เหยื่อลงทุนคริปโตฯ เพิ่มอื้อ ชี้เข้าข่ายแชร์ลูกโซ่ เสียหายเกิน 1,000 ล้าน
ผู้เสียหายลงทุนคริปโตฯ ในจังหวัดเชียงใหม่ ทยอยเข้าให้ข้อมูลกับ "ดีเอสไอ" เพิ่มเป็น 50 ราย ด้านผอ. ศูนย์ปฏิบัติการดคีพิเศษเขตพื้นที่ 5 เผยเบื้องต้นเข้าข่ายแชร์ลูกโซ่ คาดเสียหายเกิน 1,000 ล้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้เสียจากการหลอกลงทุนเหรียญอิเล็กทรอนิกส์ หรือเงินอิเล็กทรอนิกส์ คริปโตเคอร์เรนซี่ ทยอยเดินทางมาร้องเรียน ศูนย์ปฏิบัติการดคีพิเศษเขตพื้นที่ 5 อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เพิ่มเป็น 50 ราย โดยคาดว่ามีความเสียหายหลักพันล้านบาท
หนึ่งในผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ในวันนี้ที่มาร้องกับทาง ดีเอสไอ เนื่องได้รับผลกระทบในการลงทุน โดยต้น มีมูลค่าความเสียหาย 1 .5 ล้านบาท ซึ่งที่ผ่านมามีการลงทุนในรูปแบบโปรเจ็ก ที่มีผลตอบแทน 15% ต่อ เดือน ก็ได้เงินมาโดยตลอด จึงเป็นเหตุผลที่เริ่มลงทุนสูงขึ้น จากหลักหมื่นบาท สู่หลักแสนบาท และไปถึงหลักล้านบาท และไม่คาดคิดว่าจะไม่ได้เงินปันผล เหมือนในครั้งนี้
ส่วนผู้เสียหายอีกหนึ่งคน กล่าวว่า ได้ติดตามข่าวสารการลงทุนจากเพื่อน และ ดูข้อมูลผ่านเฟซบุ๊ก ซึ่งมีการโพสต์เรื่องของผลตอบแทนในการลงทุน มีให้ผลตอบแทนมูลค่าสูง และเป็นหนึ่งในผู้ลงทุนกลุ่มวีไอพี ที่ต้องเสียงค่าแรกเข้า ประมาณ 19,000 บาท โดยส่วนตัว เริ่มใช้เงินลงทุน 3 แสนบาท และ พอได้เงินปันผลก็ทบ ต้นทบดอก ลงทุนเพิ่มอีก 4 แสนบาท หลังจากได้ เงินปันผล ก็ไม่ถอนออกใช้ ซึ่งทั้งหมดนำไปลงทุนเพิ่ม เพราะหวังจะได้กำไรจากการลงทุนครั้งละมากๆ ทำให้ล่าสุด รวมเงินที่ลงทุนไปแล้วไม่ได้คืน 2.4 ล้านบาท
ด้านเรืออากาศตรี กิตติคม คงสมโภชน์ ปฏิบัติหน้าที่ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการดคีพิเศษเขตพื้นที่ 5 กล่าวว่า หลังจากที่ได้รับร้องเรียนจากผู้เสียหายที่เชื่อว่า ได้มีการชักชวนลงทุน เบื้องต้น คาดว่า เข้าข่ายการชักชวนลุงทุนในรูปแบบ แชร์ลูกโซ่ เพราะให้ผลตอบแทนมากกว่าที่กฏหมายกำหนดไว้ 15 % ต่อปี ส่วนบริษัทนี้ ให้ผลตอบแทน 15 % ต่อเดือน
ขณะนี้ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษเขตพื้นที่ 5 ก็จะรวบรวมข้อเท็จจริง ว่ามีมูลค่าความเสียหาย และ ผู้เสียหาย ส่งเข้ากรม เพื่อรวมกับพื้นที่อื่น หากครบตามเงื่อนไข ที่มีมูลค่าความเสียหาย เกิน 100 ล้านบาท หรือ มีผู้เสียหายเกิน 300 คน ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ ก็จะรับเป็นคดีพิเศษได้
สำหรับบริษัทดังกล่าวนั้นมีข้อมูลระบุว่าจดทะเบียนเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัดเมื่อปี 2562 มีสถานที่ตั้งอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ ด้วยทุนจดทะเบียน 500,000 บาท ระบุวัตถุประสงค์ในการจดทะเบียนว่าประกอบกิจการรับจ้าง ออกแบบพัฒนาเว็บไซต์ รับจดทะเบียนชื่อโดเมน ต่อมาในปี 2565 เพิ่งจดทะเบียนเป็นบริษัท ด้วยเงินทุนจดทะเบียน 500,000 บาท ระบุวัตถุประสงค์ตอนจดทะเบียนว่าประกอบกิจการรับจ้าง ออกแบบพัฒนาเว็บไซต์ รับจดทะเบียนชื่อโดเมน บริการเช่าพื้นที่บนคอมพิวเตอร์