ภาพรวมยังเป็นการเลือกลงทุนรายตัว (26 ต.ค. 2565)

ภาพรวมยังเป็นการเลือกลงทุนรายตัว (26 ต.ค. 2565)

3 ปัจจัยที่เราจับตาในช่วงไตรมาส 4/65 ในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ทีมกลยุทธ์ได้ทำการ Roadshow ให้ข้อมูลกับนักลงทุนสถาบันในประเทศ ภาพรวมกลยุทธ์การลงทุนไตรมาสสุดท้ายต่อต้นปี

เรามองแม้ตลาดโลกมีปัจจัยท้าทายหลากหลาย แต่อาเซียนและไทยมีแนวโน้มเคลื่อนไหวดีกว่าตลาดโลกจาก โมเมนตัมการเติบโตที่ดีกว่า และเงินทุนสำรองที่อยู่ในระดับสูง ปัจจัยสำคัญ 3 อย่าง ที่เราติดตามในไตรมาส 4/65 ได้แก่ 1) ทิศทางการดำเนินนโยบายตึงตัวของธนาคารกลางสหรัฐฯ และการเข้าแทรกแซงค่าเงินของแต่ละประเทศ จะทำให้นโยบายการเงินของสหรัฐฯ มีประสิทธิภาพลดลง รวมไปถึงอาจต้องคำนึงเสถียรภาพของระบบการเงินโลก จะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ มี โอกาสหยุดขึ้นดอกเบี้ยชั่วคราว (pause) ในการประชุม 1-2 ครั้งที่จะถึงนี้ 2) การเกิดเศรษฐกิจถดถอย (Recession) ในยุโรป เป็คนละเรื่องกับการเกิดวิกฤติ (ซึ่งมักมีปัญหาเกี่ยวกับการขาดสภาพคล่อง) ดังนั้นการถดถอยรอบนี้ อาจเป็นการโตช้า มากกว่าการลุกลามจนกลายเป็นการขายทุกสินทรัพย์ 3) ค่าเงินเหรียญสหรัฐฯ เป็นปัจจัยติดตามที่บ่งชี้ความผ่อนคลายของบรรยากาศลงทุนได้ดีที่สุด อิงการศึกษาการถดถอยที่เกิดในรอบปี ค.ศ. 1990, 2001 และ 2007-2009 (ติดตามรายละเอียดทั้งหมดได้ในสัมมนากลยุทธ์การลงทุนไตรมาส 4/65 วันที่ 27 ต.ค. เวลา 13.30 น.)
 

กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ บวกจากปัจจัยด้านฤดูกาลและครม.อนุมัติในหลักการให้ต่างชาติสามารถเข้าลงทุน กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ได้ปัจจัยบวกด้านฤดูกาลจากยอดโดนในช่วงครึ่งปีหลังที่สูงตามปัจจัยด้านฤดูกาล และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐ หลังครม.เห็นชอบหลักการดึงดูดต่างชาติที่มีศักยภาพสูง (มั่งคั่งสูง/เกษียณ/ผู้ต้องการทำงานจากไทย/กลุ่มมีความเชี่ยวชาญพิเศษ) ให้สามารถลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ได้ไม่เกิน 1 ไร่ ภายในเขตที่กำหนด (ร่างกฎกระทรวงมีอายุ 5 ปี) โดยต้องมีเงินลงทุนไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท ในพันธบัตร, กองทุนอสังหาริมทรัพย์ หรือมีการถือหุ้นในธุรกิจ โดยต้องดำรงทุนไม่ต่ำกว่า 3 ปี เราคาดแนวดำเนินการดังกล่าวจะเป็นบวกกับหุ้นอสัหาริมทรัพย์ระดับบน โดยเฉพาะในกลุ่มที่มีทั้งแนวราบและแนวสูง อาทิ LH, SPALI และ AP

 

ประเด็นเก็งกำไรอื่น 1) กลุ่มท่องเที่ยว AOT, CENTEL, ERW, MINT, BAFS, AAV, SHR, VRANDA, SPA 2) กลุ่มเปิดเมือง CPALL, MAKRO, MAJOR, MBK 3) มาตรการสนับสนุน EV ได้แก่ EA, GPSC, PIMO  4) กลุ่มไฟฟ้าแผน PDP ใหม่ บวกกับ EGCO, RATCH, GULF, GUNKUL, SSP 5) เก็งกำไรทางเทคนิค CRC, RATCH, SC, TH, TLI, BAM, EA, CK, MBK, SAMART, ARIN, MC, TKN, SCGP, KISS, TC, KAMART, FLOYD, PROS, TVDH 

 

