วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (19 พ.ค. 66)
ราคาน้ำมันดิบปรับลด หลังค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าสุดในรอบ 2 เดือน
ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคาน้ำมัน
- ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส และ ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ปรับตัวลดลง หลังค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ปรับตัวแข็งค่าสุดในรอบ 2 เดือน ส่งผลให้สัญญาน้ำมันดิบที่ซื้อขายกันในเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ มีราคาแพงขึ้น และน่าสนใจน้อยลงสำหรับนักลงทุนที่ถือเงินสกุลอื่น
- ตลาดแรงงานสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่ง หลังกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เผยยอดผู้ขอรับสิทธิประโยชน์จากการว่างงานสิ้นสุด ณ วันที่ 13 พ.ค. ปรับลดลง 22,000 ราย ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ สู่ระดับ 242,000 ราย ส่งผลให้ตลาดเพิ่มน้ำหนักมากขึ้นที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.25% สู่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมครั้งถัดไป
- เจ้าหน้าที่ระดับสูงของธนาคารกลางยุโรป (ECB) กล่าวว่า ECB จะเดินหน้าขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ที่ระดับเป้าหมายที่ 2% จากระดับปัจจุบันในเดือน เม.ย. 66 ที่ 7.0% โดยตลาดคาดว่า ECB จะปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มอีกครั้งละ 0.25% ในการประชุมสองครั้งถัดไป
ราคาน้ำมันเบนซิน
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับเพิ่มขึ้นมากกว่า ราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 12 พ.ค. 66 ปรับตัวลดลง 1.38 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 218.3 ล้านบาร์เรล ขณะที่ตลาดคาดปริมาณการนำเข้าน้ำมันเบนซินของอินโดนีเซียมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นในเดือน มิ.ย.
ราคาน้ำมันดีเซล
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังของฟูไจราห์ ประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 15 พ.ค. 66 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 35 % สู่ระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือน