'จีน' เตรียมอัดฉีด 4 แสนล้านหยวน เพิ่มทุนแบงก์รัฐ ลุยกระตุ้น ศก.

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานอ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องว่า จีนมีแผนจะเพิ่มทุนอย่างน้อย 4 แสนล้านหยวน (ราว 1.86 ล้านล้านบาท) ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ ให้กับกลุ่มธนาคารรัฐขนาดใหญ่ ซึ่งจะประเดิมก่อน 3 แห่งคือ ธนาคารเกษตรแห่งประเทศจีน (ABC), ธนาคารแห่งการสื่อสาร (BOCOM) และธนาคารไปรษณีย์จีน (PSBC) โดยเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ประกาศไปเมื่อปีที่แล้ว เพื่อช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจจีนที่กำลังชะลอตัวลง

แหล่งข่าวระบุว่าแผนเพิ่มทุนดังกล่าวอาจแล้วเสร็จได้เร็วที่สุดในช่วงปลายเดือนมิ.ย. แต่อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ และจำนวนเงินที่เพิ่มทุนให้กับแต่ละธนาคารยังอยู่ในระหว่างการสรุปอยู่ 

ก่อนหน้านี้ เคยมีรายงานว่าหน่วยงานกำกับดูแลด้านธนาคารของจีนมีแผนจะเพิ่มเงินกองทุนขั้นที่หนึ่ง 1 (tier-1 capital) ให้กับธนาคารรายใหญ่ 6 แห่งของจีนในเดือนกันยายน แต่ยังไม่มีรายละเอียดเพิ่มเติม ต่อมากระทรวงการคลังของจีนเปิดเผยว่า จะออกพันธบัตรพิเศษระดมทุน เพื่อช่วยเสริมความสามารถของธนาคารในการรับมือกับความเสี่ยง และกระตุ้นการปล่อยกู้ให้มากขึ้น

บลูมเบิร์กเคยรายงานเมื่อปีที่แล้วว่า จีนสามารถอัดฉีดเงินทุนช่วยกลุ่มแบงก์ใหญ่ในประเทศได้มากถึง 1 ล้านล้านหยวน (ราว 4.6 ล้านล้านบาท) โดยเงินทุนส่วนใหญ่จะมาจากการออกพันธบัตรพิเศษใหม่ของรัฐบาล
 

อย่างไรก็ตาม กระทรวงการคลัง หน่วยงานกำกับดูแลการเงิน และธนาคารที่เกี่ยวข้องเหล่านี้ ไม่ได้ตอบคำถามหรือให้ความเห็นต่อรายงานข่าวนี้ ขณะที่ราคาหุ้นของธนาคารเกษตรพุ่งขึ้น 2.6% ขณะที่หุ้นธนาคารสื่อสารพุ่งขึ้น 2.2% ในการซื้อขายที่ตลาดหุ้นฮ่องกงวานนี้ 

ทั้งนี้ จีนกำลังเร่งเสริมความแข็งแกร่งให้ระบบธนาคารของตน แม้ว่าธนาคารรัฐ 6 อันดับแรกในจีนจะมีระดับเงินทุนที่สูงเกินกว่าเกณฑ์แล้วก็ตาม เพื่อรองรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่จีนทยอยประกาศออกมาตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้ว ซึ่งรวมถึงมาตรการลดดอกเบี้ยเงินกู้ที่อยู่อาศัย และการลดดอกเบี้ยนโยบายหลัก 

ทว่าปัจจุบัน บรรดาแบงก์รัฐที่มีส่วนสำคัญในการช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจจีนในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เช่น ABC และ PSBC กำลังเผชิญกับอัตรามาร์จินที่ลดลงต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ รวมถึงอัตรากำไรที่ลดลง และหนี้เสียที่เพิ่มขึ้น

โดยปกติแล้ว ธนาคารของจีนจะพึ่งผลกำไรที่สะสมไว้เพื่อเพิ่มเงินกองทุน และบางแห่งยังออกตราสารหนี้จำนวนมากเพื่อใช้ประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยที่ถูกกว่าในตลาดพันธบัตร แต่การเพิ่มทุนจากรัฐบาลปักกิ่งโดยตรงครั้งนี้ ถือเป็นการเคลื่อนไหวครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดวิกฤตการณ์ทางการเงินโลกในปี 2008 (วิกฤติซับไพรม์)

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์