UN ย้ำวิกฤติ 'วันน้ำโลก 2025' ครึ่งหนึ่งของประชากรโลก ขาดแคลนน้ำ

UN ย้ำวิกฤติ 'วันน้ำโลก 2025' ครึ่งหนึ่งของประชากรโลก ขาดแคลนน้ำ

ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมจากการขาดแคลนน้ำยังเป็นสิ่งที่ไม่สามารถมองข้ามได้ ส่งผลต่อการผลิตอาหาร เพิ่มความยากจน

KEY

POINTS

  • สหประชาชาติ (UN) กำหนดให้วันที่ 22 มีนาคม ของทุกปีเป็นวันน้

น้ำเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับชีวิตมนุษย์ มันสนับสนุนระบบนิเวศของเรา รองรับการเกษตร อุตสาหกรรม และกิจกรรมประจำวัน รวมทั้งมีความสำคัญต่อสุขภาพของประชาชน แต่ภาวะขาดแคลนน้ำกลับกลายเป็นปัญหาที่กำลังทวีความรุนแรงขึ้นทั่วโลก

ตามข้อมูลจากสหประชาชาติ 2,000 ล้านคน ยังคงอาศัยอยู่ในประเทศที่ประสบกับความเครียดจากน้ำสูง และในปี 2025 ประชากรครึ่งหนึ่งของโลกอาจอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่ขาดแคลนน้ำอย่างรุนแรง ปัญหานี้ยิ่งเลวร้ายลงจากมลพิษ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการใช้ทรัพยากรน้ำเกินความจำเป็น ทำให้ยากขึ้นในการจัดหาน้ำสะอาดให้กับชุมชน

น้ำยังมีบทบาทสำคัญในการบรรลุ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) การเข้าถึงน้ำสะอาดไม่เพียงแต่เป็นสิทธิพื้นฐานของมนุษย์เท่านั้น แต่ยังมีบทบาทในการขจัดความยากจน ปรับปรุงสุขภาพ และรับประกันความมั่นคงด้านอาหาร

สหประชาชาติ (UN) จึงได้กำหนดให้วันที่ 22 มีนาคม ของทุกปีเป็นวันน้ำโลก (World Water Day) และปี 2025 ครบรอบ 32 ปี เพราะวันน้ำโลกถูกก่อตั้งในปี 1993 วันนี้เกิดขึ้นหลังจากการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยสิ่งแวดล้อมและการพัฒนา (UNCED) ซึ่งจัดขึ้นที่ริโอเดจาเนโรในปี 1992 ตลอดหลายปีที่ผ่านมา วันน้ำโลกได้เป็นเวทีให้รัฐบาล ธุรกิจ องค์กรไม่แสวงหาผลกำไร และประชาชนได้

โดยวันน้ำโลกมุ่งเน้นการสร้างความตระหนักเกี่ยวกับวิกฤตน้ำทั่วโลกและส่งเสริมการจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน หัวข้อในปีนี้คือ "Glacier Preservation" (การอนุรักษ์ธารน้ำแข็ง) เพราะปัจจุบันน้ำจืดของโลกประมาณร้อยละ 70 อยู่ในรูปของหิมะหรือน้ำแข็ง

และผู้คนเกือบ 2 พันล้านคนต้องพึ่งพาน้ำจากแหล่งน้ำแข็ง แต่การละลายที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้กลายเป็นภัยคุกคามสำคัญต่อความมั่นคงทางน้ำ การเกษตร และระบบนิเวศ หัวข้อนี้ยังสอดคล้องกับ “ปีนานาชาติแห่งการอนุรักษ์ธารน้ำแข็ง 2025” เพื่อสร้างอนาคตที่ยั่งยืนให้กับคนรุ่นหลัง

สถิติสำคัญเกี่ยวกับน้ำ

  • มีประชากรมากกว่า 2 พันล้านคน ทั่วโลกที่ขาดแคลนน้ำสะอาด
  • ประชากรกว่าสี่พันล้านคน หรือเกือบสองในสามของประชากรโลก ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำอย่างรุนแรงอย่างน้อยหนึ่งเดือนในแต่ละปี
  • ครึ่งหนึ่งของประชากรโลกอาจอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่เผชิญกับภาวะขาดแคลนน้ำภายในปี 2025
  • ภายในปี 2030 ผู้คนราว 700 ล้านคนอาจต้องอพยพเนื่องจากภาวะขาดแคลนน้ำอย่างรุนแรง
  • ธารน้ำแข็งซึ่งเก็บรักษาน้ำจืดเกือบ 70% ของโลก กำลังละลายด้วยอัตราที่น่าเป็นห่วงเนื่องจากอุณหภูมิโลกที่เพิ่มสูงขึ้น
  • ปัญหาการขาดแคลนน้ำส่งผลกระทบต่อ 40% ของประชากรโลก และตัวเลขนี้มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ
  • ประมาณ 10% ของพื้นที่บนโลก ถูกปกคลุมด้วยธารน้ำแข็งซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อการควบคุมสภาพภูมิอากาศโลกและการสนับสนุนความหลากหลายทางชีวภาพ
  • ภายในปี 2030 ผู้คนราว 700 ล้านคนอาจต้องอพยพเนื่องจากภาวะขาดแคลนน้ำอย่างรุนแรง

ภาวะขาดแคลนน้ำทำให้การเข้าถึงน้ำสะอาดสำหรับดื่มและปฏิบัติสุขอนามัยพื้นฐานที่บ้าน ในโรงเรียน และในสถานพยาบาลมีจำกัด เมื่อขาดแคลนน้ำ ระบบบำบัดน้ำเสียอาจล้มเหลวและมีความเสี่ยงที่จะติดโรค เช่น อหิวาตกโรค นอกจากนี้ น้ำที่ขาดแคลนยังมีราคาแพงขึ้นด้วย

 

 

 

อ้างอิง : UN Water, Unicef