ส่องคู่มือเอาตัวรอดของทุกคน ‘แผ่นดินไหว’ ไม่ใช่เรื่องไกลตัว

ส่องคู่มือเอาตัวรอดของทุกคน ‘แผ่นดินไหว’ ไม่ใช่เรื่องไกลตัว

เหตุการณ์ตึกถล่มที่เขตจตุจักร ได้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินและการทำงานร่วมกันของหน่วยงาน ในการช่วยเหลือผู้ประสบภัย

KEY

POINTS

เหตุการณ์ตึกถล่มที่เขตจตุจักร กรุงเทพฯ ในวันที่ 28 มีนาคม 2568 ได้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินและการทำงานร่วมกันของหน่วยงานต่างๆ ในการช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านระบบสื่อสารและการกู้ภัย ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการปฏิบัติงานในพื้นที่เสี่ยงภัย

มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) จึงจัดเสวนาครั้งพิเศษเพื่อโอกาสการแจ้งเตือนภัยพิบัติล่วงหน้าของประเทศไทย “คู่มือรับมือแผ่นดินไหว : ฉบับประชาชน” รับฟังวิธีการตรวจเช็กรอยร้าวตึกอาคาร-ที่อยู่อาศัยด้วยตนเองจากเทคฯ AI การเรียนรู้ - เตรียมตัวรับมือกับสถานการณ์แผ่นดินไหวที่ถูกต้องถึงเวลาเปลี่ยน?!? การออกแบบอาคารให้พร้อมทุกการอยู่อาศัยในยุคภัยพิบัติอยู่ใกล้ตัว โดย 5 ผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวะ-วิศวกรรมโยธา แพทย์ จิตวิทยา และ ด้านการสื่อสารในช่วงสภาวะวิกฤต ระดมหาทางออกร่วมกัน

การเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์

ดร.วัชระ อมศิริ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มธ. กล่าวว่าการช่วยเหลือและระบบสื่อสารในพื้นที่ปฏิบัติงาน ในการปฏิบัติงานช่วยเหลือเหตุการณ์ตึกถล่มที่จตุจักร ทีมกู้ภัยได้ทำงานร่วมกันอย่างเต็มที่ตั้งแต่เริ่มเกิดเหตุ โดยมีการใช้ระบบสื่อสารที่ทันสมัย เช่น อินเทอร์เน็ต 4G และ 5G เพื่อประสานงานและสื่อสารข้อมูลระหว่างหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น หน่วยกู้ภัย ยิวซาร์ (Search and Rescue) และหน่วยงานภาครัฐอื่นๆ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการเป็นศูนย์กลางการให้บริการสื่อสารในพื้นที่ปฏิบัติการ ทำให้การสื่อสารเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

ส่องคู่มือเอาตัวรอดของทุกคน ‘แผ่นดินไหว’ ไม่ใช่เรื่องไกลตัว

การสื่อสารในภารกิจเสี่ยงสูง

ภารกิจกู้ภัยในเหตุการณ์ตึกถล่มมีความเสี่ยงสูงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เริ่มแรก การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการช่วยเหลือทั้งผู้ประสบภัยและผู้ปฏิบัติงาน ระบบการสื่อสารไม่เพียงแต่ใช้ในการประสานงานเท่านั้น แต่ยังใช้ในการดูแลผู้ปฏิบัติงานด้านจิตใจและร่างกาย เพื่อให้มั่นใจว่าทุกคนจะสามารถปฏิบัติงานได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

การฝึกอบรมและความเสี่ยงในการปฏิบัติงาน

ทีมกู้ภัยได้มีการฝึกอบรมร่วมกับทีมจากประเทศลาวอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสร้างความเข้าใจในบทบาทและความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน อย่างไรก็ตาม ในการปฏิบัติงานจริง ทีมต้องเผชิญกับความเสี่ยงจากสภาพแวดล้อมต่างๆ เช่น อุปกรณ์เสียหายจากลมแรง การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าจึงเป็นสิ่งสำคัญ

การรับรู้และการวิเคราะห์ข้อมูล

รศ. ดร.นิธิดา แสงสิงแก้ว สาขาวารสารศาสตร์ คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มธ. กล่าวว่า โซเชียลมีเดียกระตุ้นให้ผู้ใช้เสพข้อมูลอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อความรู้สึกและอารมณ์ โซเชียลมีเดียทำงานผ่านกลไก 3 ประการ ได้แก่ การสร้างเครือข่าย การแพร่กระจายข้อมูลแบบไวรัล และการกระจายข้อมูลแบบทวีคูณ การแพร่กระจายข่าวสารบนโซเชียลมีเดียเป็นไปอย่างรวดเร็ว

