรียมปิดโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์อิวานปาห์ หลังจากเปิดใช้งานเพียง 11 ปี เนื่องจากสู้ราคาโซลาร์เซลล์ที่ถูกกว่าไม่ไหว

KEY

POINTS

  • เตรียมปิดโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์อิวานปาห์ ในปี 2026 เพราะสู้ราคาแผงโซลาร์เซลล์ไม่ได้
  • โรงไฟฟ้าแห่งนี้เป็นต้นเหตุที่ทำให้มีนก และเต่าตายไปหลายพันตัว
  • แสงระยิบระยับจากกระจกนับแสนแผ่นของโรงไฟฟ้าทำให้ผู้คนสัญจรตาพร่า จนอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้

เตรียมปิดโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์อิวานปาห์ หลังจากเปิดใช้งานเพียง 11 ปี เนื่องจากมีแหล่งพลังงานสะอาดอื่นๆ ที่มีราคาถูกกว่า และถูกนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมยังกล่าวโทษโรงไฟฟ้าแห่งนี้เป็นต้นเหตุที่ทำให้มีนก และเต่าตายไปหลายพันตัว

โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์อิวานปาห์ เปิดดำเนินการอย่างเป็นทางการในปี 2014 บนพื้นที่ของรัฐบาลกลางประมาณ 5 ตารางไมล์ใกล้ชายแดนแคลิฟอร์เนีย-เนวาดา แม้ว่าโรงไฟฟ้าแห่งนี้จะได้รับการยกย่องว่าเป็นก้าวสำคัญสำหรับพลังงานสะอาดในขณะนั้น แต่โรงไฟฟ้าแห่งนี้กลับไม่สามารถแข่งขันกับเทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์อื่นๆ ที่มีราคาถูกกว่าได้

ในตอนนี้ Pacific Gas & Electric ผู้จัดหาแก๊สธรรมชาติ และไฟฟ้า และ บริษัทพลังงาน NRG Energy Inc ผู้เป็นเจ้าของร่วม ตกลงที่จะยุติสัญญาโรงไฟฟ้าอิวานปาห์ หากหน่วยงานกำกับดูแลอนุมัติข้อตกลงดังกล่าว จะส่งผลให้โรงไฟฟ้า 2 แห่งจากทั้งหมด 3 แห่งปิดตัวลงในปี 2026 โดยสัญญาคาดว่าจะมีผลบังคับใช้จนถึงปี 2039

ส่วน Southern California Edison บริษัทผู้ให้บริการไฟฟ้า ที่ซื้อพลังงานจากโรงไฟฟ้าแห่งนี้เช่นกัน กำลังหารือกับเจ้าของโรงงาน และกระทรวงพลังงานของสหรัฐเกี่ยวกับสัญญาของบริษัท

โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์อิวานปาห์ โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์อิวานปาห์

สู้โซลาร์เซลล์ไม่ได้

โรงไฟฟ้าอิวานปาห์ใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า “พลังงานแสงอาทิตย์แบบรวมความเข้มข้น” หรือ CSP (Solar-Concentrated Solar) เป็นระบบที่สร้างพลังงานจากแสงอาทิตย์ โดยใช้กระจกหรือเลนส์เพื่อรวมแสงอาทิตย์เป็นบริเวณกว้างเข้าสู่ตัวรับ ซึ่งโรงไฟฟ้าแห่งนี้มีแผ่นกระจกขนาดเท่าประตูโรงรถราว 350,000 บาน คอยสะท้อนแสงแดดไปยังหม้อน้ำบนหอคอยสูงเกือบ 140 เมตร เมื่อพลังงานจากดวงอาทิตย์เข้มข้นมากพอ จะเปลี่ยนน้ำนี้ให้เป็นไอน้ำซึ่งจะขับเคลื่อนกังหันเพื่อผลิตไฟฟ้า

จุดขายสำคัญประการหนึ่งของเทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์นี้คือ ความสามารถในการกักเก็บความร้อน ซึ่งช่วยให้สามารถผลิตไฟฟ้าได้ในตอนกลางคืนหรือเมื่อไม่มีแสงแดดโดยไม่ต้องใช้แบตเตอรี่

โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลด้วยเงินกู้ค้ำประกันมูลค่า 1,600 ล้านดอลลาร์ จากกระทรวงพลังงาน และจากบริษัทสาธารณูปโภคอย่าง Pacific Gas & Electric Company และ Southern California Edison ซึ่งทั้งสองบริษัทได้ทำข้อตกลงระยะยาวเพื่อซื้อพลังงานจากอิวานปาห์

เจนนี่ เชส นักวิเคราะห์ด้านพลังงานแสงอาทิตย์จาก BloombergNEF กล่าวว่า เทคโนโลยีนี้ค่อนข้างยุ่งยากและไม่เคยทำงานได้ดีอย่างที่ตั้งใจไว้

“โรงไฟฟ้าประเภทนี้รวมเอาชิ้นส่วนกลไกที่ซับซ้อนของโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงฟอสซิลทั้งหมดเข้าด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการทำงานของกังหัน และการบำรุงรักษาชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหวหลายชิ้น ไหนจะต้องคอยปรับกระจกให้หันตามดวงอาทิตย์ตลอดเวลา ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำได้ยากมาก” เชส กล่าว

ปิดโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ไม่คุ้มทุน สู้โซลาร์เซลล์ไม่ได้ กระจกหลายแสนแผ่นคอยสะท้อนแสงอาทิตย์

แต่ปัญหาใหญ่ที่สุดสำหรับของโรงไฟฟ้าแห่งนี้คือ นวัตกรรมที่เรียกว่า “แผงโซลาร์เซลล์” ที่มีราคาถูกกว่ามาก และใช้งานได้ดี เพราะตอนที่โรงไฟฟ้าแห่งนี้ถูกสร้างขึ้น ไม่มีใครคิดว่าแผงโซลาร์เซลล์จะมีราคาถูกขนาดนี้ แต่ตอนนี้ในบางประเทศแผงโซลาร์เซลล์มีราคาถูกพอๆ กับรั้วบ้าน และมีแบตเตอรี่ที่จุไฟได้มากขึ้น 

โฆษกของ NRG กล่าวว่า โครงการนี้ถือว่าประสบความสำเร็จ แต่เมื่อเวลาผ่านไป ความก้าวหน้าในเทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์ประเภทอื่น โดยเฉพาะโซลาร์เซลล์แบบโฟโตวอลตาอิค เช่น แผงโซลาร์เซลล์บนหลังคา และการจัดเก็บแบตเตอรี่ถูกพัฒนาไปไกลขึ้นทั้งในด้านประสิทธิภาพ คุ้มทุน และยืดหยุ่นมากขึ้นในการผลิตพลังงานสะอาดที่เชื่อถือได้ ขณะที่โพสต์บนเว็บไซต์ของ PG&E ระบุว่า

“เมื่อเวลาผ่านไปเทคโนโลยีของอิวานปาห์ไม่สามารถสู้เทคโนโลยีโฟโตวอลตาอิคที่มีราคาถูกกว่าได้”

ดังนั้นในเดือนมกราคม NRG ได้สรุปการเจรจากับ PG&E เพื่อยุติข้อตกลงการซื้อขายพลังงานที่ควรจะสิ้นสุดในปี 2039 ซึ่งจะช่วยให้ชาวแคลิฟอร์เนียประหยัดเงินได้อย่างมาก

โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์อิวานปาห์ โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์อิวานปาห์

 

โรงไฟฟ้าทำลายสิ่งแวดล้อม

โรงไฟฟ้าอิวานปาห์แห่งนี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเสมอมา แม้ว่าโรงไฟฟ้าจะตั้งอยู่ในทะเลทรายโมฮาวีที่กว้างใหญ่ และมีแสงแดดสาดส่องตลอดเวลา แต่ทะเลทรายแห่งนี้ก็ยังเป็นที่อยู่อาศัยของเต่าทะเลทรายที่ใกล้สูญพันธุ์อีกด้วย ถึงผู้พัฒนาโรงไฟฟ้าจะตกลงใช้มาตรการต่างๆ เพื่อปกป้อง และย้ายสัตว์เหล่านี้ไปอยู่ที่อื่น นักสิ่งแวดล้อมหลายคนเชื่อว่าไม่ควรอนุมัติโรงงานแห่งนี้

นอกจากนี้ แสงอาทิตย์ที่สะท้อนจากกระจกแผ่นใหญ่เป็นสาเหตุที่ทำให้สัตว์ปีกหลายพันตัวถูกเผาตาย อีกทั้งยังทำลายแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ และพืชพันธุ์ในทะเลทรายที่หายากอีกจำนวนมาก ทำให้เกิดการคัดค้านต่อต้านตลอดมา 

“โครงการนี้เป็นการสูญเสียทางการเงิน และหายนะด้านสิ่งแวดล้อม การก่อสร้างโครงการได้ทำลายแหล่งที่อยู่อาศัยอันบริสุทธิ์ของทะเลทรายที่ไม่สามารถทดแทนได้” จูเลีย โดเวลล์ นักรณรงค์อาวุโสของ Sierra Club องค์กรด้านสิ่งแวดล้อมกล่าว 

นอกจากการฆ่าสัตว์ปีก และเต่าหลายพันตัวแล้ว โดเวลล์ ยังกล่าวว่า ในช่วงแรก ๆ ที่เปิดโรงไฟฟ้าแห่งนี้ได้เกิดปัญหาผลิตไฟฟ้าได้น้อยกว่าปริมาณที่คาดเอาไว้ เป็นเพราะแสงแดดไม่ส่องแสงมากเท่าที่คาดไว้

ผู้ใช้รถใช้ถนนเองก็ได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน เนื่องจากโรงไฟฟ้าแห่งนี้มีกระจกนับแสนแผ่นที่คอยสะท้อนแสงอาทิตย์ตลอดเวลา โดยแสงระยิบระยับเหล่านี้ทำให้ผู้คนสัญจรตาพร่า จนอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้

หากข้อตกลงของ PG&E ได้รับการอนุมัติ NRG กล่าวว่าจะมีการปลดประจำการหน่วยต่างๆ ซึ่งจะช่วยให้นำโรงงานนี้ไปใช้ผลิตพลังงานหมุนเวียนอื่นได้ แต่ยังไม่ได้ระบุว่าจะทำอย่างไรกับอุปกรณ์ที่อยู่ในโรงไฟฟ้า 

 

ที่มา: AP NewsCNNNew York Post

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์

โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์อิวานปาห์