เฟดอาจลดดอกเบี้ยแค่ 1 หรือ 2 รอบในปีนี้ ‘ตัวเลขเงินเฟ้อ’ ชี้ชะตาดอกเบี้ยนโยบาย
“นีล คาชการี” ออกมาคาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยแค่ 1 หรือ 2 รอบในปีนี้ หลังรับรู้ถ้อยแถลงของ “เจอโรม พาวเวล ” ในวันนี้ จับตาตัวเลข “เงินเฟ้อ” สะท้อนแนวโน้มที่ชัดเจนที่สุด พร้อมตั้งคำถามถ้าตัวเลขเศรษฐกิจแข็งแกร่ง ทำไมต้องลดดอกเบี้ย?
KEY
POINTS
- สรุป 5 ประเด็นสำคัญจากถ้อยแถลง "พาวเวล" ในวันนี้
- “นีล คาชการี” ออกมาคาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยแค่ 1 หรือ 2 รอบในปีนี้
- ตัวเลข “เงินเฟ้อ” สะท้อนแนวโน้มที่ชัดเจนที่สุดสำหรับการคาดการณ์ดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมเฟดครั้งถัดไปในวันที่ 19-20 มีนาคม นี้
- ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐออกมาแข็งแกร่ง แล้วทำไมต้องลดดอกเบี้ย ?
นีล คาชการี (Neel Kashkari) ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขามินนิอาโปลิส คาดว่าเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยสองครั้ง หรืออาจลดเพียงครั้งเดียว ในปี 2567 แต่เน้นย้ำว่าเขายังไม่ได้สรุปการคาดการณ์สำหรับการประชุมครั้งต่อไปของเฟด รวมทั้งในปีนี้เขาเองไม่มีสิทธิออกเสียงเกี่ยวกับนโยบายการเงิน
หลังจากที่ เจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ กล่าวกับคณะกรรมการบริการทางการเงินของสภาในวันนี้ ทำให้ นีล คาชการี มองว่าหรือการลดอัตราดอกเบี้ยอาจจะน้อยกว่าหนึ่งครั้ง ซึ่งขึ้นอยู่กับข้อมูลเงินเฟ้อที่เราจะเห็น
แต่อย่างไรก็ตาม นีล คาชการี ยังไม่ได้ตัดสินการคาดการณ์นี้อย่างชัดเจน เพราะข้อมูลชี้วัดยังไม่ชัดเจนพอที่จะทำให้เขาคาดการณ์การลดอัตราดอกเบี้ย ได้มากกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ในเดือนธันวาคม ปี 2566 ที่ผ่านมา ว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยสองครั้งในปีนี้(2567)
โดยเฟดตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับสูงสุดในรอบสองทศวรรษตั้งแต่เดือนกรกฎาคม และมีท่าทีไม่รีบที่จะลดอัตราดอกเบี้ยจนกว่าจะมีความมั่นใจมากขึ้นว่าเงินเฟ้ออยู่ระดับ 2% ซึ่งการประชุมเฟดในเดือนธันวาคม เฟดคาดว่าจะมีการลดอัตราดอกเบี้ยสามครั้งในปีนี้ และอาจมีการเปลี่ยนแปลงการคาดการณ์อีกครั้ง ในการประชุมวันที่ 19-20 มีนาคม ที่จะถึงนี้
หากเศรษฐกิจสหรัฐ ยังคงแข็งแกร่ง เหตุใดเฟดจึงต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ย?
ความแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องของตลาดแรงงาน และการเติบโตทางเศรษฐกิจ ชี้ให้เห็นว่าอัตราดอกเบี้ยที่สูงอาจไม่ได้ส่งผลมากในการควบคุมเศรษฐกิจ
"หากอัตราการเติบโตน่าดึงดูด ผู้คนมีงานทำ ธุรกิจไปดี และเงินเฟ้อกำลังลดลง ทำไมต้องทำอะไร?"
ทำให้เขากำลังติดตามข้อมูลเงินเฟ้ออย่างใกล้ชิด โดยระบุว่าอยากเห็นอัตราเงินเฟ้อที่ลดลง แต่ถึงแม้ว่าอัตราเงินเฟ้อจะเริ่มเร่งตัวขึ้นก็ตาม
สิ่งที่เป็นไปได้มากที่สุดในตอนนี้ คือ “จะไม่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย” แต่ทว่าหากเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นอีกครั้งก็อาจทำให้มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งก็ได้ เพราะถ้าหากอัตราเงินเฟ้อยังไม่ปรับตัวลดลงตามที่คาดการณ์ไว้ในตอนแรก ทำให้การเคลื่อนไหวแรกที่เฟดจะทำได้คือ การคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายตอนนี้ไว้ให้นานที่สุด
5 ประเด็นสำคัญที่พาวเวลพูดวันนี้
สำหรับถ้อยแถลงของพาวเวล คาดว่าเฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ หากเศรษฐกิจมีการปรับตัวตามที่เฟดคาดการณ์ พร้อมกับ 5 ประเด็นสำคัญที่พูดถึงชัดๆ
1.เชื่อว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายตอนนี้ อาจอยู่ที่ระดับสูงสุดแล้ว และถ้าหากเศรษฐกิจมีการปรับตัวตามที่ได้คาดการณ์ไว้ จะเป็นโอกาสเหมาะสมที่เฟดจะเริ่มผ่อนคลายนโยบายในปีนี้
2. แต่เฟดยังไม่มีกรอบเวลาชัดเจนสำหรับการปรับลดอัตราดอกเบี้ย เพราะต้องประเมินอย่างระมัดระวังต่อข้อมูลที่ได้รับ รวมไปถึงผลกระทบที่เปลี่ยนแปลง ซึ่งต้องรักษาสมดุลความเสี่ยง
3.เฟดมองว่ายังคงไม่เหมาะสมที่จะปรับลดเป้าหมายอัตราดอกเบี้ย จนกว่าจะมีความเชื่อมั่นมากขึ้นว่าเงินเฟ้อกำลังปรับตัวสู่ระดับ 2% อย่างมั่นคง
4. เจอโรม มองว่า ถ้าเฟดลดอัตราดอกเบี้ยเร็วเกินไปจะทำให้เฟดมีความเสี่ยงต่อการพ่ายแพ้ในการทำสงครามกับเงินเฟ้อ จนต้องกลับมาขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก แต่ระยะเวลาที่นานเกินไปก็มีความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจ
5. พาวเวลเผชิญแรงกดดันจาก สมาชิกสภาคองเกรสกดดันเฟด จากความต้องการให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ย โดยเฉพาะจากนางเอลิซาเบท วอร์เรน วุฒิสมาชิกจากรัฐแมสซาชูเซตส์ ที่เคยเรียกร้องให้เฟดลดดอกเบี้ยเพื่อลดผลกระทบต่อครัวเรือนที่มีรายได้น้อย
ด้าน FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกของปีนี้ในเดือนมิ.ย. และจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% จำนวน 4 ครั้งในปีนี้
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์