BH - กำไรเติบโตดี (22 กุมภาพันธ์ 2566)

และอัตรากำไรขั้นต้นสูงขึ้นจากการรักษาโรคซับซ้อนมากขึ้น และการลดค่าใช้จ่าย ซึ่งจะใกล้เคียงกับประมาณการของเรา (กำไรเติบโต 19%) แต่จะมีอัพไซด์จากประมาณการของ consensus เราคาด 2.25 บาท/หุ้นมูลค่าที่ดินบนถนนเพชรบุรีตัดใหม่ เรายังคงคำแนะนำซื้อ BH

 

บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโต 13% ปีนี้

สนับสนุนโดยจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้น 8% (สูงกว่าเป้าเดิมที่ 7%) และการปรับขึ้นค่ารักษาพยาบาล 4.6% โดยรายได้ใน 1.5M23 เติบโตมากกว่า 10%  ปัจจัยสนับสนุนสำคัญได้แก่ i) จำนวนผู้ป่วยต่างชาติเดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้นเนื่องจากอุปสงค์คงค้าง  ii) ตลาดใหม่ ๆ (ซาอุดิอาระเบีย, อิรัก, ตุรเคีย, อินเดีย และยุโรปตะวันตก) และตลาดเดิม (ตะวันออกกลาง, โอมานม อินโดจีน, เมียนมาร์, เวียดนาม, จีน) iii) เพิ่มจำนวนเตียงจาก 450 เตียงใน 4Q22 เป็น 480 เตียง และเพิ่มห้อง ICU จำนวนเก้าห้องในเดือนเม.ย. บริษัทได้เลื่อนแผนปรับปรุงโรงพยาบาลเนื่องจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่ง และตั้งเป้าจะลดระยะเวลารอเตียงของผู้ป่วย  อัตราการครองเตียงอยุ่ที่ 85% ใน 4Q22  กำไรสุทธิจะเติบโต >13% เพราะ อัตรากำไรขั้นต้นจะสูงขึ้นจากการรักษาผู้ป่วยโรคซับซ้อนมากขึ้น บริษัทยังคงเดินหน้าใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ในการรักษาคนไข้ และโครงการประหยัดค่าใช้จ่าย (ไม่เกิน 295 ลบ. BH ได้เปิดบริการใหม่สามบริการ ได้แก่ ศูนย์ปลูกถ่ายกระจกตา, แผนกผู้ป่วยวิกฤติระบบประสาทและไขสันหลัง และศูนย์เฉพาะทางด้านการทำงานระบบทางเดินอาหาร

 

 

ใกล้เคียงประมาณการของเรา แต่น่าจะสุงกว่า consensus

เราคงประมาณการกำไรสุทธิเติบโต 19% ปี FY23F เป็น 5.9 พันลบ. โดยใช้สมมติฐานรายได้โต 9% (น้อยกว่าเป้าของบริษัท) เป็น 2.25 หมื่นลบ. และอ้ตรากำไรสุทธิจะเพิ่มขึ้นจาก 23.8% ปีที่แล้วเป็น 26.1% ปีนี้  ในขณะที่ consensus คาดรายได้ และกำไรสุทธิโต 4%

 

คาดมูลค่าที่ดิน 1.8 พันลบ. (2.25 บาท/หุ้น)

เป็นมูลค่าที่ดิน 4 ไร่ 3 งาน 91 ตารางวา บนถนนเพชรบุรีตัดใหม่ (ติดกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย) เราใช้สมมติฐานราคาตลาดที่ดินที่ 0.90 ลบ./ตารางวา ซึ่งเป็นช่วงต่ำของมูลค่าที่ดินที่ประเมินโดย AREA (>0.9 ลบ./ตารางวา) เป็นราคาต่ำสุดที่ประเมินโดย AREA บริษัทไม่มีแผนพัฒนาโครงการนี้ในอนาคตอนใกล้ ดังนั้นจึงมีโอกาสที่จะขายที่ดิน