สรุปภาวะสินค้าเกษตรประจำสัปดาห์ วันที่ 5-9 กันยายน 2565
ราคาสินค้าเกษตรสัปดาห์นี้ ข้าวเพิ่มขึ้น ข้าวโพด ถั่วเหลือง ปลาป่น สุกร ไก่เนื้อและไข่ไก่ราคาทรงตัว
ข้าวโพด : ราคาทรงตัว
ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ณ ไซโลโรงงานอาหารสัตว์ ราคาทรงตัวที่หาบละ 690 บาท
ด้านตลาดซื้อขายล่วงหน้าชิคาโก ประจำวันที่ 7 กันยายน 2565 ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ รอบส่งมอบเดือนธันวาคม 2565 ราคาอยู่ที่ 671.0 เซนต์/บุชเชล ราคาทรงตัว เนื่องจากข้าวโพดสหรัฐฯ ที่คุณภาพอยู่ในเกณฑ์ดีถึงยอดเยี่ยม (Good to Excellent) ถูกประเมินอยู่ที่ 54% เท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา ดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 53% ขณะที่ปัจจุบันเป็นช่วงการเจริญเติบโตในช่วงท้ายของข้าวโพด ก่อนที่จะเริ่มเก็บเกี่ยวผลผลิตในช่วงกลางเดือนนี้ ด้านอุปสงค์ข้าวโพดที่ใช้ผลิตเอทานอล สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงาน (EIA) รายงานการผลิตเอทานอลที่ 970,000 บาเรลล์ต่อวัน โดยลดลงเล็กน้อยเป็นเมื่อเทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมาซึ่งอยู่ที่ 987,000 บาเรลล์ต่อวัน ขณะที่ปัจจุบันการเก็บเกี่ยวข้าวโพดรุ่นสองของประเทศบราซิลดำเนินการแล้ว 97% ส่วนการปลูกข้าวโพดรุ่นหนึ่งสำหรับปี 2565/66 ลงปลูกแล้ว 9% ของพื้นที่คาดการณ์ ด้านสภาพอากาศในสัปดาห์หน้า คาดการณ์ว่าจะมีปริมาณน้ำฝนดี ช่วยเพิ่มความชื้นในดิน ขณะที่ตลาดติดตามรายงานภาวะอุปสงค์-อุปทานสินค้าเกษตรโลก (WASDE) ที่จะประกาศในสัปดาห์หน้า โดยตลาดคาดการณ์ว่าผลผลิตต่อไร่ (yield potentials) ของข้าวโพดสหรัฐฯ จะลดลงจาก 175.4 เป็น 172.5 บุชเชลต่อเอเคอร์
แนวโน้ม : คาดว่าราคาข้าวโพดในประเทศน่าจะทรงตัว
ถั่วเหลือง : ราคาทรงตัว
กากถั่วเหลืองจากเมล็ดถั่วเหลืองนำเข้า ยืนราคาในระดับสูงที่กิโลกรัมละ 22.90 บาท สถานการณ์ล็อกดาวน์ในประเทศจีนทำให้ปริมาณซื้อในตลาดปรับตัวลดลง ประกอบกับความกังวลเรื่องภาวะเศรษฐกิจของจีนที่ประกาศออกมามีอัตราเติบโตต่ำกว่าที่คาดการณ์ จึงยังคงต้องติดตามปริมาณซื้อจากจีนว่าจะกลับมาได้มากน้อยเพียงใด ขณะที่คาดการณ์ผลผลิตยังคงทรงตัว
ด้านตลาดซื้อขายล่วงหน้าชิคาโก ประจำวันที่ 7 กันยายน 2565 เมล็ดถั่วเหลือง รอบส่งมอบเดือนธันวาคม 2565 ราคาอยู่ที่ 1,383.5 เซนต์/บุชเชล และ กากถั่วเหลือง รอบส่งมอบเดือนพฤศจิกายน 2565 อยู่ที่ 415.0 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ช็อตตัน ราคาปรับลดลงจากสัปดาห์ที่ผ่านมา ถั่วเหลืองในสหรัฐฯ ที่อยู่ในกลุ่มเกณฑ์ดีถึงยอดเยี่ยม (Good to Excellent) อัตราเท่าเดิมเป็นสัปดาห์ที่สามติดต่อกันที่ 57% สูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ 56% ปัจจุบันถั่วเหลืองส่วนใหญ่เริ่มเข้าสู่ช่วงครบอายุ และจะเริ่มมีการเก็บเกี่ยวในช่วงสัปดาห์ข้างหน้า ก่อนที่จะมีการประกาศรายงานภาวะอุปสงค์-อุปทานสินค้าเกษตรโลก (WASDE) ฉบับเดือนกันยายน ตลาดได้คาดการณ์ไว้ว่าระดับสต็อกถั่วเหลืองคงเหลือของสหรัฐฯ สำหรับฤดูกาล 2565/66 จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 247 ล้านบุชเชล ขณะที่ผลผลิตต่อไร่ (yield potentials) จะปรับลดลงมาเล็กน้อย จาก 51.9 บุชเชลต่อเอเคอร์ เป็น 51.5 บุชเชลต่อเอเคอร์ ด้านอุปสงค์จากจีนยังคงซบเซา เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ขยายตัวมากขึ้น ทำให้ทางรัฐบาลจีนใช้มาตรการล็อกดาวน์
แนวโน้ม : คาดว่าราคาถั่วเหลืองนำเข้าน่าจะทรงตัว
