เข้าสู่เทศกาลประกาศงบ เริ่มเห็นตลาดระวังหุ้นที่กระทบจากบาทแข็ง 

ซึ่งเราประเมินนักลงทุนเริ่มกังวลการแข็งค่าอย่างรวดเร็วของอัตราแลกเปลี่ยนอาจกระทบต่อรายได้ รวมถึงอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ที่อาจปรับลดลงหลังเงินบาทแข็งค่าอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากบาทแข็งค่าโดยหลักจะเป็นหุ้นนำเข้า หรือที่มีหนี้ในสกุลต่างประเทศเยอะ อาทิ กลุ่มไฟฟ้า เป็นต้น //สำหรับประเด็นติดตามสัปดากห์นี้จะเข้าสู่เทศกาลประกาศผลประกอบการที่เริ่มโดยกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ที่คาดจะรายงานกำไรไตรมาส 4/65 ที่ -3% QoQ, +21% YoY โดยหุ้นที่คาดรายงานผลประกอบการแข็งแกร่งที่สุดคือ BBL (+48% QoQ, +79% YoY)

 

ผลการประมูลวงโคจรดาวเทียมไม่สร้างความประหลาดใจ ผลประมูลวงโคจรดาวเทียม 15 ม.ค.66 มีผู้เสนอราคาประมูล 3 จาก 5 ชุด (2, 3 และ 4) มูลค่ารวม 806 ล้านบาท โดยทางบริษัทย่อยของ THCOM (บริษัท สเปซ เทค อินโนเวชั่น จำกัด) เป็นผู้ชนะการประมูลในชุดที่ 2 และ 3 ส่งผลให้ไทยคมสามารถรักษาวงโคจรที่ 119.5E (ไทยคม 4) และ 78.5E (ไทยคม 6 และ 8) ไว้ได้ ซึ่งเราประเมินจะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับหุ้น 3-5 บาท อย่างไรก็ตามเมื่ออิงกับราคาเหมาะสมของ Bloomberg concensus ที่ 12.59 บาท ทำให้ราคาเหมาะสมของ THCOM คาดจะปรับขึ้นมาที่ 15.59-17.59 บาท เมื่อเทียบกับราคาปิดที่ 16.30 บาท ถือว่ามีอัพไซด์ไม่ได้น่าสนใจแล้ว ดังนั้นควรระวังความผันผวนหรือแรงขายทำกำไรที่อาจตามมา

 

 

ประเด็นลงทุนที่น่าสนใจ 1) ฟื้นตัวจากเศรษฐกิจและเปิดเมือง BBL, SCB, MINT, SPA, VRANDA, TNR, KISS, CPN, CRC, CPALL, MAKRO, MAJOR 2) หุ้นได้ประโยชน์จากเศรษฐกิจจีนฟื้นตัว (พลังงาน ปิโตรเคมี บรรจุภัณฑ์) ได้แก่ PTTGC, IRPC, SCGP, AJ, PTL, SCC, PTTEP, PTT 3) กลุ่มบริโภคและการย้ายฐานการผลิต ได้แก่ WHA, AMATA, ROJNA 4) การขายไฟพลังงานทดแทน 5200MW GULF, GUNKUL, BCPG, SSP, BGRIM, GPSC, EGCO 5) หุ้นที่น่าสนใจอื่นๆ STP, TNR, DMT, TVDH, KLINIQ, FLOYD, SORKON 6) กลุ่มน้ำตาล เข้า high season และปริมาณการผลิตไทยสูงสุดในรอบ 3 ปี ดีกับ KSL, KTIS, KBS, BRR

ภาพรวมกลยุทธ์: คาดตลาดแกว่งตัวกรอบแคบเมื่อเข้าสู่เทศกาลประกาศงบ การเก็งกำไรระยะสั้นเน้นหุ้นที่ยัง Laggard และกลุ่มหุ้นที่ได้ประโยชน์เกี่ยวกับฝั่งต้นทุนที่ลดลง จะมีโอกาสเคลื่อนไหวได้ดี ปัจจัยติดตามที่สำคัญในสัปดาห์หน้าคือผลประกอบการกลุ่มธนาคาร คาด BBL รายงานกำไรเด่นสุดในกลุ่ม //หุ้นแนะนำ: PTTGC, AMANAH*, VRANDA, BJC*
แนวรับ: 1,674 / แนวต้าน : 1,695-1,710 จุด สัดส่วน : เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50%

 

 

 

 

ประเด็นการลงทุน

เยอรมนีเผย GDP ทั้งปี 65 ขยายตัว 1.9% ใกล้เคียงคาดการณ์ – เมื่อดูจากตัวเลขระยะกลางแล้วคาดว่าจะโต 1.8%

ยอดบีโอไอปี 65 พุ่ง 41% สะท้อนเชื่อมั่น - ในปี 2565 มีโครงการขอรับการส่งเสริมการลงทุนรวมทั้งสิ้น 2,119 โครงการ เพิ่มขึ้น 41% yoy โดยมีเงินลงทุน 664,630 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 39% นับว่าเป็นมูลค่าที่สูงที่สุดนับตั้งแต่เกิดสถานการณ์โควิด-19

BOI อนุมัติลงทุน 3 โครงการใหญ่ EV-พลังงาน รวม 1.5 หมื่นลบ. – ได้แก่ โครงการผลิตแบตเตอรี่สำหรับยานพาหนะไฟฟ้า ของบริษัท บีวายดี ออโต้ คอมโพเนนท์ส (ประเทศไทย) จำกัด มูลค่า 3,893 ล้านบาท, โครงการผลิต Carbon Black ของบริษัท ไทยโตไกคาร์บอนโปรดักท์ จำกัด มูลค่า 9,490 ล้านบาท และโครงการผลิตเชื้อเพลิงจากขยะ ของ บมจ. ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ (TPIPP)

กทม.เก็บภาษีที่ดิน ไร่กล้วย ได้เต็มเพดาน – อนุมัติให้กรุงเทพมหานคร (กทม.) มีอำนาจออกข้อบัญญัติจัดเก็บภาษีที่ดิน ในส่วนอัตราเกษตรกรรมได้เต็มเพดานสูงสุด 0.15% หรือล้านละ 1,500 บาท หากนำที่ดินนอกโซนสีเขียวมาประกอบการเกษตร จากข้อกำหนดในกฎหมายที่ให้อัตราการจัดเก็บเปิดช่องยืดหยุ่นได้ตั้งแต่ 0.01-0.05%

THCOM คว้า 2 วงโคจรดาวเทียม – ทั้ง 119.5E และ 78.5E จ่ายเงินไม่ถึง 800 ล้านบาท ใช้เวลาประมูล 1 ชั่วโมง 36 นาที ส่วน NT ได้วงโคจร 126E ขณะที่ชุดที่ 1 และชุดที่ 5 ไร้คนสนใจ

 

ประเด็นติดตาม: 18 ม.ค. – EU CPI, US Retail Sales, US PPI / 19 ม.ค. – US Building Permits / 20 ม.ค. – US Existing Home Sales / 24 ม.ค. – US & EU Manufacturing PMI, Services PMI / 25 ม.ค. – TH Interest Rate Decision / 26 ม.ค. – US GDP Q4,     US New Home Sales

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)