NSL - เสริมการเติบโตด้วยพันธมิตร และ สินค้าใหม่

NSL - เสริมการเติบโตด้วยพันธมิตร และ สินค้าใหม่

ประเด็นสำคัญจาก Opportunity day บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโต 17.5% สำหรับ 2023 - ผู้บริหารคาดรายได้ปีนี้ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 4,700 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2022 ที่ 4,001 ล้านบาท

โดยเติบโตขึ้น 11%yoy จากสินค้าหลักในกลุ่มเบเกอรี่และอาหารรองท้อง (สัดส่วน 91% ของรายได้) ที่ได้อนิสงค์ของการฟื้นตัวและการขยายสาขาของ 7-eleven ส่วนกลุ่มสินค้านอก 7-eleven อย่างสินค้าแบรนด์ NSL, food service และ OEM คาดเติบโตอย่างก้าวกระโดด +83.8% 

 

พันธมิตร และ สินค้าใหม่เป็นส่วนเสริมที่ดีสำหรับปีนี้ – ในช่วง 2Q22 ได้เริ่มจำหน่ายสินค้า “ข้าวแท่ง” พร้อมทำการตลาด เปิดสาขาในห้างสรรพสินค้า และสถานีรถไฟฟ้า ปัจจุบันมี 4 สาขา และคาดเริ่มติดตั้งตู้กดสินค้าตั้งแต่เดือนเม.ย. เป็นต้นไป ทางด้านการผลิตเบเกอรี่ได้จับมือกับพันธมิตรใหม่อย่าง Bake A Wish ซึ่ง NSL จะกลายเป็นซัพพลายเออร์หลักในฐานะผู้ผลิตเบเกอรี่สำหรับ Bake A Wish (ปัจจุบันมี 84 สาขา) ซึ่งจะทำให้รายได้ของ NSL ในส่วน non 7-eleven เติบโตอย่างก้าวกระโดด

ยังควบคุมอัตรากำไรได้ดี – ต้นทุนสินค้าที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นตั้งแต่ 2Q22 ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นปรับลดลงจาก 19.2% ใน 2Q22 มาอยู่ที่ 18.2% ใน 4Q22 ส่วนผลกระทบของราคาน้ำมันทำให้สัดส่วนค่าใช้จ่ายในการขนส่งเพิ่มขึ้นเป็น 56.4% ของค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร เพิ่มขึ้นจากค่าเฉลี่ยปี 2021 ที่ 48% แต่อย่างไรก็ตามจากการที่ NSL มีการควบคุมการใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพทำให้ SG&A to sales ใน 4Q22 อยู่ที่ 9% ลดลงจาก 10.1% ใน 4Q21 และ 9.5% ใน 3Q22 และอัตรากำไรสุทธิใน 4Q22 เพิ่มขึ้นเป็น 7.3% จาก 4Q21 ที่ 5.2% และ 7.1% ใน 3Q22

 

Analysis

แนวโน้มการเติบโตน่าติดตาม - เรามีมุมมองเชิงบวกต่อ NSL จาก 1. การฟื้นตัวของรายได้จากพันธมิตรที่แข็งแกร่งอย่าง CP 2. ความสามารถในลดต้นทุน และค่าใช้จ่ายที่ยังทำให้อัตรากำไรสุทธิทรงตัวได้ดี และ 3. แผนการพัฒนาสินค้า และการร่วมมือกับพันธมิตรรายใหม่ที่จะส่งผลต่อแนวโน้มการเติบโตในอนาคต ราคาเป้าหมาย IAA Consensus อยู่ที่ Bt27.5 ต่อหุ้น (BUY / HOLD / SELL: 4 / 0 / 0)