‘บอนด์อินเดีย’ จ่อผงาดดัชนีโลก มิ.ย.นี้ JPMorgan คาดดึงเงินเข้า 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์

‘บอนด์อินเดีย’ จ่อผงาดดัชนีโลก มิ.ย.นี้ JPMorgan คาดดึงเงินเข้า 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์

‘เจพีมอร์แกน’คาดตลาดหุ้นอินเดียมีเม็ดเงินลงทุนไหลราว 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์ หลังรวมเข้าดัชนีหนี้ตลาดเกิดใหม่ มิ.ย.67 นี้ พร้อมกับ ‘รัฐบาลอินเดีย’ ปฎิรูปตลาดใหม่ พร้อมดึงเงินลงทุนจากต่างชาติ

เจพีมอร์แกน เชส” ธนาคารขนาดใหญ่ที่สุดของสหรัฐเตรียมนำ ตราสารหนี้อินเดีย เข้ารวมในการคำนวณดัชนีตราสารหนี้ของตลาดเกิดใหม่ หรือ Government Bond Index-Emerging Markets (GBI-EM) ในวันที่  28 มิ.ย.2567  โดยได้รับการสนับสนุนจากลูกค้าส่วนใหญ่ที่พร้อมเข้าซื้อขายตราสารทางการเงินนี้

“กลอเรีย คิม” ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยดัชนีระดับโลกของเจพีมอร์แกน ประมาณการว่า เงินทุนไหลเข้าจากต่างประเทศจะอยู่ระหว่าง 2 - 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์โดยอิงตามน้ำหนักที่เป็นกลางของดัชนี ซึ่งหมายถึงสัดส่วนการลงทุนในแต่ละประเทศสมาชิกของดัชนีจะมีการปรับเปลี่ยนเพื่อรักษาความเสี่ยงโดยรวมของดัชนี

รวมทั้ง ตลาดอินเดียได้รับเสียงตอบรับจากตลาดส่วนใหญ่เป็นไปในเชิงบวกเนื่องจากลูกค้าต้องการใช้ข้อมูลดัชนีเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการซื้อขายตราสารทางการเงินในตลาดพันธบัตรรัฐบาลอินเดีย

“จากกระบวนการให้คําปรึกษาด้านการกํากับดูแลดัชนีประจําปี ข้อเสนอแนะของตลาดจนถึงขณะนี้ส่วนใหญ่เป็นไปในเชิงบวก โดยลูกค้าดัชนีส่วนใหญ่ของเราตั้งค่าให้ซื้อขายในตลาด IGB แล้ว” กลอเรีย คิม กล่าว

คิม กล่าวเพิ่มเติมว่า "แน่นอนว่าการเข้าสู่ตลาดใหม่ย่อมมีปัญหาในช่วงเริ่มต้นเสมอ แต่ประเด็นที่เราพบส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับความพร้อมด้านการดำเนินงานและความยืดหยุ่นของคู่เทรด และธนาคารผู้ดูแลหลักทรัพย์มากกว่าอุปสรรคในการเข้าสู่ตลาด" อย่างไรก็ดี ต้องคำนึงถึงการปฏิรูปที่รัฐบาลอินเดียได้ดำเนินการไว้ด้วย

เมื่อกันยายนปีที่แล้ว  JPMorgan เคยประกาศว่าจะรวมพันธบัตรของอินเดียไว้ในดัชนีตลาดเกิดใหม่ โดยจะมีสัดส่วนการลงทุนสูงสุดไม่เกิน 10% นอกจากนี้ เจพี มอร์แกนประเมินว่า ปัจจุบันดัชนีตลาดเกิดใหม่มีมูลค่าการบริหารจัดการสินทรัพย์อยู่ที่ 2.16 แสนล้านดอลลาร์

"เราเคยเห็นในอดีตว่า สินทรัพย์ที่ติดตามดัชนีมีแนวโน้มคงที่ โดยทั่วไปแล้วจะมีการลงทุนอย่างต่อเนื่อง" คิมกล่าว

บอนด์อินเดียโชว์ฟอร์มเด่น ดึงเงินไหลเข้าไม่หยุด

ตั้งแต่เจพี มอร์แกนประกาศรวมพันธบัตรรัฐบาลอินเดียไว้ในดัชนีตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้ว ตลาดตราสารหนี้ของอินเดียได้รับเงินทุนไหลเข้าราว 8 พันล้านดอลลาร์ โดยมีการไหลเข้าอย่างเต็มที่ แม้ว่าจะมีเงินไหลออกบ้างในเดือนเมษายน ซึ่งตรงกับช่วงที่ตลาดตราสารหนี้ทั่วโลกเกิดการเทขาย