โดยเฉพาะเมื่อบุคคลสาธารณะโพสต์ข้อมูล โซเชียลมีเดียสร้างระบบนิเวศของการรับรู้ที่ส่งผลกระทบต่อกันและกัน ในอดีต สื่อมีเพียงไม่กี่ช่องทาง แต่ปัจจุบันทุกคนสามารถเป็นสื่อได้ การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้เกิดความรับผิดชอบต่อข้อมูลที่เผยแพร่มากขึ้น การตรวจสอบข้อมูลก่อนเผยแพร่เป็นสิ่งสำคัญ เพื่อป้องกันผลกระทบต่อผู้อื่น

การเรียนรู้แบบมีเดีย อินฟอร์เมชัน ดิจิทัล ดิสทริบิวชั่น (MIDL) หรือ 360 องศา เป็นสิ่งจำเป็นในยุคปัจจุบัน การเรียนรู้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องผ่านกระบวนการเรียนรู้แบบสังคม (Social Learning) การจัดการข้อมูลจำนวนมากเปรียบเสมือนการรับมือกับน้ำท่วม เพื่อให้ข้อมูลมีความปลอดภัย การระบุแหล่งที่มาของข้อมูลอย่างถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญ การช่วยกันแก้ไขและส่งต่อข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นประโยชน์ ประชาชนมีบทบาทสำคัญในการสร้างระบบการดูแลซึ่งกันและกันในช่วงวิกฤต

เหตุการณ์ภัยพิบัติทำให้เราเห็นถึงความสำคัญของการรับรู้และจัดการข้อมูลอย่างมีวิจารณญาณ การใช้เทคโนโลยีอย่างมีความรับผิดชอบ และการร่วมมือกันในการช่วยเหลือและสนับสนุนซึ่งกันและกัน

การตรวจสอบความเสียหายของอาคาร

หลังจากแผ่นดินไหวสงบลง ทีมผู้เชี่ยวชาญได้เริ่มทำการตรวจสอบความเสียหายของอาคาร โดยเริ่มต้นจากการตรวจสอบที่มุมอาคารสองจุดสำคัญ พบว่ามีความเสียหายเล็กน้อย เช่น เศษปูน แต่ไม่ส่งผลกระทบต่อโครงสร้างหลัก อย่างไรก็ตาม การตรวจสอบยังคงดำเนินต่อไปเพื่อวิเคราะห์ร่องรอยและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น

การวิเคราะห์โครงสร้างอาคารหลังแผ่นดินไหวเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและต้องใช้ความเชี่ยวชาญสูง ทีมวิศวกร 500 คน ถูกระดมเพื่อตรวจสอบอาคาร 20 ทีม ตรวจสอบคอนโด 2 แห่งและธนาคารแห่งประเทศไทย ผลการตรวจสอบพบว่าอาคารส่วนใหญ่สั่นไหว แต่ความเสียหายโครงสร้างยังไม่มาก ส่วนใหญ่เป็นรอยร้าวที่ผนัง และมีการวิเคราะห์ข้อมูลการเคลื่อนไหวของอาคารที่ถล่ม

การวิเคราะห์รอยร้าวแบ่งออกเป็น 4 ระดับความเสียหาย โดยระดับ 2 คือรอยร้าวไม่ใหญ่มาก ไม่ส่งผลกระทบต่อโครงสร้าง และระดับ 4 เป็นรอยร้าวรุนแรงที่สุด ปูนกระเทาะหลุดถึงแกนเสา ต้องระงับการใช้งานอาคาร การวิเคราะห์สาเหตุการถล่มของอาคารพบว่ามีการซ่อมแซมอาคารที่ไม่ถูกวิธีในบางพื้นที่ และมีการจัดทำข้อแนะนำการซ่อมแซมอาคาร 4 ระดับ

การถล่มของอาคารเป็นปริศนา เนื่องจากมีการตีความสาเหตุที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีลิฟต์ยุบตัวก่อน การวิเคราะห์โครงสร้างอาคารที่พังทลายจำเป็นต้องพิจารณาทุกกลุ่มพร้อมกันเพื่อหาสาเหตุการพังทลาย จุดที่พังก่อนเป็นตัวกระตุ้นหรือเหตุการณ์เริ่มต้น ลักษณะการก่อสร้างเป็นแบบแพลตฟอร์มต่อเนื่อง กรณีศึกษาตึกที่ถล่มจากแผ่นดินไหวและการต่อเติม สะท้อนปัญหาคุณภาพวัสดุและกระบวนการก่อสร้าง

