ดร.เฉลิมชัย หนุนฉลากคาร์บอน ลดก๊าซเรือนกระจก แก้ปัญหาภูมิอากาศ

ฉลากคาร์บอนถือเป็นส่วนสำคัญของกลยุทธ์สิ่งแวดล้อมของประเทศ ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของโลก
KEY
POINTS
- 'ฉลากคาร์บอน' เครื่องมือสำคัญต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
- ช่วยผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อสิ
ในขณะที่โลกกำลังเผชิญกับผลกระทบจากภาวะโลกร้อนที่เพิ่มขึ้น 'ฉลากคาร์บอน' เป็นเครื่องมือสำคัญในการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ฉลากนี้ทำหน้าที่เป็นตัวบ่งชี้ที่ชัดเจนเกี่ยวกับรอยเท้าคาร์บอนที่เกี่ยวข้องกับสินค้าและบริการของบริษัทต่างๆ ซึ่งช่วยให้ผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อสินค้าได้อย่างมีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม
ในประเทศไทย ฉลากคาร์บอน บริหารจัดการโดยองค์การจัดการก๊าซเรือนกระจก (TGO) หรือ อบก. ซึ่งรับผิดชอบในการกำหนดมาตรฐาน การรับรองสินค้าที่มีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์การลดการปล่อยคาร์บอน และการส่งเสริมความโปร่งใส ไม่เพียงแต่ให้ข้อมูลแก่ผู้บริโภค แต่ยังกระตุ้นให้ธุรกิจต่างๆ ปรับใช้แนวทางการดำเนินงานที่ยั่งยืนอีกด้วย
ล่าสุด ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) เป็นประธานในพิธีมอบประกาศนียบัตรเครื่องหมายรับรองฉลากคาร์บอน ซึ่งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) โดย อบก. จัดขึ้น เพื่อเชิดชูเกียรติและแสดงความขอบคุณต่อองค์กรที่ขอการรับรองเครื่องหมายฉลากคาร์บอน ในฐานะเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนการลดก๊าซเรือนกระจกเพื่อมุ่งสู่ Net Zero ณ ห้อง Conference Hall สถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย (องค์การมหาชน) หรือ TIJ ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ
ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือ
ดร.เฉลิมชัย กล่าวว่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมีภารกิจหลักในการรักษาความสมดุลของระบบนิเวศและส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยเฉพาะการจัดการกับปัญหาการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ในการนี้ กระทรวงฯ จึงได้พัฒนาและสนับสนุนมาตรการต่าง ๆ เพื่อควบคุมการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และทำให้ประเทศไทยสามารถบรรลุเป้าหมาย Net Zero ในอนาคต
"การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นประเด็นที่ต้องการความร่วมมืออย่างเต็มที่จากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน การร่วมมือในกระบวนการขอการรับรองเครื่องหมายฉลากคาร์บอนที่เกิดขึ้นขององค์กรต่างๆ ที่ได้รางวัลในครั้งนี้ ถือเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศให้บรรลุเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งจะช่วยสร้างความสามารถในการแข่งขันที่ยั่งยืนให้กับประเทศในระยะยาว"
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้ดำเนินการหลายโครงการและแนวทางเพื่อลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และสนับสนุนแนวทางเครื่องมือสำคัญ "ฉลากคาร์บอน" ของ TGO ซึ่งช่วยในการส่งเสริมความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อมและส่งเสริมการรับรู้ในสังคมเกี่ยวกับการจัดการคาร์บอน
เดินหน้าสู่สังคมคาร์บอนต่ำ
ดร.เฉลิมชัย ชื่นชมองค์กรที่ได้รับประกาศนียบัตรว่า สะท้อนถึงความมุ่งมั่นและความตั้งใจอันแน่วแน่ในการดำเนินกิจกรรมที่คำนึงถึงการจัดการก๊าซเรือนกระจกอย่างจริงจัง
