ARROW คาดภาคก่อสร้างคึกคักหลังเลือกตั้ง
เราประมาณการรายได้จากการดำเนินงานใน 4Q22 ที่ระดับ 326.1 ล้านบาท -7.0%QoQ เนื่องจากราคาขายปรับตัวลงตามทิศทางราคาเหล็กในตลาดโลก แต่ยังเพิ่มขึ้น +15.0%YoY จากความต้องการเหล็กที่ยังอยู่ในระดับสูงหลังเงินลงทุนจากภาครัฐและเอกชนที่กลับมา
ด้านอัตรากำไรขั้นต้น เราคาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นจากฐานต่ำใน 3Q22 ที่ 15.8% หลังจาก Stock เหล็กราคาสูงได้ถูกระบายออกไปในไตรมาสก่อน ขณะที่ %SG&A คาดว่ายังคงอยู่ในระดับค่าเฉลี่ยของบริษัทที่ระดับ 10-12% ส่งผลให้ฝ่ายวิจัยคาดกำไรสุทธิ 4Q22 ราว 25.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +85.4%QoQ และ +97%YoY ทั้งนี้เราประมาณการกำไรสุทธิปี 22 เท่ากับ 84.6 ล้านบาท ลดลง -34.5%YoY
- ผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว
เราเชื่อว่าผลประกอบการได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในไตรมาสที่ผ่านมา และจะทยอยฟื้นตัวดีขึ้นตั้งแต่ 4Q22 ต่อเนื่องจนถึงปี 23 เห็นได้สถานการณ์ราคาเหล็กที่ปรับตัวดีขึ้น ส่งผลให้ต้นทุนผลิตของบริษัทมีเสถียรภาพมากขึ้น ประกอบหากเกิดการเลือกตั้งในช่วงพ.ค. จะทำให้อุตสาหกรรมก่อสร้างมีโอกาสฟื้นตัวโดดเด่น ขณะที่การขยายธุรกิจโรงเรือนเกษตรแบบครบวงจร คาดจะสามารถชดเชยรายได้กลุ่มงานรับเหมาที่หายไป (ดำเนินการผ่านบ.ย่อย เมฆา-เอส) เราประมาณการรายได้และกำไรสุทธิปี 23 เท่ากับ 1,515.15 ล้านบาท และ 127.3 ล้านบาท เติบโต +13.2%YoY และ +50.6%YoY ตามลำดับ
- คงคำแนะนำเป็น “ซื้อ”ราคาเหมาะสมปี 23 เท่ากับ 8.00 บาท
ฝ่ายวิจัยประเมินราคาเหมาะสมอิง PER ที่ 16 เท่า (ค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปี) ภายใต้สมมติฐานประมาณการปี 23 ได้ราคาเหมาะสมเท่ากับ 8.00 บาท ยังมี Upside จากราคาปัจจุบัน เราจึงแนะนำ “ซื้อ” พร้อมคาดหวังอัตราปันผลราว 4-5% ต่อปี
ความเสี่ยง
i) การบังคับใช้มาตรการ AD ในสินค้าเหล็กอาบสังกะสี
ii) ราคาวัตถุดิบเหล็กผันผวน
iii) การลงทุนภาครัฐล่าช้ากว่าแผน