ความผิดปกติของรูปทรงอาคารและแรงสั่นสะเทือนเป็นอีกปัจจัยที่ต้องพิจารณา เสาชั้นล่างและชั้นบนมีความสูงไม่ปกติ อาคารมีลักษณะเสารูดตัวลง สภาพดินอ่อนและการสั่นสะเทือนพร้อมกันทำให้เกิดแรงสั่นสะเทือนที่รุนแรงขึ้น การวิเคราะห์คุณภาพวัสดุและความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะการใช้วัสดุคุณภาพสูงในการก่อสร้าง เช่น เหล็กที่มีความเหนียว การทดสอบคุณภาพวัสดุ เช่น การเก็บตัวอย่างเหล็กเพื่อวิเคราะห์ เป็นสิ่งจำเป็น

การประเมินความเสี่ยงของเสาอาคารที่มีระดับความเสียหายระดับ 4 เป็นสิ่งสำคัญ การซ่อมแซมเสาอาคารที่อยู่ในสภาพไม่เสถียรสามารถทำได้หากมีจำนวนน้อย แต่หากเสาอาคารระดับความเสียหาย 4 มีจำนวนมากขึ้น ควรพิจารณาการขายอาคาร อาคารที่มีรอยแตกร้าวจำนวนมากถึง 1000 รอย ต้องได้รับการซ่อมแซมโดยเร็ว เพื่อป้องกันการขยายตัวของรอยแตกร้าวจากน้ำหนักของส่วนบนอาคาร

เหตุการณ์แผ่นดินไหวได้สร้างความตื่นตระหนกและความเสียหายอย่างมาก การพูดคุยเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้นในงาน การตรวจสอบความเสียหาย และความกังวลเกี่ยวกับการเข้าถึงข้อมูลและการใช้งานระบบ เป็นประเด็นสำคัญที่ถูกหยิบยกขึ้นมาในที่ประชุม

การดูแลสภาพจิตใจ

ศุภณัฐ พัฒนพันธุ์พงศ์ สาขาจิตวิทยา คณะศิลปศาสตร์ มธ. กล่าวว่าในภาวะยากลำบากเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง การขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ การตระหนักถึงผลกระทบทางจิตใจที่อาจเกิดขึ้นหลังเหตุการณ์ และการยอมรับความเป็นไปได้ของผลลัพธ์ที่อาจเกิดขึ้น เป็นขั้นตอนสำคัญในการรับมือกับสถานการณ์

ผลกระทบระยะยาวของเหตุการณ์สะเทือนใจอาจส่งผลต่อความทรงจำและความรู้สึก การเกิดภาวะไฮเปอร์มาร์โซ (Hyperarousal) และการถูกกระตุ้นอย่างต่อเนื่อง อาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพทั้งทางร่างกายและจิตใจ การรับมือกับอารมณ์เชิงลบ การควบคุมสติ และการพักผ่อนอย่างเพียงพอ เป็นสิ่งจำเป็นในการดูแลสุขภาพจิตในระยะยาว

การตระหนักรู้ถึงสถานการณ์ก่อนเกิดความตื่นตระหนก การยอมรับความเป็นไปได้ของผลลัพธ์ที่อาจเกิดขึ้น และการเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉิน เป็นสิ่งสำคัญในการลดผลกระทบทางจิตใจและร่างกาย

การสนับสนุน คุ้มครอง และช่วยเหลือกลุ่มผู้เปราะบาง

ผศ. พญ.นิพัทธา วินะยานุวัติคุณ ภาควิชาสาขาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มธ. กล่าวว่า กายและใจมีความเชื่อมโยงกันอย่างแยกไม่ออก อารมณ์และความคิดส่งผลต่อร่างกาย และร่างกายก็ส่งผลต่ออารมณ์และความคิดเช่นกัน เมื่อเกิดความกลัวหรือวิตกกังวล ร่างกายจะตอบสนองโดยอัตโนมัติ เช่น หัวใจเต้นเร็ว ความดันโลหิตสูง ซึ่งเป็นกลไกการตอบสนองต่อภาวะฉุกเฉินของร่างกาย

ในเหตุการณ์แผ่นดินไหว บุคลากรทางการแพทย์ต้องเผชิญกับความกลัว แต่ยังคงปฏิบัติหน้าที่ด้วยจิตวิญญาณของความเป็นแพทย์ การเสียสละและความทุ่มเทของพวกเขาเป็นสิ่งที่น่าชื่นชม

การเตรียมพร้อมรับมือแผ่นดินไหวเป็นสิ่งสำคัญ การฝึกฝน การระบุและวิเคราะห์ปัญหาเบื้องต้น และการหาที่กำบังที่ปลอดภัย สามารถช่วยลดความเสี่ยงของการบาดเจ็บได้

เหตุการณ์แผ่นดินไหวรุนแรงที่เกิดขึ้นในภาคเหนือเป็นบทเรียนสำคัญ โรคประจำตัวเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการบาดเจ็บจากภัยพิบัติ การพกพาและเตรียมยาประจำตัว การเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินและภัยพิบัติ จึงเป็นสิ่งจำเป็น

