จับ 10 คน ยกแก๊งตุ๋นลงทุน เปิดบัญชีม้า หลอกเทรดหุ้น เงินสะพัด 800 ล้าน
ปอศ. เปิดยุทธการ “ทลายยกแก๊ง ตุ๋นหลอกเหยื่อร่วมลงทุน” กวาดจับ 10 ผู้ต้องหา จาก 18 บัญชีม้า อ้างบริษัทให้คำปรึกษาการลงทุนชื่อดัง ชวนโอนเงินเทรดหุ้น ลวงเหยื่อด้วยผลตอบแทนสูง ผงะยอดเงินหมุนเวียน 800 ล้าน
กรณี แก๊งตุ๋นลงทุน เปิดบัญชีม้าหลอกเทรดหุ้น เช้านี้ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) พ.ต.อ.วิจักขณ์ ตารมย์ รอง ผบก.ป ปฏิบัติราชการ บก.ปอศ. , พ.ต.อ.วิจักขณ์ ตารมย์ รอง ผบก.ป ปฏิบัติราชการ บก.ปอศ. พ.ต.อ.ธีรภาส ยั่งยืน ผกก.3 บก.ปอศ. พ.ต.อ.วีระพงษ์ คล้ายทอง ผกก.4 บก.ปอศ. ร่วมกันแถลงจับกุมนายกิตติพล อายุ 33 ปี พร้อมพวกรวม 10 คน ทั้งหมดเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 2323-2337/2566 ลง 20 ก.ค. 66
ข้อหา
- ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น
- ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน
- ร่วมกันนําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่ง ข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน
สืบเนื่องจาก กลุ่มมิจฉาชีพ ใช้เฟซบุ๊ก แอบอ้างชื่อบริษัทให้คําปรึกษาจัดการลงทุน ชักชวนให้ลงทุนเทรดหุ้น อ้างมีผลตอบแทนสูงหลอกเหยื่อให้ทดลองเทรดด้วยเงินจํานวนไม่มาก โดยช่วงแรกเหยื่อจะสามารถถอนเงินผลกำไรออกมาได้จริงเพื่อหลอกให้เหยื่อตายใจ กระทั่ง เหยื่อเพิ่มเงินลงทุนมากขึ้นเรื่อยๆ และเมื่อประสงค์จะถอนเงินพร้อมผลกําไรออกมา ก็จะปรากฎว่าจะไม่สามารถถอนเงินได้
กลุ่มผู้ต้องหาจะใช้อุบายอ้างว่า ต้องโอนเงินมาเพิ่มก่อนถึงจะถอนเงินได้ ทําให้ผู้เสียหายที่อยากจะได้เงินคืน ต้องโอนเงินเพิ่มเข้าไปเรื่อยๆ จนสุดท้ายไม่ได้รับอะไรกลับมาเลย ซึ่งผู้เสียหายรายหนึ่ง สูญเงินไปมากกว่า 4 ล้านบาท
พล.ต.ต.พุฒิเดช กล่าวว่า การสืบสวน พบว่าคนร้ายจะใช้วิธีการโอนเงินต่อไปเรื่อยๆ หลายชั้นและรวดเร็ว จนยากต่อการติดตาม แต่พบว่ามีบัญชีธนาคารที่เกี่ยวข้องมากถึง 18 บัญชี เงินหมุนรวม 800 ล้านบาท มีผู้ต้องหาที่มีส่วนเกี่ยวข้องประมาณ 16 ราย แต่ละรายมีหมายจับคดีลักษณะเดียวกันอีกเป็นจํานวนมากและยังหลบหนีอยู่อีกด้วย
สั่งการเข้าตรวจค้นเป้าหมายในพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่
- กรุงเทพ
- สุพรรณบุรี
- อุทัยธานี
- นครสวรรค์
- กระบี่
จนกระทั่ง สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ดังกล่าว เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้งหมดให้การปฏิเสะ จึงส่งตัวให้พนักงานสอบสวน ของ บก.ปอศ.ดำเนินคดีต่อไป
พล.ต.ต.พุฒิเดช กล่าวฝากเตือนประชาชนให้รู้เท่าทันอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ทุกคนเข้าถึงสื่อสังคมออนไลน์มากขึ้น ทําให้กลุ่มผู้ต้องหาเห็นช่องทางในการหลอกลวงเพิ่มมากขึ้น โดยใช้ผลตอบแทนที่สูงเกินจริง จนมีผู้หลงเชื่อเข้าไปทดลอง บางรายถึงขั้นหมดเนื้อหมดตัว บางรายก็ต้องไปกู้หนี้ยืมสินมาลง เพื่อหวังผลตอบแทนที่ไม่มีทางเป็นจริง