อาจผันผวนบ้างจากปัจจัยภายในประเทศ แต่การปรับลงเป็นโอกาสทยอยลงทุน
สัปดาห์นี้ ติดตามมาตรการของจีน และการประชุม G20 ภาพรวมของตลาดอาจชะลอลงหลังได้ปัจจัยบวกจากเงินเฟ้อที่ต่ำคาดในสัปดาห์ก่อน สัปดาห์นี้คาดตลาดติดตามปัจจัยต่างๆ ที่เข้ามา
ได้แก่ 1) การผ่อนคลายมาตรการโควิดของจีน และมาตรการช่วยเหลือภาคอสังหาริมทรัพย์ น่าจะสร้างปัจจัยบวกกับกลุ่มเปิดเมือง และการเคลื่อนไหวของค่าเงินภูมิภาค 2) การประชุม G20 ในวันที่ 15-16 พ.ย. ที่จะเป็นการกลับมาพบกันครั้งแรกของไบเดนและสี จิ้นผิง หลังความขัดแย้งด้านเทคโนโลยี การไม่ได้ข้อสรุปในการหารือ หรือภาพความขัดแย้งในการประชุมอาจสร้างแรงกดดันระยะสั้นต่อการฟื้นตัวของสินทรัพย์เสี่ยงได้ แต่ไม่กระทบกับภาพใหญ่
ติดตามการแก้สถานการณ์ชำระราคาหุ้น MORE ที่อาจส่งผลให้ตลาดหุ้นผันผวน ราคาหุ้น MORE ปรับลดลงอย่างรุนแรงตั้งแต่ช่วงเริ่มการซื้อขายวันที่ 10 พ.ย. จากราคาเปิดที่ 2.90 บาท ลดลงจนถึงระดับขอบของราคาลดลงต่ำสุด (Floor) ของวันที่ 10 และ 11 พ.ย.ที่ 1.95 (-29.86%) และ 1.37 (-29.74%) บาท สถานการณ์ดังกล่าวมีความเสี่ยงที่จะกระทบกับระบบชำระราคา และส่งผลกระทบต่อความพอเพียงของเงินกองทุน (NC) ซึ่งทำให้อาจกระทบต่อการดำเนินงานของ บล.บางแห่งได้ สิ่งที่ผู้ลงทุนควรทราบและเรามีข้อมูล ณ ขณะนี้คือ
• ในการประชุม CEO บริษัทหลักทรัพย์ช่วงสุดสัปดาห์กับตลาดหลักทรัพย์ ภาพรวมของระบบหลักทรัพย์ สามารถรองรับความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระค่าซื้อหุ้นได้ (ลูกค้าค้างชำระหนี้บล. ส่วนบล.ต้องนำเงินจ่ายสำนักบัญบัญชีแทนไปก่อน) และตลท.มองเป็นเรื่องระหว่างบล.กับลูกค้า
• บล.ส่วนใหญ่น่าจะมีเงินกองทุน (NC) พอเพียง ต่อการผิดนัดชำระ ซึ่งทำให้ยังสามารถให้บริการได้ตามปกติ
• บล.บางแห่ง อาจมีเงินกองทุน (NC) ต่ำเกณฑ์ ทำให้อาจต้องทำแผนแก้ไขส่งกลต. ซึ่งต้องติดตามว่าจะถูกสั่งคำสั่งให้ระงับการทำธุรกรรมในระดับใดหรือไม่
• ในกรณีของบล.ที่มีปัญหา หากมีพอร์ตลงทุน อาจทำให้เกิดการขายหุ้นเพื่อลดขนาดความเสี่ยง และเพิ่มระดับเงินกองทุน (NC)
• ติดตามว่า ปปง. จะมีคำสั่งระงับการทำธุรกรรมดังกล่าวหรือไม่? ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ตลท.สั่งระงับการชำระราคา และอาจมีการขึ้น SP หลักทรัพย์ดังกล่าว
• ติดตามการประชุมของบล.กับกลต. ช่วงเช้า 14 พ.ย. ก่อนที่การซื้อขายจะถึงกำหนดชำระราคาในช่วง 12.00 น. และติดตามการแถลงของ ตลท.กับสมาคมบล. 9.00 น.
• บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ไม่ได้รับผลกระทบจากกรณีดังกล่าว การถือหุ้นที่ปรากฎในรายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่ เป็นเพียงการถือแทนลูกค้าในฐานะผู้รักษาหลักทรัพย์ (Custodian) เท่านั้น
ประเด็นลงทุนที่น่าสนใจ 1) ฟื้นตัวจากเศรษฐกิจและเปิดเมือง BBL, SCB, MINT, SPA, VRANDA, TNR, KISS, CPN, CRC, CPALL, MAKRO 2) การขายไฟพลังงานมทดแทน 5200MW GULF, GUNKUL, BCPG, SSP 3) อัตราผลตอบแทนพันธบัตรผ่านจุดสูงสุด ADVANC, EGCO, RATCH 4) อสังหาริมทรัพย์ SPALI, AP, LH, ASW 5) หุ้นเข้า MSCI (มีผล 30 พ.ย.) BAM, ERW, JWD, NEX, RAM 6) มีโอกาสเข้า SET50 ได้แก่ DELTA, RATCH, COM7, CENTEL
ภาพรวมกลยุทธ์: การปรับลงเป็นโอกาสในการลงทุน ยังมองบวกภาพระยะ 3-6 เดือน ขณะที่ระยะสั้น ตลาดอาจผันผวนจากความกังวลเสถียรภาพของรับชำระราคาหลักทรัพย์ สำหรับภาพรวม SET กลับมาแกว่งตัว โดยมีโอกาสผ่านแนวต้าน 1,635-1,640 จุด ซึ่งหากผ่าน 1,655-1,660 จุด จะทำให้ภาพทางเทคนิคเปลี่ยนแปลงไปเป็นบวกอย่างมีนัยสำคัญ กลยุทธ์ในภาพใหญ่ไม่เปลี่ยน คือ เน้นกลุ่มหุ้นเปิดเมือง และบริโภคในประเทศที่ฟื้นตัวตามเศรษฐกิจ //หุ้นแนะนำ: BAM*, GUNKUL*, VRANDA*, MAJOR*
แนวรับ: 1,614 / แนวต้าน : 1,635 และ 1,655 จุด สัดส่วน : เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50%
ประเด็นการลงทุน
อังกฤษส่งสัญญาณเศรษฐกิจถดถอย หลังหดตัว 0.2% ใน Q3/65 – เศรษฐกิจอังกฤษหดตัว 0.2% ในไตรมาส 3/2565 ซึ่งส่งสัญญาณว่าอาจเป็นจุดเริ่มต้นของเศรษฐกิจถดถอยระยะยาว หลังประเทศเผชิญวิกฤตค่าครองชีพสูงเป็นประวัติการณ์
สนง.สถิติเยอรมนีเผยอัตราเงินเฟ้อเพิ่มแตะ 11.6% ในเดือนต.ค. เทียบรายปี –ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของเยอรมนี ซึ่งปรับค่าเพื่อให้สามารถเทียบเคียงกับดัชนีราคาผู้บริโภคเฉลี่ย (HICP) ของ EU เพิ่มขึ้นแตะ 11.6% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายปี
โซนี่เล็งสร้างโรงงานผลิตชิปในไทย พร้อมจ้างงาน 2,000 ตำแหน่ง - โซนี่ กรุ๊ปจะสร้างโรงงานผลิตชิปเซมิคอนดักเตอร์ในประเทศไทย เพื่อลดต้นทุนการผลิตและสร้างความคล่องตัวให้กับห่วงโซ่อุปทาน ด้วยการกระจายฐานการผลิตไปทั่วโลก
พระราชกฤษฎีกาลดภาษีประจำปีรถ EV มีผลบังคับใช้แล้ว ลดสูงถึง 80% – สำหรับรถไฟฟ้าที่จดทะเบียนภายในระยะเวลา 3 ปี นับแต่วันที่พระราชกฤษฎีกานี้ใช้บังคับ โดยภาษีประจำปีจะลดลงร้อยละ 80 เป็นระยะเวลา 1 ปี นับจากจดทะเบียน
เล็งชงปรับสูตรไบโอดีเซลจาก B5 เป็น B7 พยุงราคาปาล์มน้ำมันตกต่ำ - รมว.พาณิชย์ เตรียมเสนอเข้าที่ประชุมที่เกี่ยวข้องพิจารณาปรับสูตรน้ำมันไบโอดีเซลจาก B5 เป็น B7 เพื่อให้ราคาปาล์มขยับขึ้น อนาคตหากราคาต่ำก็จะมีการประกันรายได้
ประเด็นติดตาม: 15 พ.ย. – US PPI / 16 พ.ย. – US Retail Sales / 17 พ.ย. – EU CPI, US Building Permits / 18 พ.ย. –US Existing Home Sales / 20 พ.ย. – TH GDP Q3
(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)