‘บอนด์อินเดีย’ จ่อผงาดดัชนีโลก มิ.ย.นี้ JPMorgan คาดดึงเงินเข้า 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์

ดัชนีชี้วัดตราสารหนี้ของบลูมเบิร์กบ่งชี้ว่า พันธบัตรรัฐบาลอินเดียมีผลตอบแทนดีกว่าพันธบัตรของประเทศอื่น ๆ ในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ ซึ่งคาดว่าเงินทุนที่ไหลเข้าเกิดขึ้นจากการที่อินเดียจะรวมอยู่ในดัชนีระดับโลกครั้งนี้ ซึ่งส่งผลกระทบต่อสินทรัพย์ประเภทต่าง ๆ ของอินเดีย ทำให้พันธบัตรของบริษัทเอกชนอินเดียก็มีผลตอบแทนที่ดีกว่าพันธบัตรของบริษัทในประเทศอื่น ๆ ในกลุ่มตลาดเกิดใหม่เช่นกัน

นอกจากนี้ เงินสำรองระหว่างประเทศของอินเดียยังแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ปัจจัยเหล่านี้ช่วยให้สกุลเงินรูปีแข็งค่าขึ้น แม้ดอลลาร์จะแข็งค่าเทียบกับสกุลเงินอื่น ๆ ทั่วโลกก็ตาม

อินเดียปฏิรูปตลาดเงินรับนักลงทุนต่างชาติ

นักลงทุนต่างชาติแห่ซื้อพันธบัตรอินเดีย ส่งผลกระทบเชิงบวกต่อตลาดโดยรวม ทางบริษัท Bloomberg Index Services Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ Bloomberg LP บริษัทที่ให้บริการข้อมูลทางการเงินชั้นนำระดับโลก ก็มีแผนที่จะรวมประเทศอินเดียไว้ในดัชนีตลาดเกิดใหม่ของตัวเองเช่นกัน โดยคาดว่าจะมีผลตั้งแต่เดือนมกราคมปีหน้า การตัดสินใจดังกล่าวถือเป็นการแข่งขันกับผู้ให้บริการดัชนีรายอื่น ๆ

อย่างไรก็ตาม การที่อินเดียจะเข้าสู่ดัชนีโลกนั้น นักลงทุนต่างชาติยังมีความกังวล เนื่องจากขั้นตอนการเตรียมความพร้อมเพื่อเข้ามาซื้อขายในตลาดอินเดียมีความยุ่งยาก โดยเฉพาะกระบวนการเอกสารที่ซับซ้อน

เจพี มอร์แกน ชี้ว่ารัฐบาลอินเดียได้ดำเนินการปฏิรูปตลาดเพื่อดึงดูดนักลงทุนต่างชาติอย่างมากมาย ซึ่งรายละเอียดของการปฏิรูป ได้แก่ การขยายเวลาการจับคู่คำสั่งซื้อขายสำหรับนักลงทุนสถาบันต่างชาติ รวมทั้งการปรับกระบวนการยื่นขอลงทุนให้สะดวกยิ่งขึ้น โดยใช้แบบฟอร์มใบสมัครเพียงฉบับเดียว และการยกระดับความสะดวกในการลงทะเบียนเปิดบัญชี ด้วยการยอมรับลายเซ็นดิจิทัลและสำเนาเอกสารที่สแกน

นอกจากนี้ คิม ยังกล่าวอีกว่า มีกองทุนรวม ETF และกองทุน UCITS (Undertakings for Collective Investment in Transferable Securities) หลายกองทุนที่เน้นการลงทุนในตราสารหนี้ของอินเดียโดยเฉพาะ ซึ่งกองทุนเหล่านี้สามารถซื้อขายได้ระหว่างวัน จะช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้กับนักลงทุน

“มาตรการเหล่านี้ช่วยยกระดับการเข้าถึงตลาดและการซื้อขายตราสารหนี้โดยรวมให้กับนักลงทุนสถาบันต่างชาติ ทำให้นักลงทุนรู้สึกมั่นใจมากขึ้นในการลงทุนตลาดตราสารหนี้รัฐบาลอินเดีย” คิมกล่าว

อ้างอิง bloomberg