บริษัทพลังงานสะอาดในเวียดนามเสี่ยงล้มละลาย หลังรัฐปรับราคาค่าไฟ

บริษัทพลังงานสะอาดในเวียดนามเสี่ยงล้มละลาย หลังรัฐปรับราคาค่าไฟ

ผู้ผลิตพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมในเวียดนามอาจ “ล้มละลาย” หากรัฐวิสาหกิจดำเนินการตามแผนการเปลี่ยนแปลงราคาพลังงานหมุนเวียน

การไฟฟ้าเวียดนาม (EVN) รัฐวิสาหกิจด้านไฟฟ้ารายเดียวของเวียดนาม เตรียมปรับราคาซื้อพลังงานใหม่ ซึ่งจะมีการบังคับใช้ย้อนหลังไปหลายปี อาจทำให้โครงการพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลม 173 โครงการเสี่ยง “ล้มละลาย” โดยหอการค้าและอุตสาหกรรมเวียดนาม (VCCI) กล่าวว่าการผูกขาดของรัฐว่า “ละเมิดหลักการของสัญญาอย่างร้ายแรง”

“หาก EVN ดำเนินการตามการปรับราคา จะทำให้รายได้ของโครงการเหล่านี้ลดลง 25-46% โครงการส่วนใหญ่อาจล้มละลาย อาจนำไปสู่การล้มละลายครั้งใหญ่” หอการค้าระบุ

หลังจากการแก้ไข กฎระเบียบอัตราค่าไฟฟ้าที่ป้อนเข้าระบบ (FIT) สำหรับโครงการทั้ง 173 โครงการนี้จะลดลงเหลือ 4.8-7.09 เซ็นต์ต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง ซึ่งต่ำกว่าอัตราที่ใช้เดิม 24%-47%

บริษัทพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์ทั้งหมดในเวียดนามมีมูลค่าการลงทุนมากถึง 15,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งตอนที่กู้เงิน บริษัทเหล่านี้กู้โดยอิงจากรายได้ที่คาดว่าจะได้รับจากราคาพลังงานที่ตกลงกันไว้ก่อนหน้านี้ ดังนั้นหากมีการปรับราคาขึ้น บริษัทเหล่านี้จะต้องเร่งหาเงินสดมากขึ้นให้เพียงพอสำหรับการชำระหนี้ ซึ่งอาจทำให้เกิดหนี้เสียในระบบการเงินของประเทศถึง 7,800 ล้านดอลลาร์

ข้อมูลของรัฐบาลเวียดนามระบุว่าบริษัทที่ได้รับผลกระทบหนึ่งในสามเป็นนักลงทุนต่างชาติ รวมถึง Dragon Capital บริษัทพลังงานในเครือของ Ayala Corp อย่าง ACEN และบริษัทอื่น ๆ จากประเทศไทย เนเธอร์แลนด์ สิงคโปร์ และจีน การลงทุนทั้งหมดที่เสี่ยงนั้นประเมินไว้ที่ 13,000 ล้านดอลลาร์

“สิ่งนี้จะทำให้เกิดความไม่มั่นคงอย่างมากในภาคการธนาคารและตลาดการเงินในเวียดนาม” หอการค้ากล่าว

เมื่อต้นเดือนมีนาคม บริษัทที่ได้รับผลกระทบได้ยื่นคำร้องผ่านหอการค้าเรียกร้องให้รัฐบาลเพิกถอนคำสั่งดังกล่าว พร้อมเตือนว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจขัดขวางการพัฒนาพลังงานหมุนเวียนของเวียดนามได้อย่างรุนแรง เนื่องจากบางโครงการประสบปัญหาอยู่แล้วทั้งจากอัตราดอกเบี้ยของเวียดนามสูงกว่าประเทศอื่น ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อีกทั้งยังมีต้นทุนที่เพิ่มขึ้นและการก่อสร้างล่าช้า ซึ่งนำไปสู่การผิดนัดชำระหนี้ที่อาจเกิดขึ้นได้

อัตรา FIT ที่ปรับปรุงใหม่ยังทำให้ภาคส่วนนี้เสียเปรียบอีกด้วย Bangkok Glass Energy (BGE) ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานหมุนเวียนของไทย ชี้ให้เห็นว่าการลงทุนนั้นทำขึ้นโดยยึดตามอัตรา FIT ที่สัญญาไว้ในตอนแรก ส่งผลให้มีต้นทุนการซื้อโครงการที่สูง

การลงทุนด้านพลังงานหมุนเวียนในอนาคตมีความสำคัญต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของเวียดนาม แต่การปรับราคาพลังงานนี้จะทำให้ต่างชาติลงทุนลดลง ส่งผลกระทบต่อการเป็นศูนย์กลางการผลิตเทคโนโลยีขั้นสูง จดหมายของหอการค้าระบุ 


ที่มา: BloombergReccessary