วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.กรุงศรี BANKING SECTOR - กำไร 1Q24 เพิ่มขึ้น แต่มีความท้าทายรออยู่ข้างหน้า
กำไรของกลุ่มธนาคารเพิ่มขึ้น 12% yoy และ 29% qoq ใน 1Q24 จาก NIM ที่เพิ่มขึ้น yoy และ ตั้งสำรองลดลง qoq อย่างไรก็ตาม สินเชื่อไม่เติบโต, NIM ที่หดตัว (ภายใต้สมมติฐานว่าจะมีการลดดอกเบี้ยในช่วงกลางปี 2024F)
และ credit cost ที่ยังสูง (แต่ลดลง yoy) จะทำให้ PPOP และ กำไรสุทธิของกลุ่มธนาคารในปี 2024F ลดลง 5% และ 2% yoy ตามลำดับ ซึ่งถึงแม้เราจะคาดว่าค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานจะลดลง yoy แต่อัตราการเติบโตของกำไรกลุ่มธนาคารคาดจะยังลดลง 2% yoy แต่หากไม่มีการลดดอกเบี้ย กำไรของกลุ่มจะเพิ่มขึ้นจากประมาณการเราในกรณีฐานอีก 6% เราเลือก TTB และ BBL เป็นหุ้นเด่นของเราในกลุ่มนี้ เพราะคุณภาพสินทรัพย์ที่แข็งแรงกว่าท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ท้าทาย
สินเชื่อรวมของทั้งกลุ่มไม่เติบโต โดยทรงตัวทั้ง yoy และ qoq
สินเชื่อของกลุ่มธนาคารทรงตัวทั้ง yoy และ qoq ใน 1Q24 โดยการเติบโตของสินเชื่อ BBL, SCB และ KTB สำหรับ BBL ได้แรงสนับสนุนจากสินเชื่อระหว่างประเทศ, SCB จากสินเชื่อบ้าน และ สินเชื่อ AutoX และ KTB ได้แรงหนุนจากสินเชื่อภาครัฐ ในขณะที่ NIM โดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเป็น 3.45% จาก 3.17% ใน 1Q23 เนื่องจากเป็นช่วงปลายวัฏจักรดอกเบี้ยขาขึ้น แต่ลดลง qoq จาก 3.56% เพราะต้นทุนทางการเงินสูงขึ้น ทั้งนี้ Non-NII ของกลุ่มธนาคารลดลง 3% yoy แต่เพิ่มขึ้น 12% qoq จากรายได้ค่าธรรมเนียม bancassurance และ บัตรเครดิต ในขณะที่สัดส่วน C/I เพิ่มขึ้น yoy เนื่องจากยังจะมีการลงทุนต่อเนื่อง และ ค่าใช้จ่ายดำเนินงานเพิ่มขึ้น แต่ลดลง qoq เพราะปัจจัยฤดูกาล
credit cost ของกลุ่มธนาคารยังทรงตัว yoy แต่ลดลง 40bps qoq ในขณะที่สัดส่วน NPL แม้ทรงตัว yoy แต่เพิ่มขึ้น 8bps qoq
ถึงแม้จะเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจที่ท้าทาย และ หนี้ครัวเรือนที่สูง แต่ credit cost ของกลุ่มธนาคารยังทรงตัว yoy อยู่ที่ระดับเฉลี่ย 152bps จากการจัดการNPL แต่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ qoq จาก 192bps เพราะมีการตั้งสำรองสูงพิเศษไปเมื่อ
4Q23 อย่างไรก็ตาม ถึงแม้สัดส่วน NPL ของกลุ่มธนาคารจะไม่เปลี่ยนแปลง yoy แต่เพิ่มขึ้น 8bps qoq มาอยู่ที่ระดับเฉลี่ย 3.08% ดังนั้น สัดส่วน coverage ratio จึงทรงตัว yoy แต่ลดลง qoq มาอยู่ที่ระดับเฉลี่ย 188%
คงให้น้ำหนักกลุ่มธนาคารที่ Neutral โดยแนะนำซื้อ TTB และ BBL
เรายังคงให้น้ำหนักหุ้นกลุ่มธนาคารที่ Neutral เพราะการประเมินมูลค่าหุ้น (valuations) ในกลุ่มดูน่าสนใจ โดยคิดเป็น PBV ปี 2024F เพียง 0.6 เท่า และอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลก็อยู่ในเกณฑ์ดีที่ 6% ต่อปี เรามองว่า TTB และ BBL โดดเด่นและเป็น top picks ของเราเนื่องจาก valuations ที่น่าสนใจ (PBV ถูกและมีการเติบโตของกำไร yoy ในปี 24F สำหรับBBL และมี ROE สูงขึ้นและมีการเติบโตของกำไรสูงที่สุด yoy ในปี 24F ของ TTB) และ คุณภาพสินทรัพย์ที่ดีกว่าหุ้นอื่นในกลุ่ม ซึ่งทำให้สามารถรองรับความเสี่ยง และ ความไม่แน่นอนที่จะเกิดขึ้นได้