วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (20 มี.ค. 66)

ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคาน้ำมัน

- ราคาน้ำมันดิบปรับลดลง หลังตลาดกลับมากังวลต่อวิกฤตการณ์ในภาคธนาคารของสหรัฐฯ และสหภาพยุโรปอีกครั้งและอาจจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน ภายหลังจาก SVB Financial Group บริษัทแม่ของ SVB ยื่นคำขอล้มละลายบทที่ 11 และเข้าสู่กระบวนการปรับโครงสร้างองค์กร อย่างไรก็ตาม SVB และบริษัทร่วมอื่นๆ จะไม่ได้อยู่ในกระบวนการล้มละลาย 

- ตลาดยังกังวลต่อสถานะการเงินของ First Republic Bank ว่าจะไม่เพียงพอ แม้ว่าล่าสุดจะมีการได้รับเงินช่วยเหลือจากธนาคารใหญ่ในสหรัฐฯ กว่า 3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แล้วก็ตาม

+/- สมาชิกของกลุ่ม OPEC+ เปิดเผยว่าราคาที่ปรับลดลงในช่วงที่ผ่านมาเกิดจากความกังวลในตลาดเงินมากกว่าปัจจัยพื้นฐาน โดยคาดตลาดจะเริ่มเข้าสู่เสถียรภาพอีกครั้งจากอุปสงค์ที่ฟื้นตัว อย่างไรก็ตาม ล่าสุด Reuters รายงานว่าซาอุฯ และรัสเซีย มีการหารือร่วมกันโดยจะยังคงการปรับลดกำลังการผลิตจนทิ้งสิ้นปีนี้ ทั้งนี้ กลุ่มผู้ผลิตจะมีการประชุมเพื่อหารือถึงสถานการณ์ในวันที่ 3 เม.ย.

+/- จับตาการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ในวันที่ 20-21 มี.ค. ว่า FED จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อหรือไม่ หลังเกิดปัญหาขาดแคลนสถาพคล่องในภาคธนาคารของสหรัฐฯ

 

 

ราคาน้ำมันเบนซิน

ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่า ราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ในอินเดียที่ยังคงเติบโต รวมถึง การส่งออกของจีนคาดจะยังคงอยู่ในระดับต่ำในเดือน มี.ค. - เม.ย. อย่างไรก็ตาม ราคายังได้รับแรงกดดันจากปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสิงคโปร์ที่ปรับเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์

ราคาน้ำมันดีเซล

ราคาน้ำมันดีเซล ปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ ตามตลาดยุโรปที่ปรับตัวสูงขึ้น หลังอุปทานมีแนวโน้มตึงตัวจากการประท้วงของสหภาพแรงงานในฝรั่งเศส อย่างไรก็ตาม ราคายังได้รับแรงกดดันจากปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังสิงคโปร์ที่ปรับเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 ปี