ไทย-ญี่ปุ่น หนุนอุตสาหกรรมสีเขียว ตอบโจทย์ธุรกิจยั่งยืน -คาร์บอนเป็นศูนย์

ไทย-ญี่ปุ่น หนุนอุตสาหกรรมสีเขียว ตอบโจทย์ธุรกิจยั่งยืน -คาร์บอนเป็นศูนย์

ไทย-ญี่ปุ่น จับมือหนุนอุตสาหกรรมสีเขียว เจโทร ผนึก บีโอไอ และ สกพอ. ตั้ง Sustainable Business Desk ดันธุรกิจยั่งยืน-ความเป็นกลางทางคาร์บอน เอกชนไทย-ญี่ปุ่นขานรับ นำร่องโครงการพัฒนาเป็นรูปธรรม

คุโรดะ จุน ประธาน JETRO กรุงเทพฯ กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศส่งผลกระทบต่อโลกอย่างเห็นได้ชัด ทั้งอุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้น ภัยธรรมชาติที่รุนแรงขึ้น และผลกระทบต่อภาคเกษตรกรรม ซึ่งทำให้หลายประเทศกำหนดเป้าหมาย ความเป็นกลางทางคาร์บอน และ Net Zero Emissions ขณะเดียวกัน องค์กรด้านสิ่งแวดล้อมระดับโลกได้กำหนดมาตรฐานที่ภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมต้องปฏิบัติตาม นอกจากนี้ ผู้บริโภคและคู่ค้าก็ให้ความสำคัญกับแนวทาง ESG มากขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจที่คำนึงถึงความยั่งยืนกลายเป็นปัจจัยสำคัญในเศรษฐกิจปัจจุบัน

การจัดตั้ง Sustainable Business Desk มีเป้าหมายเป็นศูนย์กลางส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนของไทยและญี่ปุ่น เพื่อพัฒนาธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและขับเคลื่อนสู่เป้าหมาย Carbon Neutrality (CN)  โดยบทบาทสำคัญของศูนย์ฯ มีหน้าที่ช่วยเหลือภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมทั้งไทยและญี่ปุ่นในการปรับตัวเข้าสู่เศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy) และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกด้วยนวัตกรรม เทคโนโลยี และการลงทุนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ไทย-ญี่ปุ่น หนุนอุตสาหกรรมสีเขียว ตอบโจทย์ธุรกิจยั่งยืน -คาร์บอนเป็นศูนย์ ความร่วมมือระหว่างไทยและญี่ปุ่นในการผลักดันธุรกิจยั่งยืนสะท้อนผ่านการจัดงาน Thailand-Japan Sustainable Business Forum 2025 ซึ่งเป็นเวทีที่รวมหน่วยงานภาครัฐ เช่น BOI และ EECO รวมถึงภาคเอกชนจากทั้งสองประเทศ ที่ได้ร่วมมือกันจนเกิดผลเป็นรูปธรรม

ตัวอย่างโครงการสำคัญ ได้แก่

  • เครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP Group) และ CPF ร่วมกับ Thermalytica นำเสนอแนวทางลดอุณหภูมิในโรงเรือน ผ่านโครงการนำร่อง Proof of Concept (PoC) เพื่อทดสอบแนวทางการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจสีเขียว
  • PTTGC และ CBT/Toray พัฒนาเศษวัสดุทางการเกษตร เช่น น้ำตาลชีวภาพจากชีวมวลที่ไม่ใช่อาหาร เพื่อนำไปผลิต เรซินชีวภาพและเส้นใยชีวภาพ รองรับเศรษฐกิจหมุนเวียนและการผลิตคาร์บอนต่ำ
  • BLCP Power Limited และ Algal Bio ลงนามความร่วมมือโครงการนำร่อง Microalgae CCUS ใช้จุลสาหร่ายดักจับและนำก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์กลับมาใช้ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

ทั้งหมดนี้เป็นก้าวสำคัญของภาคธุรกิจไทย-ญี่ปุ่นในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมสีเขียวสู่อนาคต

นฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการ BOI ระบุว่า Sustainable Business Desk กล่าวความร่วมมือไทย-ญี่ปุ่น ในการผลักดันอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และลดการปล่อยคาร์บอน โดยศูนย์แห่งนี้จะช่วยภาคธุรกิจปรับตัวสู่ Green Economy ผ่านการลงทุน พัฒนานวัตกรรม และแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ภายใต้แนวคิด BCG Economy (Bio-Circular-Green Economy)

ซึ่งเป็นนโยบายหลักของรัฐบาลและ BOI มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนการลงทุนที่ยั่งยืน โดยเฉพาะการส่งเสริมอุตสาหกรรม BCG ในปี 2567 BOI อนุมัติโครงการลงทุนในกลุ่มนี้ไปแล้ว 939 โครงการ รวมมูลค่ากว่า 230,000 ล้านบาท และตั้งแต่ปี 2561-2567 มีการสนับสนุนไปแล้ว 5,380 โครงการ คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 1.15 ล้านล้านบาท ซึ่งสะท้อนถึงการเติบโตของธุรกิจสีเขียว และความตั้งใจของไทยในการเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจยั่งยืนของภูมิภาค

