จับตา ‘เงินเฟ้อ - ประชุมเฟด’ คืนนี้ คาดรายงาน Dot plot บ่งชี้ปีนี้ลดดอกเบี้ย 2 ครั้ง

จับตา ‘เงินเฟ้อ - ประชุมเฟด’ คืนนี้ คาดรายงาน Dot plot บ่งชี้ปีนี้ลดดอกเบี้ย 2 ครั้ง

คืนนี้นักลงทุนจับตา 2 ข้อมูลสำคัญ ‘ดัชนี CPI - ประชุม Fed’ พร้อมรายงานคาดการณ์ดอกเบี้ย Dot plot คาดส่งสัญญาณลดดอกเบี้ย 2 ครั้งปีนี้ หวั่นตลาดหุ้นผันผวนหนักหากตัวเลขไม่เป็นไปตามคาด

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่านักลงทุนทั่วโลกกำลังจับตา 2 ปัจจัยสำคัญที่จะประกาศผลในวันนี้(12 มิ.ย.67) ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐ ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญในการชี้วัด “เงินเฟ้อ” สหรัฐ และรายงาน “Dot plot” ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ใช้แสดงมุมมองของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) เกี่ยวกับนโยบาย “ดอกเบี้ย” ในอนาคต

“ตลาดจะรับทราบข้อมูลเงินเฟ้อระหว่างการประชุม ซึ่งเงินเฟ้อเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อตัวเลขต่างๆ”ไดแอน สวอนค์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จาก KPMG LLP กล่าว

คาดเฟดลดดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนพ.ค. ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สำคัญ จะเพิ่มขึ้น 0.1%  จากเดือนเม.ย. และคาดว่า จะเพิ่มขึ้น 3.4% เมื่อเทียบรายปี ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (core CPI) นั้น คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.3% เมื่อเทียบรายเดือน และเพิ่มขึ้น 3.5% เมื่อเทียบรายปี  

คณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) จะเผยแพร่ข้อมูลเศรษฐกิจประจำรายไตรมาส ในรายงานคาดการณ์เศรษฐกิจ Summary of Economic Projections ซึ่งจะมีปัจจัยจากตัวเลข CPI เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย โดยปกติเจ้าหน้าที่เฟดที่เข้าร่วมการประชุมจะส่งตัวเลขประมาณการในช่วงเช้าวันพุธตามเวลาสหรัฐ

แอนนา หว่อง หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์สหรัฐจาก Bloomberg กล่าวว่า การประชุม FOMC ในเดือนมิถุนายน มีความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากมีแนวโน้มว่า ‘เจอโรม พาวเวล’ ประธานเฟด จะให้ข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับ ตารางเวลาการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งคาดว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้ง ครั้งละ 0.25%  ในปี 2567

นักวิเคราะห์ของ UBS ระบุว่า การปรับลดจะเกิดขึ้นในช่วงเดือนพ.ย. หรือเดือนธ.ค.

การคาดการณ์จากนักเศรษฐศาสตร์ในตอนนี้แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม โดย 41% คาดว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปี 2567 และอีก 41% คาดว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 1 ครั้งหรือไม่มีเลย ส่วนที่เหลือคาดการณ์ว่าเฟดจะยังคงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงต่อไป

JPMorgan เตือนข้อมูลเศรษฐกิจทำตลาดหุ้นผันผวน 

ธนาคารเจพีมอร์แกนเชส (JPMorgan Chase & Co.) เตือนนักลงทุนให้ระวังความผันผวนที่จะเกิดขึ้นในตลาดหุ้น หลังมีการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อ และนโยบายดอกเบี้ยในวันนี้

แอนดรูว์ ไทเลอร์ นักวิเคราะห์ของเจพีมอร์แกนเชส  กล่าวถึงการเดิมพันในตลาดออปชั่นบ่งชี้ว่า ดัชนี S&P 500 มีแนวโน้มแกว่งตัวระหว่าง 1.3% ถึง 1.4% ภายในวันศุกร์นี้ จากสัญญาออปชั่น แบบ at-the-money ที่กำลังจะหมดอายุในวันศุกร์

ไทเลอร์ คาดการณ์ว่าหากดัชนี CPI เพิ่มขึ้น 0.4% จะส่งผลกระทบเชิงลบต่อสินทรัพย์เสี่ยงทั้งหมด โดยเฉพาะดัชนี S&P 500 ซึ่งมีแนวโน้มดิ่งลงระหว่าง 1.5% ถึง 2.5% แต่  ไทเลอร์มองว่าโอกาสที่ CPI จะเพิ่มขึ้น 0.4% มีเพียง 5% เท่านั้น

ขณะเดียวกัน นักลงทุนต่างเทขายพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ก่อนการประชุมเฟด และการรายงานดัชนี CPI โดย Open interest ในสัญญาฟิวเจอร์สพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ อายุ 10 ปี ลดลง ประมาณ 80,000 สัญญา นับตั้งแต่มีการรายงานข้อมูลการจ้างงานเมื่อวันศุกร์ ซึ่งเป็นสัญญาณว่าผู้ค้ากำลังชะลอการเดิมพันขาขึ้น 

การเทขายดังกล่าวสะท้อนมุมมองว่านักลงทุนในตลาดมองว่า เฟดอาจคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับสูงขึ้นเป็นเวลานานขึ้น มากกว่าความคิดเห็นเชิงบวกเกี่ยวกับการผ่อนคลายนโยบายการเงิน

การคาดการณ์แนวโน้มการปรับอัตราดอกเบี้ยของเฟด สร้างความผันผวนให้กับตลาดเงิน และตลาดทุนตลอดทั้งปีที่ผ่านมา ทำให้เกิดการเทขายพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ และดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อสกุลเงินเอเชีย เช่น เยนญี่ปุ่น และหยวนจีน เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐเป็นเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินของเฟดได้ส่งผลกระทบต่อ เศรษฐกิจโลกโดยรวมอย่างมาก

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์