"ขอเชิญชวนองค์กรอื่นๆ ที่ยังไม่ได้เริ่มต้นมาเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญนี้ ร่วมกันผลักดันภารกิจลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมยังคงพร้อมให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ และเดินหน้าอย่างมั่นคงสู่สังคมคาร์บอนต่ำที่ยั่งยืน ช่วยลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน"
6 เครื่องหมาย ช่วยลดคาร์บอน 11 ล้านตัน
ดร.ณัฐริกา วายุภาพ นิติพน รองผู้อำนวยการ รักษาการผู้อำนวยการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก กล่าวว่า อบก. ได้พัฒนาระบบรับรองเครื่องหมายฉลากคาร์บอนมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2552 จนถึงปัจจุบัน
เพื่อกระตุ้นให้ภาคส่วนต่าง ๆ เกิดการประเมินการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของผลิตภัณฑ์และบริการ องค์กร งานอีเว้นท์ บุคคล ต่อยอดสู่กิจกรรมชดเชยคาร์บอน และ Net Zero เพื่อให้เกิดการลดก๊าซเรือนกระจก อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับสินค้าและบริการของประเทศไทยในตลาดสากลต่อไป ที่ผ่านมา มีองค์กรที่ได้ให้ความสนใจดำเนินงานฉลากคาร์บอนเป็นอย่างมาก
โดยมีผลิตภัณฑ์ และองค์กรที่ได้รับอนุญาตให้ใช้เครื่องหมาย ได้แก่
- เครื่องหมายคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ หรือ CFP, เครื่องหมายลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ (ฉลากลดโลกร้อน) หรือ CFR, เครื่องหมายคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์เศรษฐกิจหมุนเวียน หรือ CE-CFP รวมจำนวน 11,486 ผลิตภัณฑ์ โดยมีปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ลดได้จากฉลากลดโลกร้อน จำนวน 10,076,362 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า
- เครื่องหมายคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร หรือ CFO จำนวน 1,426 องค์กร
- เครื่องหมายการชดเชยคาร์บอน (Carbon Offset & Carbon Neutral) ทั้งประเภทองค์กร ผลิตภัณฑ์ อีเว้นท์ และบุคคล ช่วยลดก๊าซเรือนกระจกทางอ้อมผ่านการจัดหาคาร์บอนเครดิตมาชดเชย จำนวน 1,635,169 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า
- เครื่องหมาย Net Zero ประเภทผลิตภัณฑ์ จำนวน 8 ผลิตภัณฑ์ ประเภทอีเว้นท์ จำนวน 4 อีเว้นท์ ประเภทบุคคล จำนวน 3 คน โดยมีปริมาณคาร์บอนเครดิตจากภาคป่าไม้ชดเชย จำนวน 125 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า
101 องค์กร ได้รับประกาศนียบัตร
สำหรับองค์กรที่เข้ารับประกาศนียบัตรจากท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในวันนี้ มีจำนวนดังต่อไปนี้
- เครื่องหมาย Net Zero จำนวน 2 องค์กร
- เครื่องหมายการชดเชยคาร์บอน จำนวน 6 องค์กร
- เครื่องหมายลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ หรือฉลากลดโลกร้อน จำนวน 5 องค์กร
- เครื่องหมายคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์เศรษฐกิจหมุนเวียน จำนวน 2 องค์กร
- เครื่องหมายคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ จำนวน 16 องค์กร
- เครื่องหมายคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร จำนวน 70 องค์กร
"อบก. ในฐานะหน่วยงานที่มีพันธกิจในการส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการลดก๊าซเรือนกระจก ยังคงมุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนการดำเนินงานต่อไป เพื่อให้เกิดการปรับเปลี่ยนรูปแบบการผลิตและวิถีการบริโภคแบบยั่งยืน ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การบรรลุเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจก และระบบเศรษฐกิจและสังคมคาร์บอนต่ำอย่างยั่งยืน" ดร.ณัฐริกา กล่าว