ไทย-ญี่ปุ่น หนุนอุตสาหกรรมสีเขียว ตอบโจทย์ธุรกิจยั่งยืน -คาร์บอนเป็นศูนย์ BOI ยังเดินหน้าปรับปรุงมาตรการส่งเสริมการลงทุนให้สอดคล้องกับทิศทางเศรษฐกิจสีเขียวที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ตัวอย่างเช่น

 

  • ขยายการสนับสนุนเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน (SAF) ที่กำลังเป็นเทรนด์ระดับโลก
  • พัฒนา Bio Hub ในพื้นที่ต่างๆ เพื่อเพิ่มมูลค่าวัตถุดิบทางการเกษตร
  • ปรับปรุงมาตรการ Smart & Sustainable Industry เพื่อช่วยให้ภาคอุตสาหกรรมปรับตัวสู่การผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และได้รับมาตรฐานความยั่งยืนระดับสากล

ดร.ชลจิต วรวังโส วีรกุล ผู้ช่วยเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) กล่าวว่าการลงทุนในพื้นที่ EEC ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งแต่ปี 2561-2567 มีมูลค่าการลงทุนที่ได้รับการส่งเสริมจาก BOI รวมกว่า 1.82 ล้านล้านบาท หรือราว 52.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นสัดส่วนเฉลี่ย 52% ของมูลค่าการลงทุนทั้งประเทศ

เฉพาะในปี 2567 มีการลงทุนใน EEC สูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 374,407 ล้านบาท นับตั้งแต่มีการประกาศใช้ พ.ร.บ. EECในปี 2561 โดยแบ่งเป็น

  1. อุตสาหกรรมการแพทย์และสุขภาพ 2,425 ล้านบาท
  2. อุตสาหกรรมดิจิทัลและอิเล็กทรอนิกส์ 110,681 ล้านบาท
  3. อุตสาหกรรมยานยนต์ 75,302 ล้านบาท
  4. เศรษฐกิจ BCG 27,609 ล้านบาท
  5. อุตสาหกรรมบริการ 41,686 ล้านบาท
  6. อุตสาหกรรมอื่นๆ 116,704 ล้านบาท

ไทย-ญี่ปุ่น หนุนอุตสาหกรรมสีเขียว ตอบโจทย์ธุรกิจยั่งยืน -คาร์บอนเป็นศูนย์

นักลงทุนญี่ปุ่น เป็นกลุ่มนักลงทุนต่างชาติรายใหญ่ใน EEC โดยมีสัดส่วน 12% ของมูลค่าการลงทุนทั้งหมด ในช่วงปี 2561-2567 โดยเฉพาะในอุตสาหกรรม ยานยนต์และชิ้นส่วน รวมถึง ปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์

สำหรับปี 2568 สกพอ. ตั้งเป้าดึงการลงทุนเข้าสู่ EEC เพิ่มอีก 150,000 ล้านบาท และภายใน 5 ปี (2566-2570) ตั้งเป้าการลงทุนรวมไว้ที่ 500,000 ล้านบาท

ปัจจุบัน สกพอ. ร่วมมือกับภาคส่วนต่างๆ ของญี่ปุ่นเพื่อขับเคลื่อนการลงทุนใน EEC โดยเฉพาะในอุตสาหกรรม BCG และสนับสนุนการจัดตั้ง Sustainable Business Desk อย่างเต็มที่ ญี่ปุ่นถือเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมสีเขียว เช่น เทคโนโลยีเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและประหยัดพลังงาน การผลิตพลังงานสะอาด และ ระบบติดตามและบริหารจัดการคาร์บอนในองค์กร

ซึ่งไทยกำลังอยู่ในช่วง เปลี่ยนผ่านจากอุตสาหกรรมแบบดั้งเดิมไปสู่อุตสาหกรรมสีเขียว ซึ่งยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก ความร่วมมือกับญี่ปุ่นจึงเปิดทางให้เกิด การจับคู่ทางธุรกิจ และ การลงทุนใหม่ ผ่านเทคโนโลยีล้ำสมัยของบริษัทญี่ปุ่นในอนาคต ไทยและญี่ปุ่นจะไม่เพียงแค่ซื้อและใช้งานเทคโนโลยีร่วมกันเท่านั้น แต่ยังมุ่ง ส่งเสริมการลงทุนในรูปแบบ Joint Venture เพื่อร่วมพัฒนาเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ตลาดในประเทศและระดับภูมิภาคมากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับแนวทาง Co-creation ที่รัฐบาลญี่ปุ่นกำลังผลักดัน