เตรียมตัวปิดไฟ 1 ชั่วโมง 22 มี.ค. นี้ รัฐบาลไทยหนุน Earth Hour 2025

เตรียมตัวปิดไฟ 1 ชั่วโมง 22 มี.ค. นี้ รัฐบาลไทยหนุน Earth Hour 2025

เรียบง่ายแต่ทรงพลัง ปิดไฟที่ไม่จำเป็นเป็นเวลา 1 ชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 20:30 น. ถึง 21:30 น. ตามเวลาท้องถิ่น รับผิดชอบร่วมกันแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

KEY

POINTS

  • Earth Hour 2025 ต้องการความร่วมมือจากทุกคน ต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
  • จัดขึ้นในวันเสาร์สุดท้ายของเดือนมีนาคมของทุกปี โดยปีนี้ตรง

Earth Hour หรือ "1 ชั่วโมงเพื่อโลก" เป็นหนึ่งในกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อมที่สำคัญที่สุดในโลก ที่จัดโดย World Wide Fund for Nature (WWF) ซึ่งจะจัดขึ้นในวันเสาร์สุดท้ายของเดือนมีนาคมของทุกปี โดยปีนี้ตรงกับวันที่ 22 มีนาคม 2025

เป็นกิจกรรมกระตุ้นผู้คน องค์กร และรัฐบาลจากทั่วโลก รวมตัวกันเพื่อสร้างความตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและความสำคัญของการใช้ชีวิตอย่างยั่งยืน ผ่านการปิดไฟที่ไม่จำเป็นเป็นเวลา 1 ชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 20:30 น. ถึง 21:30 น. ตามเวลาท้องถิ่น

เมื่อเราเข้าสู่ปี 2025 ความสำคัญของ Earth Hour ยิ่งใหญ่ขึ้นจากสถานการณ์ของโลกที่เผชิญกับผลกระทบที่รุนแรงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เช่น อุณหภูมิที่เพิ่มขึ้น เหตุการณ์สภาพอากาศสุดขั้ว ขั้วโลกละลาย และการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ ความต้องการในการดำเนินการร่วมกันเพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมนั้นเร่งด่วนยิ่งขึ้น Earth Hour จึงเป็นเครื่องเตือนใจว่าแต่ละคนมีอำนาจในการมีส่วนร่วมในอนาคตที่ยั่งยืน

จากกิจกรรมระดับท้องถิ่น สู่ระดับโลก

  • Earth Hour ครั้งแรกจัดขึ้นเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2007 ที่ซิดนีย์ ออสเตรเลีย ในฐานะแคมเปญระดับชุมชน สิ่งที่เริ่มต้นจากการเคลื่อนไหวในระดับท้องถิ่นได้กลายเป็นที่รู้จักในระดับโลกอย่างรวดเร็ว และในปีถัดมา Earth Hour ได้ขยายขอบเขตไปทั่วโลก
  • ในปี 2008 มีเมืองมากกว่า 35 แห่งใน 25 ประเทศเข้าร่วมกิจกรรม Earth Hour และการเคลื่อนไหวนี้ก็เติบโตขึ้นทุกปี แคมเปญนี้ได้พัฒนาไปจากการปิดไฟใน 1 ชั่วโมงเพื่อการสร้างการรับรู้ ไปสู่การรณรงค์ให้เกิดการดำเนินการในระยะยาวเพื่อการใช้ชีวิตอย่างยั่งยืน พลังงานทดแทน และการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
  • ในปี 2011 Earth Hour กลายเป็นกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อมที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีผู้เข้าร่วมมากกว่า 1 พันล้านคนในกว่า 135 ประเทศ

สถิติที่เกี่ยวข้อง : อิทธิพลของ Earth Hour

ผลกระทบของ Earth Hour สามารถวัดได้ ไม่เพียงแค่จากจำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรมเท่านั้น แต่ยังเป็นแรงผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อมในระยะยาว

  • อัตราการเข้าร่วม : ในปี 2024 มีประเทศและดินแดนกว่า 190 แห่งที่เข้าร่วม Earth Hour โดยมีผู้คนมากกว่า 2.2 พันล้านคนที่ปิดไฟหรือมีส่วนร่วมในกิจกรรมเพื่อสร้างความตระหนักเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งทำให้ Earth Hour เป็นหนึ่งในขบวนการด้านสิ่งแวดล้อมที่ใหญ่ที่สุดในโลก
  • การประหยัดพลังงาน : ตัวอย่างเช่น ในปี 2023 การลดการใช้ไฟฟ้าทั่วโลกในช่วง Earth Hour ประมาณการได้ว่าเป็นจำนวน 4,000 เมกะวัตต์-ชั่วโมง ซึ่งเทียบเท่ากับพลังงานที่ใช้โดยบ้านเรือนกว่า 400,000 หลังเป็นเวลา 1 ชั่วโมง
  • การมีส่วนร่วมทางโซเชียลมีเดีย : Earth Hour ได้รับการส่งเสริมผ่านโซเชียลมีเดียมากขึ้น โดยผู้คนหลายล้านคนได้แชร์ประสบการณ์ ความคิดเห็น และการสนับสนุน ในปี 2024 การเข้าถึงโซเชียลมีเดียของ Earth Hour เกิน 3 พันล้านคน
  • การสนับสนุนจากองค์กรและรัฐบาล : ในปีที่ผ่านมา Earth Hour ได้รับการสนับสนุนจากบริษัทและรัฐบาลมากขึ้น โดยหลายบริษัทใหญ่เข้าร่วมกิจกรรมโดยการลดการใช้พลังงานและส่งเสริมความยั่งยืนภายในองค์กร โดยในปี 2024 บริษัทมากกว่า 4,000 แห่งทั่วโลกได้ให้คำมั่นสนับสนุน Earth Hour ผ่านการริเริ่มต่างๆ
  • การเปลี่ยนแปลงนโยบาย : ในปี 2023 หลายรัฐบาลได้ประกาศนโยบายใหม่เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนและลงทุนในพลังงานสะอาด ซึ่งเกิดขึ้นจากการรณรงค์ของ Earth Hour และองค์กรด้านสิ่งแวดล้อมอื่นๆ เช่น การผลักดันให้โลกมุ่งสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์และการยุติการใช้พลังงานฟอสซิล

