CBG - กำไรใน 4Q จะดีขึ้นทั้ง yoy และ qoq (9 ก.พ. 2566)
คาดว่ากำไรใน 4Q จะดีขึ้นทั้ง yoy และ qoq เนื่องจากต้นทุนอลูมินัมลดลง เรามีมุมมองเป็นบวกกับแนวโน้มในปี 2023 จากอุปสงค์ฟื้นตัวขึ้นตั้งแต่ที่มีการกลับมาเปิดประเทศ
ขณะเดียวกัน เรามองว่ารายดั้ดจำหน่ายเบียร์ให้กับบุคคลภายนอกจะเป็นปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตตัวใหม่ คงคำแนะนำซื้อ และประเมินราคาเป้าหมายที่ 108 บาท
ยอดขายใน 4Q จะดีขึ้น yoy
เราคาดว่ามูลค่าตลาดเครื่องดื่มให้กำลังงาน (energy drinks) จะโต 17% yoy ใน 4Q โดยกระทรวงพาณิชย์รายงานว่ามูลค่าการส่งออกเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของน้ำตาลรสหวานเติบโต 14% yoy ในขณะเดียวกัน เราคาดว่ายอดขายของ CBG ใน 4Q จะเพิ่มขึ้น 11% yoy ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นใน 4Q น่าจะดีขึ้นเป็น 32.1% จาก 29.0% ใน 3Q หนุนโดยต้นทุนอลูมินัมลดลง เราคาดว่าสัดส่วน SG&A ต่อยอดขายจะปรับตัวดีขึ้นจาก 17.3% ใน 3Q เป็น 17.0% ใน 4Q เพราะยอดขายเพิ่มขึ้น เราคาดว่ากำไรใน 4Q จะอยู่ที่ 650 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% yoy และ 37% qoq
รายได้รับจ้างจัดจำหน่ายเบียร์จะเป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตตัวใหม่
CBG เริ่มบันทึกรายได้จากการจัดจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้แก่บุคคลภายนอก อย่างเช่น สุราข้าวหอม มาตั้งแต่ปี 2017 โดยคิดเป็นสัดส่วน 34% ของรายได้รับจ้างจัดจำหน่ายทั้งหมด หรือเท่ากับ 273 ล้านบาท รายได้ส่วนนี้เติบโตต่อเนื่องถึง 87% CAGR ต่อปีเป็น 94% ของรายได้รับจ้างจัดจำหน่ายทั้งหมดหรือเท่ากับ 3.35 พันล้านบาทในปี 2021 เราจึงคาดว่าสินค้าใหม่อย่างเช่นเบียร์จะทำให้รายได้เพิ่มขึ้นอีกราว 3.0 พันล้านบาทภายในระยะเวลา 5 ปี
ปัจจัยเสี่ยงหลักได้แก่อุปสงค์อลูมินัมที่ฟื้นตัว
ต้นทุนอลูมินัมยังคงได้แรงหนุนจากอุปสงค์ที่ปรับตัวดีขึ้น หลังจากที่จีนดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและยุติการใช้มาตรการคุม Covid-19 อย่างเข้มงวด เราประเมินว่าต้นทุนอลูมินัมที่เพิ่มขึ้น 10% จะทำให้อัตรากำไรขั้นต้นลดลง 1.1% หรือเทียบเท่ากำไรสุทธิลดลงประมาณ 200 ล้านบาท
คงคำแนะนำ ซื้อ และประเมินราคาเป้าหมายที่ 108 บาท
เราแนะนำ ซื้อ จากแนวโน้มบวกของผลประกอบการ และ upside จากการจัดจำหน่ายสินค้าให้กับบุคคลที่สาม ทั้งนี้ ราคาเป้าหมายของเราคำนวณด้วยวิธี DCF โดยใช้สมมติฐาน WACC ที่ 7.6% และ terminal growth rate ที่ 2.0%