การยืนยันถึงความเข้าใจในแนวทางการปฏิบัติงาน และการเตรียมนำแนวทางไปใช้ แสดงถึงความพร้อมในการดำเนินการตามแผน

แอปพลิเคชันตรวจสอบความปลอดภัยอาคาร

รศ. ดร.พรหมพัฒน ธัญสิริชัยศรี ภาควิชาวิศวกรรมโยธา คณะวิศวกรรมศาสตร์ มธ. กล่าวว่า แอปพลิเคชันนี้ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อช่วยในการตรวจสอบความแข็งแรงของอาคารโดยอัตโนมัติ ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อสถาบันและชุมชนในการเตรียมพร้อมรับมือกับแผ่นดินไหวและภัยพิบัติอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้น โดยแอปพลิเคชันนี้สามารถประเมินความเสียหายเบื้องต้นได้จากข้อมูลที่มีอยู่ และสามารถใช้ร่วมกับโปรแกรม Generative AI ในการประเมินภาพความเสียหายแบบเรียลไทม์ผ่านมือถือหรือการอัปโหลดภาพจากคอมพิวเตอร์

เทคโนโลยีการประเมินความเสียหาย

นอกเหนือจากแอปพลิเคชันแล้ว ยังมีเครื่องมือประเมินความเสียหายและเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง เช่น inspect.wowaman.vendor.com ซึ่งช่วยในการประเมินความเสียหายและราคาเบื้องต้นได้ เครื่องมือเหล่านี้ใช้เทคโนโลยี AI ในการประเมินความเสียหายจากข้อมูลที่ป้อนเข้าไป โดยข้อมูลที่มากจะช่วยให้การประเมินมีความแม่นยำยิ่งขึ้น

การวิเคราะห์และวางแผนการซ่อมแซม

หลังจากประเมินความเสียหายเบื้องต้นแล้ว การวิเคราะห์และวางแผนการซ่อมแซมเป็นขั้นตอนสำคัญในการฟื้นฟูอาคารให้กลับมาใช้งานได้อย่างปลอดภัย โดยจะมีการตรวจสอบความเสียหายอย่างละเอียดเพื่อประเมินความจำเป็นในการซ่อมแซม และมีการพัฒนาแผนการซ่อมแซมและการติดตามผลอย่างต่อเนื่อง

เทคโนโลยี 3 มิติและการตรวจสอบโครงสร้าง

เทคโนโลยีการสแกน 3 มิติเป็นอีกเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการตรวจสอบความเสียหายของอาคาร โดยการสร้างแบบจำลอง 3 มิติจากภาพถ่ายเพื่อวิเคราะห์ความเสียหาย สามารถประเมินขนาดและความรุนแรงของรอยร้าว พร้อมข้อเสนอแนะการซ่อมแซมได้ นอกจากนี้ การใช้โดรนในการตรวจสอบสภาพโครงสร้างอาคารยังช่วยให้การสำรวจเป็นไปอย่างรวดเร็วและครอบคลุม

การประเมินโครงสร้างเบื้องต้นและการสำรวจอาคาร

เนื่องจากวิศวกรมีงานมากและคิวการตรวจตึกยาว การส่งข้อมูลเพื่อประเมินเบื้องต้นก่อนจึงเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง โดยเฉพาะในพื้นที่ต่างจังหวัด เช่น เขื่อน สะพาน ทางด่วน ซึ่งต้องการการตรวจสอบอย่างเร่งด่วน การสำรวจอาคารสองหลัง โดยเน้นที่อาคารวิศวกรรม เป็นตัวอย่างของการตรวจสอบความปลอดภัยของอาคารอย่างละเอียด และการใช้แอปพลิเคชันในการประเมินความเร่งด่วนของปัญหาและวางแผนการจัดการ

ความปลอดภัยของอาคารสูง

การโยกของตึกสูงเมื่อเกิดรอยร้าวจำนวนมากเป็นประเด็นที่น่ากังวล อย่างไรก็ตาม การออกแบบโครงสร้างปัจจุบันเน้นความยืดหยุ่นเพื่อให้ตึกสามารถโยกได้โดยไม่เป็นอันตราย แม้มีรอยร้าว แต่โครงสร้างเหล็กภายในยังคงรับน้ำหนักได้และตึกจะไม่พังทันทีหากไม่เกิดแผ่นดินไหว

การวิเคราะห์ความเสี่ยงของโครงสร้าง

การวิเคราะห์ความเสี่ยงของโครงสร้างเป็นสิ่งสำคัญในการประเมินความมั่นคงของอาคาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดแผ่นดินไหว การวิเคราะห์ความเป็นไปได้ของการพังทลายจากเหตุการณ์ภายนอก เช่น แผ่นดินไหว ช่วยให้สามารถวางแผนการเสริมกำลังโครงสร้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