การขึ้นดอกเบี้ยวันนี้จะบ่งบอกถึงน้ำหนักของสิ่งที่กนง.ให้ความสำคัญ
ความไม่แน่นอนในหลายปัจจัยยังหนุนการแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งได้แก่ 1) ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ก.ย. ออกมาดี ทั้งความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ 108 (ดีกว่าคาดที่ 104.6 และดีกว่าเดือน ส.ค.ที่ 103.2)
ขณะที่ยอดขายบ้านใหม่ออกมา 685,000 หลัง (ดีกว่าคาดที่ 500,000 หลัง และดีกว่าส.ค.ที่ 511,000 หลัง) ตัวเลขที่ยังไม่ชะลอลง ทำให้ตลาดกังวลเกี่ยวกับการขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง 2) การเกิดเศรษฐกิจถดถอยในยุโรป ทำให้คนลดการถือครองสินทรัพย์สกุลยูโร ทั้งหุ้นและพันธบัตรของยุโรป 3) ความยืดเยื้อและซับซ้อนของปัญหารัสเซีย-ยูเครน หลังรัสเซียทำประชาพิจารณ์สนับสนุนการแยกตัวของดินแดนที่ยึดครองจากยูเครน // ทั้งนี้เรายังให้น้ำหนักกับการเคลื่อนไหวของดัชนีค่าเงินเหรียญสหรัฐฯ (Dollar Index) มีบทบาทสำคัญที่สุดในการกำหนดภาวะความอยากเสี่ยง (risk appetite) ของนักลงทุน
การขึ้นดอกเบี้ยนโยบายจะให้ภาพเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับสิ่งที่กนง.ให้น้ำหนัก ตลาดมองความเป็นไปได้ของการขึ้นดอกเบี้ยวันนี้ใน 2 กรณี ได้แก่ 1) ขึ้นดอกเบี้ย 0.25% (ความน่าจะเป็น 80%) ซึ่งบ่งชี้ว่า กนง. ให้น้ำหนักกับการสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจเป็นหลัก ซึ่งอาจทำให้ค่าเงินบาทในระยะสั้นอ่อนค่าลงต่อ รวมถึงอาจเห็นเงินทุนไหลอกในระยะสั้น 2) ขึ้นดอกเบี้ย 0.50% (ความน่าจะเป็น 20%) ทางเลือกนี้บ่งชี้ว่า กนง.จะเริ่มให้น้ำหนักกับเสถียรภาพของเงินบาทและการไหลออกของค่าเงิน ซึ่งอาจทำให้ค่าเงินบาทในระยะสั้นทรงตัวถึงแข็งค่าขึ้น แต่คาดจะเป็นปัจจัยลบกับหุ้นกลุ่มการเงินจากความกังวลต้นทุนทางการเงิน รวมถึงหนี้เสียที่จะเพิ่มขึ้น // เราให้น้ำหนักกับทางเลือกแรก คือขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% อย่างไรก็ตาม คาดตลาดซึมลงตามการเคลื่อนไหวของหุ้นภูมิภาค
ประเด็นเก็งกำไรอื่น 1) กลุ่มท่องเที่ยว AOT, CENTEL, ERW, MINT, BAFS, AAV, SHR, VRANDA, SPA 2) กลุ่มเปิดเมือง CPALL, MAKRO, MAJOR, MBK 3) มาตรการสนับสนุน EV ได้แก่ EA, GPSC, PIMO 4) หุ้นได้ประโยชน์จากการกระตุ้นเศรษฐกิจจีน BABA80, TENCENT80, CHINA, STAR5001 5) กลุ่มไฟฟ้าแผน PDP ใหม่ บวกกับ EGCO, RATCH, GULF, GUNKUL, SSP 6) เก็งกำไรทางเทคนิค CRC, RATCH, RS, SC, TH, TLI, BAM, EA, BAFS, CK, MBK, SAMART, TPIPL, ARIN, SVT, TFG, MC, TKN, SCGP, MONO, ONEE, SKE, AU
ภาพรวมกลยุทธ์: แกว่งตัวลงในกรอบ 1,600-1,670 จุด อย่างไรก็ตามกลยุทธ์ในภาพใหญ่ไม่เปลี่ยน คือ รอเลือกซื้อกลุ่มหุ้นเปิดเมือง (ซื้อ: ท่องเที่ยว ห้างสรรพสินค้า ธนาคาร กองรีทส์/ สะสมค้าปลีก การเงิน) ระยะสั้นกลุ่มหุ้นปลอดภัย หุ้นที่ยังขึ้นน้อย รวมถึงหุ้นขนาดกลางที่มีปัจจัยบวกรายตัว มีโอกาสเคลื่อนไหวได้ดีกว่า ส่วนกลุ่มพลังงานแค่รอเก็งกำไรแนวรับ และเลี่ยงหุ้นโรงกลั่นที่กำไรไตรมาส 3 น่าจะชะลอหนัก //หุ้นแนะนำ: ADVANC*, TU*, GFPT*
