‘แผ่นน้ำแข็ง’ ทั่วโลกละลายเร็วขึ้น บางแห่งหายหมดในไม่กี่ปี ดันน้ำทะเลพุ่ง

น้ำแข็งทั่วโลกละลายเร็วขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา และเตือนว่าการละลายอาจเร็วกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้านี้ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า และทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น
KEY
POINTS
- ทีมนักวิจัยนานาชาติพบว่าน้ำแข็งละลายเพิ่มขึ้นประมาณ 36% ในช่วงปี 2012-2023 โดยเฉลี่ยแล้วน้ำแข็งจะสูญหายไปประมาณ 273,000 ล้านตันต่อป
นักวิทยาศาสตร์กล่าวเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ว่า น้ำแข็งทั่วโลกละลายเร็วขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา และเตือนว่าการละลายอาจเร็วกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้านี้ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า และทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น
“ธารน้ำแข็ง” เป็นตัวควบคุมสภาพอากาศที่สำคัญและเป็นแหล่งน้ำจืดของประชากรหลายพันล้านคนทั่วโลก แต่ในตอนนี้ธารน้ำแข็งเหล่านี้กำลังละลายอย่างรวดเร็วเนื่องจาก “ภาวะโลกร้อน” ทีมนักวิจัยนานาชาติพบว่าน้ำแข็งละลายเพิ่มขึ้นประมาณ 36% ในช่วงปี 2012-2023 เมื่อเทียบกับช่วงปี 2000-2011โดยเฉลี่ยแล้วน้ำแข็งจะสูญหายไปประมาณ 273,000 ล้านตันต่อปี ซึ่งเทียบเท่ากับการบริโภคน้ำของประชากรโลกเป็นเวลา 30 ปี
นับตั้งแต่เข้ายุค 2000 นักวิจัยพบว่าธารน้ำแข็งทั่วโลกสูญเสียธารน้ำแข็งไปแล้วประมาณ 650,000 ล้านตัน หรือคิดเป็น 5% ของทั้งหมด ซึ่งในแต่ละภูมิภาคมีอัตราสูญเสียน้ำแข็งแตกต่างกัน แอนตาร์กติกาสูญเสียน้ำแข็งไปแล้ว 2% แต่เทือกเขาแอลป์ในยุโรปเสียน้ำแข็งไปถึง 40%
ศ.ไมเคิล เซมป์ แห่งมหาวิทยาลัยซูริก ซึ่งเป็นผู้เขียนร่วมของการประเมินที่ตีพิมพ์ในวารสาร Nature กล่าวว่า ภูมิภาคที่มีธารน้ำแข็งขนาดเล็กกว่าจะสูญเสียธารน้ำแข็งเร็วกว่า และหลายแห่งจะละลายหายไปหมดภายในศตวรรษนี้ นั่นหมายความว่าภายในปี 2100 ระดับน้ำทะเลจะสูงขึ้นมากกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้านี้
นอกจากนี้ ศ.เซมป์เสริมว่า การสูญเสียธารน้ำแข็งยังส่งผลกระทบต่อแหล่งน้ำจืด โดยเฉพาะในเอเชียกลางและเทือกเขาแอนดีสตอนกลาง
ธารน้ำแข็งเป็นสาเหตุใหญ่เป็นอันดับสองที่ทำให้ระดับน้ำทะเลทั่วโลกสูงขึ้น รองจากอุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้น โดยการละลายของธารน้ำแข็งตั้งแต่ปี 2000 ทำให้น้ำทะเลสูงขึ้นเกือบ 20 เซนติเมตร ส่งผลผู้คนที่อาศัยอยู่ตามแนวชายฝั่งเกือบ 4 ล้านคน เสี่ยงเผชิญน้ำท่วมมากขึ้น
มาร์ติน ซีเกิร์ต ศาสตราจารย์มหาวิทยาลัยเอ็กเซเตอร์ กล่าวว่างานวิจัยนี้ สามารถคาดการณ์การสูญเสียธารน้ำแข็งเพิ่มเติมได้ และอาจบ่งชี้ว่าแผ่นน้ำแข็งขนาดใหญ่ของแอนตาร์กติกาและกรีนแลนด์ตอบสนองต่อภาวะโลกร้อนอย่างไร
“ปัจจุบันแผ่นน้ำแข็งมีมวลลดลงในอัตราที่เพิ่มขึ้นถึง 6 เท่าเมื่อเทียบกับ 30 ปีก่อน และเมื่อมวลเปลี่ยนแปลง เราก็จะเลิกพูดถึงหน่วยเซนติเมตรและเริ่มพูดถึงหน่วยเมตรแทน” ซีเกิร์ตกล่าว
ธารน้ำแข็งแต่ละแผ่น ใช้เวลาตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับขนาดของธารน้ำแข็ง โดยอาจใช้เวลาตั้งแต่ไม่กี่ปีไปจนถึงหลายทศวรรษ หมายความว่าธารน้ำแข็งจะยังคงละลายต่อไปในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า แต่โลกจะสูญเสียน้ำแข็งมากน้อยเพียงใด ขึ้นอยู่กับการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์และก๊าซเรือนกระจกอื่น ๆ ซึ่งหากไม่สามารถควบคุมภาวะโลกร้อนได้โลกอาจสูญเสียน้ำแข็งเกือบครึ่งหนึ่ง
ธารน้ำแข็งถูกใช้เป็นตัวบ่งชี้การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศที่เกิดจากการกระทำของมนุษย์มานานหลายทศวรรษ ในปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์ติดตามการเปลี่ยนแปลงของธารน้ำแข็ง 275,000 แห่งทั่วโลกได้ดีขึ้น โดยใช้กล้อง เรดาร์ เลเซอร์ ดาวเทียม และวิธีการต่าง ๆ ในการประเมินมวลน้ำแข็งของโลก
ในเดือนมกราคม 2025 สหประชาชาติกล่าวว่าการอนุรักษ์ธารน้ำแข็งทั่วโลกเป็น “กลยุทธ์การเอาชีวิตรอด” ที่สำคัญสำหรับคนทั้งโลก เพราะระดับน้ำทะเลที่เพิ่มขึ้นทุก 1 เซนติเมตร จะทำให้ผู้คนอีก 2 ล้านคนต้องเผชิญกับน้ำท่วมทุกปี
ดังนั้นวิธีที่ช่วยคงสภาพธารน้ำแข็งไว้ได้คือ การปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งทำได้ง่ายและซับซ้อนพอ ๆ กัน โดยศ.เซมป์ กล่าวว่า “การหลีกเลี่ยงภาวะโลกร้อนที่เพิ่มขึ้นเพียงเสี้ยวองศา จะช่วยให้เราประหยัดเงิน ช่วยชีวิต และช่วยแก้ปัญหาต่าง ๆ ได้”
ที่มา: Aljazeera, BBC, The Straits Times