ปลาป่น : ราคาทรงตัว
การออกสำรวจน่านน้ำทะเลของประเทศเปรู เพื่อกำหนดโควต้าจับปลาสำหรับฤดูกาลในปลายปีนี้ คาดว่าจะเริ่มช่วงปลายเดือนกันยายนนี้ และจะประกาศโควต้าได้ภายในต้นเดือนพฤศจิกายน ขณะที่ราคาซื้อที่จีนปรับลดลงเล็กน้อย จากปริมาณสต็อกหน้าท่าเรือที่ยังคงปรับตัวสูงขึ้น รวมทั้งการล็อกดาวน์ที่จีนที่ทำให้ความต้องการซื้อลดลง และปริมาณซื้อหน้าท่าเรือในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวลงเช่นกัน
ปลาป่นเกรดกุ้ง ยืนราคาที่กิโลกรัมละ 50.00 บาท ส่วนปลาป่นเบอร์ 1 เกรดที่สูงกว่า 60 โปรตีนขึ้นไป ยืนราคาที่กิโลกรัมละ 44.70 บาท และปลาป่นเกรดที่ต่ำกว่า 60 โปรตีน ราคาทรงตัวที่กิโลกรัมละ 42.20 บาท
ด้านปลาป่นคุณภาพรองลงมา ปลาป่นเบอร์ 2 ชนิดที่มีโปรตีนสูงกว่า 60 โปรตีนขึ้นไป ราคาทรงตัวที่กิโลกรัมละ 41.70 บาท และปลาป่นเบอร์ 2 ชนิดที่มีโปรตีนสูงกว่า 56 แต่ไม่เกิน 60 โปรตีน ยืนราคาที่กิโลกรัมละ 40.20 บาท
แนวโน้ม : คาดว่าราคาปลาป่นน่าจะทรงตัว
ข้าว : ราคาเพิ่มขึ้น
ตลาดซื้อขายข้าวทั้งในประเทศและต่างประเทศสัปดาห์นี้ราคาเพิ่มขึ้น เป็นไปตามอัตราแลกเปลี่ยนของค่าเงิน โดยข้าวขาว 100% ชั้น 2 ส่งออกท่าเรือกรุงเทพฯ เอฟ.โอ.บี. ราคาเพิ่มขึ้นจากตันละ 442 ดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นตันละ 445 ดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วนปลายข้าว เอ.วัน.พิเศษ ส่งออก เอฟ.โอ.บี. ราคาเพิ่มขึ้นจากตันละ 381 ดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นตันละ 382 ดอลลาร์สหรัฐฯ
ด้านตลาดซื้อขายข้าวในประเทศ ราคาเพิ่มขึ้น โดย ข้าวขาว 100% ชั้น 2 เพิ่มขึ้นจากกระสอบละ 1,450 บาท เป็นกระสอบละ 1,480 บาท ส่วนปลายข้าว เอ.วัน.พิเศษ ณ โรงงานอาหารสัตว์ ราคาเพิ่มขึ้นจากกระสอบละ 1,230 บาท เป็นกระสอบละ 1,250 บาท
แนวโน้ม : คาดว่าราคาข้าวน่าจะทรงตัว
สุกร : ราคาทรงตัว
สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ ยังคงขอให้ผู้เลี้ยงสุกรรักษาระดับราคาสุกรขุนไว้ที่ 100 บาทต่อกิโลกรัม ขณะที่ผลผลิตโดยเฉลี่ยที่ออกตลาดมีปริมาณต่ำกว่าความต้องการบริโภคเล็กน้อย โดยโครงการคนละครึ่งเฟส 5 เริ่มต้นเมื่อ 1 กันยายนที่ผ่านมา ภาพรวมประชาชนเข้ามาจับจ่ายยอดรวมสูงมาก ส่งผลดีให้การจับจ่ายทั้งเนื้อสุกรและธุรกิจอาหารดีขึ้น
สื่อหลายสำนักยังคงติดตามการกำจัดขบวนการลักลอบนำเข้าเนื้อสุกร รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ นายสัตวแพทย์ประภาส ภิญโญชีพ ให้สัมภาษณ์ผ่านเนชั่นทีวี เมื่อ 2 กันยายน ถึงการสั่งการของรัฐมนตรีเฉลิมชัยว่า ให้จัดการขั้นเด็ดขาดหากพบเจ้าหน้าที่รัฐมีส่วนเกี่ยวข้องกับกระบวนการดังกล่าว
ด้าน ลูกสุกรน้ำหนัก 16 กิโลกรัมต่อตัว ราคาอยู่ที่ 3,600 บาท (บวก/ลบ 100)
แนวโน้ม : คาดว่าราคาสุกรน่าจะทรงตัว
ไก่เนื้อ : ราคาทรงตัว
ราคาแนะนำไก่เนื้อมีชีวิต ณ หน้าฟาร์ม จากสมาคมผู้เลี้ยงไก่เนื้อ อยู่ที่กิโลกรัมละ 40 บาท
ด้านลูกไก่เนื้อ ราคาตัวละ 19.50 บาท และลูกไก่ไข่ ราคาตัวละ 28.00 บาท
แนวโน้ม : คาดว่าราคาไก่เนื้อน่าจะทรงตัว
ไข่ไก่ : ราคาทรงตัว
ราคาแนะนำ ไข่ไก่ คละ ณ หน้าฟาร์มเกษตรกร จากเครือข่ายสหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่ อยู่ที่ฟองละ 3.60 บาท
แนวโน้ม : คาดว่าราคาไข่ไก่น่าจะทรงตัว
-----------------------------------
ที่มา : สื่อสารองค์กรและประชาสัมพันธ์ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน)
E-mail : [email protected]