ไทยให้ความสำคัญ Earth Hour

ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการเข้าร่วมกิจกรรม Earth Hour อย่างต่อเนื่องตั้งแต่เริ่มต้น โดยเฉพาะในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีการตอบรับจากทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนที่ร่วมกันแสดงความมุ่งมั่นในการอนุรักษ์พลังงานและต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างจริงจัง

ในปี 2567 ที่ผ่านมา กิจกรรมได้จัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 23 มีนาคม 2567 เมื่อนำผลไปเทียบกับการใช้ไฟฟ้าในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เมื่อวันเสาร์ที่ 16 มีนาคม 2567 พบว่า สามารถลดการใช้ไฟฟ้าลงได้ 24.65 เมกะวัตต์ ลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงได้ถึง 11 ตัน และลดค่าไฟฟ้าลงได้ 130,182 บาท และเทียบเท่าการเดินทางด้วยเครื่องบิน กรุงเทพฯ – เชียงใหม่ จำนวน 92 เที่ยวบิน หรือเทียบเท่าการใช้รถยนต์ดีเซล 66,000 กิโลเมตร หรือเทียบเท่าการปิดไฟ 49,500 ครัวเรือน

วิธีที่ประเทศไทยเข้าร่วมกิจกรรม Earth Hour

  • การปิดไฟสัญลักษณ์

ในทุกๆ ปี ประเทศไทยมีการปิดไฟสัญลักษณ์ที่สำคัญต่างๆ เช่น วัดพระแก้ว, พระบรมมหาราชวัง, และอาคารสำคัญในกรุงเทพฯ รวมถึงเมืองใหญ่ๆ ทั่วประเทศ รวมถึงการปิดไฟในแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง โดยประชาชนและองค์กรต่างๆ จะร่วมกันปิดไฟในช่วงเวลา 20:30 น. ถึง 21:30 น. ตามเวลาท้องถิ่น

  • การสร้างความตระหนักรู้ผ่านโซเชียลมีเดียและสื่อมวลชน

ประเทศไทยมักจะใช้โซเชียลมีเดียในการสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับ Earth Hour โดยมีการเผยแพร่ข้อมูลและการรณรงค์ผ่านช่องทางต่างๆ เช่น Facebook, Instagram, Twitter รวมถึงการจัดกิจกรรมสาธารณะเพื่อเชิญชวนให้ประชาชนเข้าร่วม และแชร์กิจกรรมของตนเองในวัน Earth Hour

  • การมีส่วนร่วมขององค์กรและธุรกิจ

หลายองค์กรทั้งในภาครัฐและเอกชนในประเทศไทยมีการสนับสนุน Earth Hour โดยการปิดไฟภายในอาคารสำนักงาน รวมถึงการส่งเสริมให้พนักงานและลูกค้าทั่วไปเข้าร่วมกิจกรรมนี้ นอกจากนี้ บางองค์กรยังมีการจัดทำแคมเปญภายในบริษัทเพื่อส่งเสริมการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและสร้างความตระหนักถึงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

  • การสนับสนุนจากรัฐบาลและรัฐวิสาหกิจ

รัฐบาลไทยผ่านกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมักมีการสนับสนุนกิจกรรม Earth Hour อย่างต่อเนื่อง รวมถึง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย โดยมีการประกาศให้ประชาชนมีส่วนร่วมและร่วมกิจกรรมทั่วประเทศ รวมทั้งการส่งเสริมให้หน่วยงานภาครัฐทุกแห่งเข้าร่วมโครงการนี้ โดยการปรับพฤติกรรมการใช้พลังงานในสำนักงานของรัฐ

ไทยปิดไฟเชิงสัญลักษณ์ใน 5 สถานที่สำคัญ

กรุงเทพมหานคร ได้ขอความร่วมมือปิดไฟเชิงสัญลักษณ์ใน 5 สถานที่สำคัญ ได้แก่

1.วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) พระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร

2.วัดดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร เขตบางกอกใหญ่

3.เสาชิงช้า เขตพระนคร

4.สะพานพระราม 8 เขตบางพลัด

5. ภูเขาทอง (วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร) เขตป้อมปราบฯ

รวมทั้งสำนักงานเขต 50 เขต ร่วมกับภาคีเครือข่าย ผู้ประกอบการ เจ้าของอาคาร/สถานที่ในพื้นที่เขต