ราคาทองฟิวเจอร์ปิดบวก 1% อานิสงส์ดอลล์อ่อน-บอนด์ยิลด์ร่วง
ราคาทองฟิวเจอร์ปิดบวกกว่า 1% ในวันพฤหัสบดี (16 พ.ย.) อานิสงส์จากเงินดอลลาร์อ่อนค่า และการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ธ.ค. เพิ่มขึ้น 23 ดอลลาร์ หรือ 1.17% ปิดที่ 1,987.30 ดอลลาร์/ออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำสปอตพุ่ง 1.1% มาอยู่ที่ 1,980.99 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวลงเทียบสกุลเงินหลัก
เมื่อคืนที่ผ่านมา ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.04% แตะที่ระดับ 104.3490 ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีลดลงสู่ระดับ 4.473%
ทั้งนี้ ดอลลาร์ที่อ่อนค่าจะเพิ่มความน่าดึงดูดของทอง ทำให้สัญญาทองมีราคาถูกลงสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น ส่วนการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ จะช่วยลดต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย
ด้านนักวิเคราะห์ประเมินว่า ทองคำจะยังอยู่ในช่วงขาขึ้นอย่างแข็งแกร่งต่อไป ตราบใดที่ราคายังยืนเหนือระดับ 1,930 ดอลลาร์
นายโอเล แฮนเซน หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์โภคภัณฑ์ของ Saxo Bank คาดการณ์ว่า แนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยและความต้องการถือครองทองคำที่มีอย่างต่อเนื่องของบรรดาธนาคารกลาง น่าจะเป็นแรงสนับสนุนมากพอให้ทองคำต้านทานความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจในระยะสั้นได้
ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี ร่วงลงหลุดระดับ 4.5% ในวันพฤหัสบดี มาอยู่ที่ระดับ 4.473% ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี อยู่ที่ระดับ 4.649%
นอกจากนี้ ราคาทองได้รับแรงหนุนจากการที่นักลงทุนคาดว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ยุติวงจรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้ว หลังการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อต่ำกว่าคาด
นักลงทุนจับตาตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ รวมทั้งถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟดเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมเดือน ธ.ค.2566, ม.ค.2567 และ มี.ค.2567 ก่อนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมเดือน พ.ค.2567