BH - ข้อมูลที่ได้จากการประชุมนักวิเคราะห์เป็นบวก

และอัตรากำไรขั้นต้นสูง  ทำให้มีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้น 22% yoy ใน 9M และอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นไประดับก่อนโควิดระบาดที่ 48.5% บริษัทตั้งเป้ารายได้ปีหน้าจะเติบโต 15% ซึ่งสูงกว่าประมาณการของเราที่ 12% เราเชื่อว่าราคาหุ้นที่ลดลงไม่เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงปัจจัยพื้นฐานของ BH เราคงคำแนะนำ ซื้อ BH

 

จำนวนผู้ป่วยต่างชาติที่เดินทางจากต่างประเทศเข้ามารับการรักษาเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

บริษัทคาดว่าจำนวนผู้ป่วยต่างชาติที่เดินทางจากต่างประเทศมารักษาที่รพ.ใน 4Qยังคงแข็งแกร่งเช่นเดียวกับ 3Q รพ.ได้รับการติดต่อและนัดหมายจากลูกค้าจำนวนมาก BH เชื่อว่ามีอุปสงค์คงค้างจำนวนมาก และจะส่งผลไปถึงปี 2023 รายได้จากผู้ป่วยต่างชาติ 10 ชาติหลักยังไม่เปลี่ยนแปลง (CLMV, ตะวันออกกลาง และสหรัฐฯ) โดยรายได้ต่างชาติของบริษัทเพิ่มขึ้น 381% yoy และ 34% qoq ผู้ป่วยตะวันออกกลางยังได้การสนับสนุนจากรัฐบาลของประเทศเหล่านั้น รายได้จากผู้ป่วยกลุ่มนี้คิดเป็น 2/3 ของรายได้ผู้ป่วยต่างชาติ นอกจากนี้ ซาอุดิอาระเบียยังเป็นตลาดใหม่ ที่รายได้ยังไม่สูงแต่มีศักยภาพในการเติบโต

 

 

 

จำนวนผู้ป่วยโรคซับซ้อนยังสูงต่อเนื่อง

BH ได้รับการจัดอันดับใน Best Smart Hospitals ของประเทศไทยจาก Newsweek ติดต่อกันเป็นปีที่สามแล้ว ซึ่งมีส่วนช่วยให้ผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้น 22% yoy ในงวด 9M BH เป็นโรงพยาบาลแห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่สามารถรักษาโรคกรดไหลย้อยด้วยเทคนิค Transoral Incisionless Fundoplication (TIF) ได้ จำนวนการรักษาโรคซับซ้อนของ BH เพิ่มขึ้นอย่างมากในงวด 9M (Fig. 17)

 

บริษัทให้มุมมองบวกใน 4Q และปีหน้า คงคำแนะนำ ซื้อ

BH ให้มุมมองเชิงบวกกับการดำเนินงานใน 4Q และตั้งเป้ารายได้เติบโต 15% ปีหน้า (จำนวนผู้ป่วย +7.8% และราคา +6.5%) ซึ่งสูงกว่าประมาณการของเราที่ 12% เล็กน้อย ปัจจัยสนับสุน i) ลด discount ให้ต่ำกว่า 10% จาก 12.4% ใน 3Q โดยมีการปรับขึ้นราคาไปแล้ว 5.8% ใน 9M22 ii) เพิ่มจำนวนเตียงรองรับผู้ป่วยใน 14% เป็น 543 เตียงในต้นปีหน้า (Fig. 29) และ iii) รายได้ผู้ป่วยโรคซับซ้อนคาดเพิ่มขึ้น 3% ปีหน้า จะทำให้สัดส่วนรายได้/บิล และอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น อัตรากำไรขั้นต้นใน 3Q ของ BH กลับไปอยู่ระดับก่อนโควิดระบาดที่ 48.5% แล้ว ซึ่งถือเป็นระดับที่สูงอันดับต้น ๆ ของโรงพยาบาลในประเทศไทย