แนวรับ: 1,596-1,605 / แนวต้าน : 1,620 จุด สัดส่วน : เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50
ประเด็นการลงทุน
สหรัฐเผยยอดขายบ้านใหม่พุ่งขึ้นในเดือนส.ค. สวนทางคาดการณ์ - พุ่งขึ้น 28.8% สู่ระดับ 685,000 ยูนิตในเดือนส.ค. คาดว่าลดลงสู่ระดับ 500,000 ยูนิต
สหรัฐเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนลดลง 0.2% ในเดือนส.ค. - ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป ลดลง 0.2% ในเดือนส.ค. หลังจากลดลง 0.1% ในเดือนก.ค.
บอนด์ยีลด์สหรัฐอายุ 2 ปีดีดเหนือ 4.3% ขณะ 10 ปีพุ่งใกล้แตะ 4% - อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 2 ปี อยู่ที่ระดับ 4.312% ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี อยู่ที่ระดับ 3.974%
เวิลด์แบงก์ ปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP ไทยปี 65 เป็น 3.1% – จาก 2.9% หลังภาคการบริโภค การท่องเที่ยว และการส่งออกฟื้นตัว ปี 66 คาดเติบโตที่ 4.1%
มอร์แกน สแตนลีย์ คาดจีนเปิดประเทศช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 66 - เป็นไปในแนวทางเดียวกันกับวาณิชธนกิจยักษ์ใหญ่รายอื่น ๆ
Nord Stream ชี้ท่อส่งก๊าซรั่ว 3 จุดในวันเดียว –ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งนี้ มีการตรวจพบการรั่วไหลของก๊าซ 2 จุดในท่อส่งก๊าซ Nord Stream 1 ขณะที่ท่อส่งก๊าซ Nord Stream 2 มีการรั่วไหล 1 จุด
สี จิ้นผิง ปรากฎตัวแล้ว สยบข่าวลือถูกรัฐประหาร – สถานีโทรทัศน์ของจีนได้แพร่ภาพประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ในวันนี้ หลังจากที่ไม่ได้ปรากฎตัวต่อสาธารณะเป็นเวลาหลายวัน จนทำให้เกิดข่าวลือเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองของจีน
OR ปรับขึ้นเครื่องดื่มอเมซอน 1 ต.ค. – สอดคล้องต้นทุน สัดส่วน EBITDA ธุรกิจไลฟ์สไตล์ยังอยู่ที่ 21% เดินหน้าตามแผน 5 ปี เพิ่มสัดส่วนแตะ 39%
TEAMG เล็งทำธุรกิจสำรวจและขึ้นทะเบียนคาร์บอนเครดิต – เป็นที่ปรึกษาด้านคาร์บอนเครดิตให้กับองค์กร มีวิศวกรจำนวนมาก พร้อมร่วม DITTO ประมูลงานใหญ่
กรมธนารักษ์สั่ง EASTW คืนท่อใน 60 วัน – เตรียมเข้าพื้นที่โครงการท่อน้ำอีอีซีตรวจสอบทรัพย์สิน แจ้ง EASTW ส่งมอบท่อส่งน้ำภายใน 60 วัน
Opportunity day – 28 ก.ย. TGE, SE, TPCH, SKE, SALEE, MST, MVP/29 ก.ย. AMR, SECURE, JASIF, STP, SVT / 30 ก.ย. – MVP, UREKA, SUTHA
ประเด็นติดตาม: 28 ก.ย. - TH Interest Rate Decision, US Pending Home Sales / 29 ก.ย. – US GDP 2Q22 / 30 ก.ย. – EU CPI, US Core PCE Price Index / 3 ต.ค. – US ISM Manufacturing PMI
(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)