วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (7 เม.ย. 66)
ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ภาพรวมตลอดทั้งสัปดาห์ปรับเพิ่มขึ้นกว่า 6%
ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคาน้ำมัน
+ ราคาน้ำมันดิบเบรนท์และเวสต์เทกซัสปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย หลังตลาดยังคงได้รับแรงหนุนจากการปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปคพลัส (OPEC+) รวมทั้งรายงานตัวเลขตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ที่ลดลงมากกว่าที่คาด ท่ามกลางความกังวลของตลาดที่ยังคงมีอยู่ในเรื่องของภาวะเศรษฐกิจถดถอย
+ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากรายงานของเบเคอร์ ฮิวจ์ส (Baker Huges) ผู้ให้บริการแท่นขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐฯ ที่ระบุว่าจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันจะลดลง 2 แท่นสู่ระดับ 590 แท่นในสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นการลดลงเป็นสัปดาห์ที่สองติดต่อกัน
+ สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ (EIA) รายงานสต็อกน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 31 มี.ค. 66 ปรับตัวลดลง 3.7 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 470.0 ล้านบาร์เรล โดยลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะปรับตัวลดลง 2.3 ล้านบาร์เรล
+ นักลงทุนยังคงจับตาตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯประจำเดือน มี.ค. 66 ในวันศุกร์นี้ โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้นเพียง 238,000 ตำแหน่ง หลังจากพุ่งขึ้น 311,000 ตำแหน่งในเดือน ก.พ. 66 และคาดว่าอัตราการว่างงานจะทรงตัวอยู่ที่ระดับ 3.6% ในเดือน มี.ค. 66
ราคาน้ำมันเบนซิน
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวเพิ่มขึ้นสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังรายงานตัวเลขสต็อกน้ำมันเบนซินของสหรัฐฯ เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ปรับตัวลดลงกว่า 4.2 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ระดับ 222.6 ล้านบาร์เรล
ราคาน้ำมันดีเซล
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังโรงกลั่นน้ำมันในเกาหลีใต้เตรียมจำกัดการส่งออกน้ำมันดีเซลในเดือน เม.ย. 66 เพื่อรองรับอุปสงค์ภายในประเทศที่เพิ่มขึ้น หลังรัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ รวมถึงมาตรการลดภาษีน้ำมันเชื้อเพลิง ส่งผลให้อุปสงค์ภายในประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้น