ตลาดหุ้นเอเชียดิ่งหนักรับ 11 โมงวันนี้ ทรัมป์ขึ้นภาษีจีน 104%

ตลาดหุ้นในเอเชียเปิดตลาดวันพุธที่ 9 เม.ย.68 ในแดนลบกันถ้วนหน้า รับมาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal tariffs) ของสหรัฐที่จะมีผลหลังเที่ยงคืนวันพุธตามเวลาฝั่งตะวันออกของสหรัฐ หรือหลังเวลา 11.01 วันนี้ตามเวลาในไทย โดยเฉพาะ "จีน" ที่จะถูกสหรัฐเรียกเก็บภาษีสูงถึง 104% โดยเป็นอัตราของเดิม 54% (34% กับ 20%) รวมกับการลงโทษอีก 50% เนื่องจากรัฐบาลจีนไม่ยอมถอยกลับ และเรียกเก็บภาษีตอบโต้สหรัฐ 34% โดยจะมีผลวันที่ 10 เม.ย.68 นี้ 

ซีเอ็นบีซีรายงานว่า ดัชนีนิกเคอิ 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เปิดลบไป 3.14% และระหว่างการซื้อขายเมื่อเวลาประมาณ 09.50 น. ลบไปกว่า 850 จุด ดัชนีโทปิกซ์ลบ 3.26% โดยกลับมาในแดนลบอีกครั้งหลังจากเพิ่งรีบาวด์ไปได้เมื่อวันอังคาร

ทั้งนี้ หุ้นเกาหลีใต้ปรับตัวลงไปแล้ว 20% นับตั้งแต่ราคาสูงสุดเมื่อเดือนก.ค.2024 หรือเข้าสู่ภาวะ "ตลาดหมี" ในเชิงเทคนิคแล้ว ในขณะที่ค่าเงินวอนก็อ่อนค่าลงต่ำที่สุดในรอบ 16 ปี หรือนับตั้งแต่ช่วงวิกฤตการณ์ซับไพรม์ในปี 2009 

ขณะที่ดัชนีฮั่งเส็งฮ่องกง ลบไปถึง 3.86% และฮั่งเส็งเทค ลบหนักถึง 5.42% ส่วนคอสปีเกาหลีใต้ ลบ 0.15% และคอสแด็ค ลบไป 0.44%

ขณะที่ดัชนี VNI ของเวียดนาม ปรับตัวลงต่อเนื่องอีก 2.1% ในวันนี้ อยู่ที่ 1,109.05 จุด ระหว่างการซื้อขายช่วงเช้า โดยดัชนีร่วงไปแล้วมากถึงประมาณ 18% นับตั้งแต่จุดสูงสุดเมื่อเดือนมี.ค.2568

ทางด้านค่าเงินหยวนออนชอร์ของจีนอ่อนค่าลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2023 หลังจากธนาคารกลางจีน (PBOC) กำหนดค่ากลางเงินหยวนในวันนี้ที่ระดับ 7.2066 หยวน/ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับที่อ่อนค่าสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2023

ตลาดกำลังจับตาปฏิกิริยาของรัฐบาลทั่วโลกในขณะที่ภาษีของสหรัฐกำลังจะมีผลบังคับใช้ในวันนี้ เป็นที่คาดว่า "ธนาคารกลางอินเดีย" อาจมีมติลดอัตราดอกเบี้ยลงในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินในวันนี้ ซึ่งจะเป็นการลดดอกเบี้ย "สองครั้งติดต่อกัน" เพื่อช่วยประคองเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากภาษีของสหรัฐ 

ส่วนเมื่อคืนที่ผ่านมา ตลาดหุ้นสหรัฐปิดลบต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 เนื่องจากการปรับขึ้นนั้นกินเวลาสั้นๆ และนักลงทุนเริ่มวิตกกังวลอีกครั้งก่อนเส้นตายภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งจะมีการเรียกเก็บภาษีศุลกากรจากจีนสูงถึง 104% หลังเที่ยงคืนตามเวลานิวยอร์ก หรือ 11.01 น.วันพุธตามเวลาไทย

ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วงลง 320.01 จุด หรือ 0.84% ปิดตลาดที่ 37,645.59 จุด ทำให้หุ้นร่วงลง 4 วันจากความกังวลเรื่องภาษีศุลกากร โดยดิ่งลงมากกว่า 4,500 จุด  ราคาหุ้นแอปเปิ้ลเป็นผู้นำตลาดร่วง โดยต้นทุนของผู้ผลิต โทรศัพท์มือถือ iPhone จะพุ่งสูงขึ้นจากมาตรการภาษีศุลกากรใหม่ของจีน

ส่วนดัชนี S&P 500 ร่วงลง 1.57% ปิดที่ 4,982.77 จุด เฉียดภาวะตลาดหมี โดยดัชนีปิดตลาดในแดนลบเกือบ 19% จากระดับสูงสุดในเดือนกุมภาพันธ์ และปิดตลาดต่ำกว่า 5,000 จุด เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนเมษายน 2024 ในช่วง 4 วันที่ผ่านมา ดัชนี S&P 500 ร่วงลงมากกว่า 12%

ดัชนี Nasdaq Composite ร่วงลง 2.15% ปิดที่ 15,267.91 จุด ดัชนีอ้างอิงที่เน้นหุ้นเทคโนโลยีพุ่งขึ้นถึง 4.5% ในช่วงเช้าของวัน ดัชนี Nasdaq ร่วงลงมากกว่า 13% ในช่วง 4 วันที่ผ่านมา ด้านดัชนี Nasdaq 100 ลดลง 2.0% และดัชนี Russell 2000 ลดลง 2.7% 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์