SCCC อย่ามองกลับไปข้างหลัง (22 ก.พ. 2566)

SCCC อย่ามองกลับไปข้างหลัง (22 ก.พ. 2566)

ฝ่าฟันอุปสรรคในปี 2566 – ขึ้นราคาขายเพื่อสู้กับต้นทุนที่สูงขึ้น

ประเด็นสำคัญส่วนใหญ่ที่ได้จากการประชุมสอดคล้องกับมุมมองเรา โดย SCCC พยายามจะขึ้นราคาขายอย่างต่อเนื่อง (ส่วนใหญ่ในไทย และเวียดนาม) ในปี 2566 เพื่อชดเชยต้นทุนพลังงาน และวัตถุดิบที่สูง ซึ่งเป็นสัญญาณของขาลงในทุกตลาด เราคาดว่ารายได้ในปี 2566 จะเพิ่มขึ้นจากการขึ้นราคาขายในขณะที่ปริมาณยอดขายในเกือบทุกตลาดน่าจะซึม ๆ ยกเว้นในเวียดนาม (15-20% ของยอดขาย) และบังกลาเทศ (3-5%) ทั้งนี้เรามองว่าตลาดไทย และเวียดนาม (75-85% ของยอดขาย) มีแนวโน้มสดใสในปีนี้ ในขณะที่ตลาดอื่น ๆ (ศรีลังกา บังกลาเทศ และกัมพูชา) น่าจะยังซบเซาอยู่ โดยบริษัทจะยังคงดำเนิน
กลยุทธ์เพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาด และขึ้นราคาขาย เรามองว่าตลาดในไทยแสดงสัญญาณของการทยอยฟื้นตัวจากการบริโภคภาคเอกชน และโครงการ mega project ของภาครัฐ ทำให้เราคาดว่าผลการดำเนินงานในประเทศไทยของ SCCC น่าจะพลิกฟื้นได้จากการขึ้นราคาขาย และประสิทธิภาพในการบริหารต้นทุน ในขณะเดียวกันฝั่งของเวียดนาม อุปสงค์ของวัสดุก่อสร้างในตลาดรายย่อยนั้นแข็งแกร่ง ส่วนอุปสงค์ของโครงการอสังหาริมทรัพย์บางโครงการถูกจำกัดด้วยมาตรการคุมสภาพคล่อง ทั้งนี้ SCCC คาดว่าเวียดนามจะโตต่อเนื่องระดับปานกลาง และรอให้มีการผ่อนคลายข้อจำกัดการปล่อยกู้ใน
ธนาคารต่างๆ

 

จะได้อานิสงส์จากราคาถ่านหินขาลงใน 2H66

เรามองว่าราคาถ่านหิน และ ดัชนี BDI ที่อยู่ในขาลงจะส่งผลดีต่อ SCCC โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน 2H66 ซึ่งตามปกติ บริษัทจะซื้อถ่านหินล่วงหน้าราว 50-60% ของการใช้งานในปีถัดไป ในขณะที่จะซื้อ ~20-30% ในปีที่จะใช้โดยใช้ราคา spot และอีก ~25% จะใช้จับจังหวะตลาดเมื่อเห็นราคาลงน่าสนใจ

 

 

ผลประกอบการรายไตรมาสน่าจะทยอยดีขึ้นจาก 1Q66F ไป

ผลประกอบการไตรมาสของ SCCC น่าจะทยอยดีขึ้นใน 1Q-2Q66 (+QoQ, -YoY) ก่อนจะดีดตัวแรงใน 3Q-4Q66 (+QoQ, +YoY) โดยผลการดำเนินงานที่พลิกเป็นขาดทุนสุทธิใน 4Q65 อย่างน้อยควรจะขาดทุนลดลง หรือพลิกกลับไปเป็นกำไรสุทธิได้ใน 1Q66F เพราะไม่มีรายการค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้รอตัดเหมือนกับใน 4Q65 ในขณะเดียวกัน ผลการดำเนินงานจากธุรกิจหลักใน 1Q66F น่าจะทรงตัว หรือ ดีขึ้นเล็กน้อย QoQ เพราะต้นทุนการดำเนินงานลดลง จากราคาถ่านหินที่ลดลง และการปรับขึ้นราคาขายบางส่วน

 

Valuation & Action

เรายังแนะนำ ซื้อ ด้วยราคาเป้าหมายเอาไว้ที่ 182 บาท อิงจาก PE ที่ 15.3x (ค่าเฉลี่ย 10 ปีย้อนหลัง) ทั้งนี้ เนื่องจากเรามองว่าผลประกอบการน่าจะจุดต่ำสุดไปแล้วใน 4Q65 และจะดีดตัวแรงในปี 2567F ในขณะที่ราคาหุ้นในปัจจุบันต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต เราจึงมองว่าคุ้มที่จะเสี่ยง โดย SCCC เหมาะสำหรับการเป็นหุ้นในธีม anti-commodity แบะ re-opening ประเภท เพราะคาดว่าเงินเฟ้อน่าจะผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว และเศรษฐกิจกำลังฟื้นตัวขึ้น นอกจากนี้ SCCC ยังประกาศจ่าย DPS เต็มปีที่ 9.00 บาท (ขึ้น XD วันที่ 23 ก.พ. 66) คิดเป็น yield ถึง 5.6% ต่อปี

 

Risk

ความผันผวนของต้นทุนวัตถุดิบและพลังงาน, การขยายตัวของเศรษฐกิจ และความเสี่ยงของประเทศ