หลอกซื้อขายหุ้น เสียหายทั่วประเทศ 200 ล้าน แฉ 'นายพล' คุ้มครอง
กลุ่มผู้เสียหายเดินทางเข้าร้องทุกข์กับตำรวจสอบสวนกลาง ถูกเพื่อนร่วมรุ่นมหาวิทยาลัย หลอกซื้อขายหุ้น เสียหาย 200 ล้าน อ้าง ปปง. ตรวจสอบบัญชี หนีหายติดต่อไม่ได้ ล่าสุดบริษัทใหม่ "คนมีสี" ร่วมเป็นกรรมการ และ "นายพล" คอยคุ้มครอง
กลุ่มผู้เสียหายประมาณ 10 คน เข้าร้องเรียนที่ ศูนย์รับแจ้งความ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ให้ช่วยสืบสวนกรณีถูกหลอกซื้อขายหุ้น ไอพีโอ ของบริษัทพร็อพเพอร์ตี้ ซึ่งส่วนใหญ่ถูกเสนอขายในจังหวัดอุบลราชธานี รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 50 ล้านบาท โดยอ้างว่าจะได้เงินปันผลจากการทำกำไรหุ้นดังกล่าวประมาณ 20%
ตัวแทนผู้เสียหาย ระบุว่า ผู้บริหารของบริษัทดังกล่าว เป็นเพื่อนที่เรียนมหาวิทยาลัยเดียวกับตน โดยผู้ก่อเหตุจะชักชวนตรงไปยังผู้เสียหายแต่ละคนเมื่อปลายปี 2564 ให้มาเป็นพนักงานขายหุ้นกับบริษัทดังกล่าว โดยจะได้รับเปอร์เซ็นต์จากการขายหุ้นทำกำไรประมาณ 20-30% จึงทำให้กลุ่มผู้เสียหายสนใจ และมาสมัครเป็นพนักงานขาย
โดยมีการไประดมทุนเป็นเงินส่วนตัว และเงินจากกลุ่มญาติคนรู้จักในจังหวัดอุบลราชธานี มาลงทุนกับบริษัทดังกล่าว โดยเฉพาะในจังหวัดอุบลราชธานีมีประมาณ 50 ล้านบาท แต่หากรวมจากทั่วประเทศแล้วจะมีมูลค่ามากถึง150 ถึง 200 ล้านบาท
ช่วงแรก ผู้ก่อเหตุจ่ายเงินปันผลให้ตรงตามที่ตกลงกันไว้ 1-2 งวด จากนั้นก็เริ่มบ่ายเบี่ยง อ้างว่าบริษัทมีเงินลงทุน และผลกำไรเข้ามาในบัญชีของบริษัทมากผิดปกติ จนทำให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. อายัดบัญชีของบริษัททั้งหมดจนไม่สามารถจ่ายเงินให้กับนักลงทุนได้ ก่อนจะตัดการติดต่อ และหลบหนีไป
จนทำให้ผู้เสียหายหลายคนได้รับความเดือดร้อน และเข้าแจ้งความกับหลายหน่วยงาน ทั้ง ตำรวจ และ กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI แต่ก็ไม่มีการออกหมายเรียก หรือ หมายจับ เนื่องจากกลุ่มผู้เสียหายกระจายกันไปแจ้งความหลายหน่วยงาน จนทำให้ไม่สามารถดำเนินการทางคดีได้
จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้ผู้เสียหายหลายคน ซึ่งเป็นพนักงานบริษัทได้รับความเดือดร้อนจากการไประดมเงินลงทุน และถูกแจ้งความดำเนินคดีในฐานะแม่ข่ายแชร์ลูกโซ่ ซึ่งมีผู้เสียหายที่ลงทุนกับบริษัทดังกล่าวมากที่สุดถึง 2 ล้านบาท
ทั้งนี้ ผู้ก่อเหตุยังเคยมีการหลอกลวงว่าที่มีปัญหาการจ่ายเงินล่าช้า หรือ ไม่สามารถจ่ายเงินได้ในบางช่วงมาจากการที่มีปัญหากลับ ปปง. เพราะมีเงินหมุนเวียนในบัญชีจำนวนมากทำให้ถูกอายัดบัญชี แต่จากการตรวจสอบไปยังสำนักงาน ปปง. พบว่าไม่ได้มีการอายัดเงินในบัญชีดังกล่าว และ ยังพบว่ามีการตกแต่งเลขงบดุลบัญชีรวมถึงปลอมแปลงเอกสารเป็นจำนวนมากอีกด้วย
ตัวแทนผู้เสียหาย ระบุอีกว่า ล่าสุดผู้ก่อเหตุได้กลับมาตั้งบริษัทใหม่ เมื่อช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา และยังพบว่า คนมีสี และ นายพลนอกราชการ มาเป็นกรรมการร่วมด้วย จึงเกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัย เพราะผู้ก่อเหตุก็เคยมีการพูดว่ามีบุคคลอยู่เบื้องหลัง และคอยคุ้มครองอยู่
รวมถึงตัวผู้ก่อเหตุเองก็เป็นคนที่มีอารมณ์รุนแรง ในวันนี้จึงอยากเดินทางมาให้ทางกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางหรือกองปราบปรามช่วยเหลือในคดีนี้เพื่อติดตามผู้กระทำความผิดมารับโทษเพื่อความปลอดภัยของผู้เสียหายทุกคน เพราะที่ผ่านมาก็เห็นว่าผู้ก่อเหตุใช้ชีวิตสุขสบายซื้อรถใหม่ในขณะที่ผู้เสียหายต้องเป็นหนี้สินลำบากในชีวิต