ภาพรวมกลยุทธ์: คาดเห็นการเก็งกำไรรายตัว ขณะที่ภาพรวม SET Index อยู่ระหว่างสร้างฐานเพื่อผ่าน โซนแนวต้าน 1,590-1,620 จุด กลยุทธ์ในภาพใหญ่ไม่เปลี่ยน คือ รอเลือกซื้อกลุ่มหุ้นเปิดเมือง ระยะสั้นกลุ่มที่ลงเยอะ (อาทิ ไฟแนนซ์ อสังหาริมทรัพย์) มีโอกาสเป็นเป้าหมายเก็งกำไร ส่วนกลุ่มพลังงานสามารถเก็ง PTTEP ตามแนวรับ ส่วนหุ้นโรงกลั่นกำไรไตรมาส 3 ชะลอหนัก เก็งกำไรระมัดระวัง (ถ้าจะเลือก ชอบ SPRC) //หุ้นแนะนำ: SPALI*, TU*, SPA*, VRANDA*

แนวรับ: 1,579-1,595 / แนวต้าน : 1,612 จุด สัดส่วน : เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50%
 

ประเด็นการลงทุน

Conference Board เผยความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯต่ำกว่าคาด – ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐร่วงลงสู่ระดับ 102.5 ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. และต่ำกว่าที่คาดที่ระดับ 106.5 จากระดับ 107.8 ในเดือนก.ย.

Ifo เผยความเชื่อมั่นภาคธุรกิจเยอรมนีสูงกว่าคาด - ปรับตัวลงสู่ระดับ 84.3 ในเดือนต.ค. จากระดับ 84.4 ในเดือนก.ย. แต่สูงกว่าคาดการณ์ที่ระดับ 83.3

โคคา-โคล่า เผยกำไรสูงกว่าคาดใน Q3 – EPS 69 เซนต์/หุ้น vs consensus 64 เซนต์/หุ้น รายได้ 1.105 หมื่นล้านดอลลาร์ vs consensus 1.052 หมื่นล้านดอลลาร์

GM กำไรสูงกว่าคาด Q3 – EPS 2.25 ดอลลาร์/หุ้น vs consensus  1.88 ดอลลาร์/หุ้น รายได้ 4.189 หมื่นล้านดอลลาร์ vs consensus 4.222 หมื่นล้านดอลลาร์

ต่างชาติศักยภาพสูงลงทุนไม่ต่ำกว่า 40 ลบ.ถือครองที่ดินไม่เกิน 1 ไร่ – ให้สิทธิการถือครองที่ดินแก่กลุ่มต่างชาติที่มีศักยภาพสูง รวมทั้งหมด 4 ประเภท ประกอบด้วย 1.กลุ่มประชาคมโลกที่มีความมั่งคั่งสูง 2.กลุ่มผู้เกษียณอายุจากต่างประเทศ 3.กลุ่มที่ต้องการทำงานจากประเทศไทย 4.กลุ่มที่มีทักษะเชี่ยวชาญพิเศษ ซึ่งทั้งหมดนี้จะไม่รวมผู้ติดตามที่จะเข้ามา และต้องดำรงการลงทุนไว้ไม่น้อยกว่า 3 ปี 

กกพ.ออกประกาศรับซื้อไฟฟ้าขยะอุตฯ 100 MW แบบ FiT สัญญา 20 ปี - กำหนดจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิขย์ปี 2569 โดยให้ตรวจสอบจุดเชื่อมโยงสายส่งไฟฟ้าระหว่าง 21 ต.ค.-15 พ.ย. 2565 และให้ยื่นเอกสารเสนอขายไฟฟ้าตั้งแต่ 18 พ.ย.-13 ธ.ค. 2565 กกพ.กำหนดประกาศรายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือก 15 มี.ค. 2566

AIS อาจยื่นข้อเสนอใหม่กับ JAS ขอปรับราคา JASIF – โดยปรับลงมาต่ำกว่า 8.50 บาท เพื่อแลกกับการไม่ยกเลิกประกันรายได้และค่าเช่า ส่วนข้อเสนอ TTTBB จ่ายค่าเช่าล่วงหน้า 3 พันลบ. และ BBL ยืดหนี้ลดดอกเบี้ยไม่มีแล้วหลังวาระ 1.2 ไม่ผ่าน

 

ประเด็นติดตาม: 26 ต.ค. - US New Home Sales, US Crude Oil Inventories / 27 ต.ค. - ECB Interest Rate Decision, US GDP Q3 / 28 ต.ค. – US Core PCE Price Index, US Pending Home Sales / 31 ต.ค. – EU CPI / 1 พ.ย. – US ISM Manufacturing PMI, US JOLTs Job Openings

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)